มกุฎมรรคาที่หลินสวินก้าวเดิน ไม่เคยปรากฏมาก่อน
แม้แต่ตอนทะลวงขอบเขตเลื่อนสู่ระดับมกุฎราชัน ก็ต้องเข้าถึงมรรคด้วยตัวเอง เป็นฝ่ายชักนำเคราะห์สวรรค์เอง!
เพราะฉะนั้นด่านเคราะห์ของเขาย่อมไม่เหมือนกับระดับมกุฎราชันคนอื่น
ในช่วงสองปีนี้ที่รอคอยอยู่ใต้แม่น้ำนรก หลินสวินกลับไม่ได้ทำเพื่อรอให้เคราะห์สวรรค์มาเยือน แต่รอโอกาสเข้าถึงมรรคที่เป็นของตนต่างหาก
น่าเสียดาย โอกาสนี้ไม่เคยมาถึงเลยสักครา
แต่ยามนี้หลินสวินไม่คิดจะรอคอยต่อไปอีกแล้ว
หืม?
เพียงแต่เมื่อหลินสวินหยัดตัวลุกขึ้นจากพื้น ยามสายตามองไปทางโคมไร้มลทินสีเหลืองนวลโคมนั้น พลันประหนึ่งถูกอสนีบาต ตระหนักถึงปัญหาข้อหนึ่งได้ทันควัน
โคมนี้ ค้ำยันเปิดฟ้าดินขนาดย่อมผืนหนึ่งให้ตนในหลายปีมานี้ คอยปกป้องตนไม่ให้ประสบกับการซุ่มโจมตีของพลังประหลาดในแม่น้ำนรก
แต่ในสภาพไร้รูปร่างนี้ กลับทำให้จิตมรรคของตนเกิดการพึ่งพามัน!
มักคิดว่ามีโคมนี้อยู่ชีวิตของตนย่อมไร้กังวล สามารถคิดหาทุกวิถีทางเพื่อหลุดพ้นได้อย่างสวัสดิภาพ
กลับลืมไปว่าโคมไร้มลทินท้ายที่สุดก็เป็นเพียงสมบัติ เป็นของนอกกายชิ้นหนึ่ง!
เมื่อฝากความหวังด้านความปลอดภัยของตนไว้กับของนอกกาย ยังมีหน้าพูดถึงการยืนบนมหามรรคด้วยวิถีของตัวเองได้อีกหรือ
แล้วยังจะมีหน้าพูดถึงโอกาสเข้าถึงมรรคอีกหรือ
นี่ เดิมทีก็ขัดต่อมรรคาที่ตนแสวงหาแล้ว!
ชั่วขณะนั้นหลินสวินราวกับถูกตะบองตีแสกหน้า ทั้งเหมือนทุบลูกกลอนและอุปสรรคที่กั้นขวางในใจ รู้แจ้งอย่างสิ้นเชิง
หมายจะเข้าถึงมรรคแห่งตน ย่อมต้องเข้าถึงด้วยตัวเอง!
หลินสวินเงยหน้าขึ้นขวับ มองไปทางแม่น้ำสีดำมืดมิดนอกเงาโคมสีเหลืองนวล ที่ตรงนั้นน่าหวาดกลัวและอันตรายแผ่คลุมทุกอณู
แต่ยามนี้หลินสวินไม่กรงกลัวอีกแล้ว
ตูม!
เขาก้าวย่างอย่างเด็ดเดี่ยวออกไปยังนอกเขตเงาโคม ชั่วขณะนั้นเจตจำนงเย็นเยียบ อำมหิต และน่าหวาดกลัวสายแล้วสายเล่าเคลื่อนขวางเข้ามา
แม่น้ำสีดำมืดแห่งนี้เดือดพล่านโดยพลัน ราวกับมีภูตผีปีศาจพันหมื่นตื่นขึ้น ทอดสายตาจับจ้องมาจากที่ไกลๆ
ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณของหลินสวินต่างสั่นไหว ลมหายใจยังแทบหยุดนิ่ง รับรู้ถึงความน่ากลัวและอันตรายใหญ่หลวงที่ไม่เคยมีมาก่อน
เพียงพริบตา หลินสวินยังสัมผัสได้ชัดเจนว่าเงาแห่งความตายแผ่ครอบลงมา!
เพียงแต่กลางนัยน์ตาดำลุ่มลึกของเขากลับมีจิตต่อสู้ลุกโชนร้อนแรง นั่นคือเจตจำนงอันผงาดกร้าว มั่นใจในตัวเอง และไร้เทียมทาน
เป็นบุคลิกยิ่งใหญ่ไม่ย่อท้อ กล้าหาญอุตสาหะเปี่ยมล้น!
สู้!
ในใจราวกับมีมารเทพกำลังร้องตะโกน
หลังผ่านการเคี่ยวกรำมาสี่ปี หลินสวินในขณะนี้ปลดปล่อยพลังรอบตัวทั้งหมดออกมาอย่างถือดี บรรลุขั้นสูงสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
โครมครืน!
ทั้งตัวประดุจเหวลึกที่ปรากฏอยู่ใต้แม่น้ำ มันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต มันลึกไร้สิ้นสุด กึกก้องสนั่นหวั่นไหว
น้ำ ไฟ เจินหลง ไร้มรณะ ยอดเอกอุ… พลังทั้งหมดที่บรรลุปรากฏกลางเหวลึก ไหลเวียนออกมาเป็นความงดงามไร้เทียมทาน แสงมรรคไพศาลส่องประกาย
ชั่วขณะนั้นดุจดั่งเทพองค์หนึ่งปรากฏตัวที่ก้นแม่น้ำนรกอันดำมืด!
……
แม่น้ำนรกไร้สิ้นสุด ไม่รู้ต้นกำเนิด ไม่รู้จุดจบ น้ำสีเลือดแดงฉานพลิกม้วน เปี่ยมด้วยกลิ่นอายพิศวงและอัปมงคล
เพียงแต่วันนี้กลับไม่เหมือนที่ผ่านมา บนเวิ้งฟ้าตรงนั้นปรากฏเมฆดำหนาทึบชั้นหนึ่งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แผ่ครอบเหนือห้วงอากาศของแม่น้ำนรก
กลิ่นอายด่านเคราะห์ที่ไพศาลบีบคั้นคละคลุ้งแผ่กระจายออกมาพร้อมกัน พลังระดับนี้ทำให้แม่น้ำนรกสีโลหิตยังตกสู่ความสั่นคลอน พลุ่งพล่านโครมครืนขึ้นมา
เมฆดำรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว ปกคลุมทั่วเวิ้งฟ้าอย่างสมบูรณ์ พาให้ฟ้าดินแถบนี้จมสู่ความมืดมิดอันลึกล้ำ บีบคั้นจนผู้คนหายใจไม่ทั่วท้อง
นี่คือเคราะห์สวรรค์ที่ใกล้มาเยือนครั้งหนึ่ง!
เปรี๊ยะ!
ฉับพลันในส่วนลึกของเมฆาเคราะห์มีประกายสายฟ้าสีเงินยวงสว่างวาบ ราวกับดาบยาวคมกริบ สว่างจ้าไร้ทัดเทียม เผยกลิ่นอายทำลายล้างโลก
กลางแม่น้ำนรกพลังประหลาดนั้นเริ่มรับรู้ถึงความหวาดกลัวและกริ่งเกรง ชั่วขณะนี้เจตจำนงที่ไม่รู้รั้งอยู่มาเนิ่นนานเท่าไรเริ่มหลบเลี่ยงด้วยความลนลาน
เคราะห์สวรรค์ เป็นตัวแทนเจตจำนงแห่งฟากฟ้า มีหรือจะปล่อยให้ภูตผีปีศาจรอดชีวิต
ครืน!
เสียงฟ้าคำรามเริ่มดังก้องอยู่ในส่วนลึกของเมฆาเคราะห์ หนักทึบเหมือนเทพอสนีลั่นกลองรบ ชวนตระหนกอกสั่น สะท้านสะเทือนสิบทิศ
ใต้แม่น้ำนรกแห่งนี้ เสียงกรีดร้องโหยหวนชวนให้คนหนังศีรษะชาวาบดังขึ้นเป็นระลอก ราวกับเป็นเสียงกรีดร้องตกใจกลัวของผีร้ายวิญญาณอาฆาต
แม่น้ำนรกสีเลือดแถบนี้เหมือนกับหม้อต้มน้ำร้อนกำลังเดือดพล่านก็ไม่ปาน เกลียวคลื่นโหมกระหน่ำ กระแสน้ำม้วนตัว สั่นเทือนเลื่อนลั่นอย่างที่สุด
ใต้แม่น้ำนรกรอบตัวหลินสวินอาบไล้แสงมรรคเจิดจรัส เงยหน้าขึ้นขวับกล่าวพึมพำว่า “ด่านเคราะห์ของข้า มาแล้ว…”
ยังไม่ทันสิ้นสุดเสียง ตัวเขาก็ห้อทะยานขึ้นไปแล้ว
และสิ่งที่จากไปพร้อมกับเขา ก็ยังเป็นโคมไร้มลทิน
……
สวบ!
เหนือแม่น้ำนรก เงาร่างพร่างพราวสายหนึ่งโฉบพุ่งออกมา ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ใต้เมฆาเคราะห์สีดำหนาทึบ อาภรณ์โบกสะบัด เรือนผมสีดำแผ่สยายบ้าคลั่ง
ถูกจองจำสี่ปี และยามนี้ชักนำมาซึ่งโอกาสเข้าถึงมรรค ปรากฏกายต่อโลกอีกครา!
เพียงแต่หลินสวินไม่อาจได้ตื่นเต้นและซึมซาบ
เพราะมหาอมตะเคราะห์เบื้องหน้าบีบเข้ามาจวนตัวแล้ว!
ตูม!
กลางเมฆาเคราะห์ปั่นป่วน อสนีบาตสนั่นหวั่นไหว สะเทือนจนโลกหล้าปั่นป่วน แม่น้ำเดือดพล่าน ห้วงอากาศโกลาหล แปรปรวนจวนจะพังครืนลงมา
พื้นที่ทั่วสิบทิศถูกอานุภาพสวรรค์แผ่ครอบโดยสิ้นเชิง
‘นี่… คงไม่ใช่สามด่านเคราะห์มาพร้อมกันหรอกกระมัง’
ทันใดนั้นนัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัด สีหน้าตื่นตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์