Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1249

นัยน์ตาเจิ้นอวิ๋นเฟิงฉายแววเยียบเย็นทันที กวาดมองพวกจี้ซิงเหยาวูบหนึ่งแล้วกล่าวเย็นชา “ต่อให้หลินสวินยังมีชีวิตก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้ อย่าลืมสิว่าเขาจำศีลหัวโล้นนี่ถูกขุมอำนาจแดนนรกของข้าล้อมไว้แล้ว!”

พวกจี้ซิงเหยาหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

จากคำพูดของเจิ้นอวิ๋นเฟิงก่อนหน้านี้ ครั้งนี้แดนนรกเคลื่อนพลขุนพลสี่คนและผู้คุมกฎแปดคน นี่เป็นพลังที่สามารถทำให้ใครก็ตามใจสั่นสะท้าน

ผู้ที่สามารถเป็นขุนพลได้ ล้วนแต่เป็นบุคคลร้ายกาจที่ก้าวสู่อมตะเคราะห์ด่านสาม

เหมือนอย่างเจิ้นอวิ๋นเฟิง สัตว์ประหลาดยุคโบราณผู้น่าเกรงขามที่มาจากจวนเทพขุมทมิฬแห่งแดนเร้นอริยะ แต่ตอนนี้ยังได้แค่จัดอยู่ในสิบสองขุนพลแดนนรก

ส่วนผู้คุมกฎของแดนนรกนั้น แม้จะด้อยกว่าขุนพลอยู่บ้าง แต่ก็เป็นมกุฎราชันที่ข้ามผ่านอมตะเคราะห์เช่นกัน พลังต่อสู้ไม่อาจดูหมิ่นได้ง่ายๆ!

สามารถพูดได้อย่างไม่โอ้อวดแม้แต่น้อย ว่าอาศัยพลังที่ปิดล้อมอยู่ใกล้เขาจำศีลหัวโล้นตอนนี้ ก็เพียงพอทำให้เหล่าผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาสิ้นหวัง!

และต่อให้หลินสวิน… ยังมีชีวิตอยู่จริง แต่สุดท้ายก็ตัวคนเดียว การปรากฏตัวของเขามีหรือจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของเขาจำศีลหัวโล้นได้

นึกถึงตรงนี้ความหวังเสี้ยวหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในใจพวกจี้ซิงเหยาเมื่อครู่ก็มืดสลัวลงเช่นนี้ ใจตกไปที่ตาตุ่มกันหมด

เวลานี้เจิ้นอวิ๋นเฟิงสงบสติอารมณ์กลับมาแล้ว เห็นการตอบสนองของทุกคนอยู่ในสายตา ในใจอดยิ้มเย็นไม่ได้ สู้กับแดนนรกรึ

เอาไข่ไปกระทบหิน!

“ไป พวกเราลองไปดูกันว่าใช่เจ้าหลินสวินนั่นหรือไม่”

เจิ้นอวิ๋นเฟิงหันหลังก้าวออกไป

อิ๋นเสวี่ยรีบตามไปทันที

จี้ซิงเหยาและโม่เทียนเหอสบตากันวูบหนึ่งแล้วต่างทอดถอนใจ

“ไปดูกันเถอะ หากเป็นหลินสวินจริงก็รีบเตือนเขาให้จากไป เรื่องของเรือนกระบี่เร้นปุจฉาของเรา ไม่อาจให้เขาติดร่างแห”

โม่เทียนเหอกล่าวเสียงขรึม

จี้ซิงเหยาพยักหน้า

เดิมทีการทราบข่าวว่าหลินสวินยังมีชีวิตน่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้จี้ซิงเหยากลับดีใจไม่ออก

เขาจำศีลหัวโล้นสูงหลายพันจั้ง ลักษณะภูเขาสูงชันตั้งตระหง่าน

เวลานี้หลินสวินยืนอยู่ตรงเชิงเขา เงยหน้าสำรวจเขาจำศีลหัวโล้นอยู่ครู่ใหญ่แล้วกล่าวว่า “บอกข้ามา พวกเจ้ามาคราวนี้ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่”

“เอ่อ”

สีหน้าจั่นลู่ซิวที่อยู่ข้างๆ ปรวนแปรลังเลไม่หยุด

ตอนนั้นที่เขตต้องห้ามแม่น้ำนรก หลินสวินเคยมอบเพลิงมรรคต้นกำเนิดให้เขาและอิ๋นเสวี่ยคนละดวง ทำให้เขาซาบซึ้งใจมาจนถึงวันนี้

แต่ตอนนี้เขากลับไม่อาจเผชิญหน้าหลินสวินอยู่บ้าง

“บริเวณนี้มีผู้แข็งแกร่งไม่น้อยซุ่มอยู่ ข้ารู้สึกได้ว่าพวกเขามุ่งร้ายต่อการมาของข้าอย่างเด่นชัด”

นัยน์ตาดำล้ำลึกของหลินสวินจ้องมองจั่นลู่ซิวเงียบๆ

จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งระดับใด ชั่วพริบตาก็จับได้ว่าบริเวณใกล้เคียงนี้มีความผิดปกติมากมาย

“พี่หลิน ฟังข้าแนะนำสักประโยค เจ้าน่ะรีบไปจากที่นี่เถอะ ตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว มีเรื่องมากมายที่เจ้าไม่เข้าใจ”

จั่นลู่ซิวก้มหน้า ไม่กล้าสบตาหลินสวิน

ส่วนเรื่องที่เจิ้นอวิ๋นเฟิงสวามิภักดิ์ต่อแดนนรกนี้ เขายากจะเอ่ยปากอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าควรอธิบายกับหลินสวินอย่างไร

“หลีกไป”

ในดวงตาหลินสวินพลันฉายแววเย็นเยียบ ทำเอาจั่นลู่ซิวตกใจจนสั่นไปทั้งตัว

เขารีบร้อนกล่าว “พี่หลิน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม เขาจำศีลหัวโล้นนี้ถูกล้อมไว้หมดแล้ว เจ้าเข้าไปตอนนี้จะอันตรายยากคาดเดา”

พูดจบใจเขาก็สะดุดกึก ลอบอุทานว่าแย่แน่ เมื่อเงยหน้ามองไปก็เห็นสีหน้าของหลินสวินเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นขึ้นมาดังคาด

“เห็นแก่มิตรภาพในอดีต ข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้า ตอนนี้หลีกไปซะ!”

น้ำเสียงหลินสวินราบเรียบ แต่กลับมีอานุภาพสะท้านใจคนโดยปริยาย ทำเอาจั่นลู่ซิวหนาวสั่นไปทั้งตัว หลีกทางตามจิตใต้สำนึก

“กล้ามากนักนะ!”

แต่พร้อมกันนี้เสียงตวาดราวฟ้าคำรามก็ดังขึ้น

ที่มาพร้อมกันคือเงาร่างที่พุ่งทะยานออกมา ทั่วร่างราวกับเปลวไฟโหมกระหน่ำ แผ่ลักษณะพลังดุดันหาใดเปรียบออกมา

นี่คือชายหนุ่มหน้าตาดุดันสวมชุดคลุมเพลิงคนหนึ่ง

จั่นลู่ซิวหน้าเปลี่ยนสีร้องตกใจ “ผู้คุมกฎเสวี่ยเฟิง โปรดยั้งมือด้วย!”

เสวี่ยเฟิงหนึ่งในสามสิบหกผู้คุ้มกฎแดนนรก ยอดบุคคลเผ่าอินทรีเพลิงวิญญาณหิมะ นิสัยบ้าเลือด ฝีมือเหี้ยมโหดอย่างยิ่ง มีพลังต่อสู้ในขั้นอมตะเคราะห์ด่านสอง

“เจ้านับเป็นตัวอะไร มีสิทธิ์มาสั่งข้ารึ”

น้ำเสียงเสวี่ยเฟิงเย็นชา คร้านจะใส่ใจจั่นลู่ซิวแต่แรก ทันทีที่พุ่งออกมา นิ้วมือดุจดาบผ่าแหวกไปทางหลินสวินเต็มแรง

ทว่าตอนนี้เงาร่างหลินสวินกลับอันตรธานหายไป

หืม?

เสวี่ยเฟิงชะงัก

กร๊อบ!

พร้อมกันนี้มือใหญ่ข้างหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังแล้วขยำคอเขาจนละเอียด ตายคาที่ทันที

จั่นลู่ซิวอึ้งงันไปแล้ว

ในครรลองสายตาเขา หลินสวินแค่วูบหายไป เพียงขยับมือก็สังหารเสวี่ยเฟิงตายแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบเสวี่ยเฟิงยังไม่ทันได้ตอบสนองด้วยซ้ำ!

ง่ายดายเกินไปแล้ว ราวกับขยี้มดปลวกตัวหนึ่ง

เมื่อมองไปยังหลินสวินอีกครั้ง แววตาของจั่นลู่ซิวก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

นั่นเป็นถึงมกุฎราชันอมตะเคราะห์ด่านสองคนหนึ่ง แต่เพียงพริบตาก็ถูกหลินสวินกำจัด!

“เฮ้ย!”

“ฝีมือเหี้ยมโหดนัก!”

“ดูท่าแล้วคงเป็นเทพมารหลินจริงโดยไม่ต้องสงสัย คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขายังมีชีวิตอยู่”

เสียงอึกทึกระลอกหนึ่งพลันดังขึ้นทั่วทิศ

ก็เห็นเงาร่างมากมายก้าวออกมาจากความมืด รวมตัวกันแน่นขนัด มีอยู่หลายสิบคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์