Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1239

หลินสวินเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าการเผ่นหนีครั้งนี้จะไม่ถูกบุตรนรกไล่ตามมา แต่ดันตกอยู่ในเงื้อมมือกู่ฝอจื่อแทน

คิดถึงตรงนี้ในใจหลินสวินก็มีความเคียดแค้นทะลักขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก!

ตั้งแต่สิบแปดศิษย์อารามกษิติครรภ์เรื่อยมาจนถึงกู่ฝอจื่อ ไม่มีใครไม่เห็นตนเป็นคนนอกรีต พยายามทุกวิถีทางเพื่อเล่นงานและโจมตีตน นี่มันข่มเหงรังแกกันเกินไปแล้วชัดๆ

หลินสวินไม่ใช่อริยะที่ไร้ความรู้สึกทางโลก ถูกคนปฏิบัติเช่นนี้ไม่หยุดหย่อน จะไม่ให้โกรธไม่ให้เกลียดได้อย่างไร

‘บัญชีนี้ ต้องชำระด้วยเลือด!’

หลินสวินลอบกัดฟันกรอดกับตัวเอง

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ บังคับตัวเองให้ข่มความแค้นนี้เอาไว้ สงบสติอารมณ์ลง

ตอนนี้สถานการณ์ของเขาเสี่ยงอันตรายไร้ใดเปรียบ บริเวณข้อเท้าถูกฝ่ามือใหญ่สีขาวซีดกุมเอาไว้ สลัดออกไม่ได้สักนิด

ยิ่งกว่านั้นพร้อมๆ กับที่ร่างกายจมลงในแม่น้ำสีโลหิตขุ่น หลินสวินรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามีเจตจำนงอันเยียบเย็นและเกรี้ยวกราดสายหนึ่งพัดกระหน่ำกังขังตนไว้จากสี่ทิศแปดทาง

อันตรายถึงตายไหลท่วมท้นหัวใจหลินสวิน รู้สึกบีบคั้นจนแทบหายใจไม่ออก ร่างกายแข็งทื่อ

นับตั้งแต่เหยียบย่างบนระดับมกุฎราชันเรื่อยมา เขายังไม่เคยพบเจอเรื่องราวที่อันตรายและอัปมงคลเช่นนี้มาก่อน!

แม่น้ำนรก ทำให้ผู้คนไม่กล้าก้าวล่วงแม้แต่ก้าวเดียว

แต่ยามนี้ตนกลับถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งถ่วงเอาไว้ จมดิ่งลงไปนั้น!

เขาเคยลองแล้ว ใช้ความคมกริบของดาบหักยังไม่สามารถสั่นคลอนฝ่ามือใหญ่ขาวซีดนั่นได้

สิ่งที่อันตรายที่สุดคือ ก่อนหน้านี้ที่เขาต่อสู้กับบุตรนรก ได้ใช้กระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้และวสันต์สารทชั่วพริบตา แม้จะกำราบบุตรนรกได้ แต่กลับสิ้นเปลืองพลังกายไปกว่าครึ่ง

แต่จากนั้นก็ดันถูกกู่ฝอจื่อซุ่มโจมตี ตอนนี้ตกอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว

ยุ่งแล้ว!

หลินสวินขมวดคิ้ว ไม่อาจสนใจอย่างอื่น คว้าโอสถราชันขึ้นมาหลายต้นแล้วยัดใส่ปาก กลั่นหลอมพลังทั้งหมด ใช้วิธีนี้รักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

ตูม!

แรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ เบื้องล่างแม่น้ำนรกนี้ขุ่นมัวไร้ใดเปรียบ พอจะเห็นได้รางๆ ว่ามีซากศพโครงกระดูกร่างแล้วร่างเล่าลอยผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในนั้น

และพร้อมกันนั้นก็มีกลิ่นอายเยียบเย็นและดุกร้าวต่างๆ นานาแผ่ครอบลงมา

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันรุนแรงให้กับร่างกายและหัวใจของหลินสวิน ทั้งตัวราวกับตกอยู่ในสภาพใกล้จมน้ำตาย แม้แต่จะยกแขนข้างหนึ่งขึ้นยังยากเย็นอย่างเห็นได้ชัด

จนกระทั่งต่อมาก็มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เลือดเจิ่งนองทั้งแถบ

ความหนาวเย็น กดดัน แปลกพิศวง อัปมงคล… กลิ่นอายต่างๆ นานาผสมผสานกันพาให้จิตรับรู้ของหลินสวินได้รับการโจมตีอย่างใหญ่หลวง เปลี่ยนเป็นคลุมเครือ

ในช่วงเลือนรางราวกับมีเสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้นเป็นระลอก และเหมือนกับมีเสียงโหยหวนของวิญญาณอาฆาตดังก้องอยู่

มีเสียงทอดถอนใจด้วยความโศกเศร้าของอริยะ

มีเสียงร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่งเกรี้ยวกราดของเทพมาร

…หลินสวินรู้สึกแค่ว่าสมองสับสนอลหม่าน วิงเวียนและคลุมเครือ ถึงขั้นที่ผุดเศษเสี้ยวภาพแปลกประหลาดบางส่วนขึ้นมาเป็นครั้งคราว

มีภูเขาศพทะเลเลือด มีฝนเลือดสาดพรม มีเงาร่างของเทพ มาร ผี อริยะ ปีศาจ… ร้อยแปดพันเก้ากำลังร้องคำรามลั่นเข้าโรมรันกัน

ต่อมาทุกอย่างล้วนเปลี่ยนเป็นบางเบาและห่างหาย

ภาพที่สับสนภาพแล้วภาพเล่าค่อยๆ กลายเป็นความมืดมิดอันไร้สิ้นสุด

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ทันใดนั้น…

แสงโคมลายพร้อยสีเหลืองนวลสายหนึ่งปรากฏขึ้น ส่องสว่างความมืด พาให้สติที่จมจ่อมของหลินสวินค่อยๆ รวมกลับมาทีละน้อย

หลังจากนั้นพลันสั่นสะเทือนรุนแรง กลับคืนสู่การรู้ตื่นอีกครา

โคมน้ำมันโคมหนึ่งตั้งอยู่บนพื้นด้านข้างตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แผ่เงาโคมสีเหลืองนวลแถบหนึ่งออกไปครอบคลุมบริเวณที่หลินสวินอยู่

เงาโคมมีขนาดเล็กยิ่ง คล้ายร่มสีเหลืองนวลคันหนึ่ง ได้แค่แผ่ครอบพื้นที่แค่คืบรอบตัวหลินสวินเท่านั้น ถัดออกไปอีกก็มีแต่แม่น้ำอันเวิ้งว้าง

แม่น้ำนี้มืดสนิทราวกับหมึก!

โคมไร้มลทิน!

สติของหลินสวินค่อยๆ กลับมาแจ่มใส จำสมบัติที่ฝีพายโครงกระดูกมอบให้ได และตระหนักได้ว่าตนถูกโคมนี้ช่วยชีวิตเอาไว้

หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ หยั่งรู้อย่างถี่ถ้วน

ภายในพื้นที่คับแคบที่เงาโคมสีเหลืองนวลปกคลุมไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด ให้ความรู้สึกราบเรียบมั่นคง และพาให้จิตใจผู้คนสงบ

แต่เมื่อจิตรับรู้พุ่งออกนอกเงาโคม พริบตานั้นกลิ่นอายเย็นเยียบรุนแรงอันน่าสะพรึงก็พุ่งกระหน่ำเข้ามาราวกับภูเขาถล่มคลื่นยักษ์ซัดสาด!

ในกระแสน้ำที่เหมือนความมืดมิดนั้น กำลังยื้อยุดและกลืนกินผู้คนประหนึ่งภูตผีปีศาจที่จำศีลอยู่นับไม่ถ้วน!

หลินสวินเรียกจิตรับรู้กลับมา ข้างหูราวกับมีเสียงโหยหวนเยียบเย็นกราดเกรี้ยวดังก้อง ทำให้หัวใจของเขายิ่งหวาดหวั่น สีหน้าชักเริ่มไม่น่าดูขึ้นมา

นี่คือก้นแม่น้ำนรกอย่างไม่ต้องสงสัย!

เพียงแต่ว่าแม่น้ำสีโลหิตข้นนั้น ได้กลายเป็นสีดำสนิทที่พาให้ผู้คนหดหู่เรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งหากไม่มีโคมไร้มลทิน ผลที่ตามมาย่อมไม่อาจคาดคิดแน่นอน!

หลินสวินสูดหายใจลึก ครุ่นคิดเงียบๆ อยู่นาน ก่อนสลัดความคิดฟุ้งซ่านและเริ่มนั่งสมาธิ

บริเวณรอบๆ เงียบสนิท แม้แต่เสียงน้ำไหลล้วนไม่ได้ยิน ความมืดมิดแผ่คลุมทุกหนแห่ง พาให้ผู้คนรู้สึกหายใจลำบาก

ทว่าหลินสวินไม่รู้สึกต่อสิ่งนี้ด้วยซ้ำ

หนึ่งวันผ่านไป

อาการบาดเจ็บทั่วร่างฟื้นคืน หลินสวินกลับสู่สภาวะสูงสุดตามเดิมอีกครั้ง รู้สึกเพียงว่าหูตากระจ่างใส สติโปร่งโล่งแจ่มชัด มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอด

เขาทอดสายตามองไปทางโคมไร้มลทินที่อยู่ข้างๆ

ไส้โคมของมันคล้ายเมล็ดถั่ว เงาแสงสีเหลืองนวลส่ายพลิ้วออกมาให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ผู้คน

ตัวโคมเป็นสีคร่ำคร่าเทาหม่นๆ คล้ายเหล็กกล้าที่ผ่านการตีหลอมมาชั่วนาตาปี กลิ่นอายผ่านกาลเวลาอันเนิ่นนานลอยปะทะใส่หน้า

ในตอนนั้น ฝีพายโครงกระดูกแขวนสิ่งนี้ไว้บนเรือเล็กสีดำเพื่อข้ามแม่น้ำนรก

หลินสวินยื่นมือไปจับโคมนี้เอาไว้ หมายจะหยิบยืมพลังแห่งโคมนี้ออกไปจากแม่น้ำนรก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์