เหล่ายอดฝีมือในลานล้วนสัมผัสได้ถึงพลังต่อสู้อมตะเคราะห์ด่านสี่ของกู่ฝอจื่อนานแล้ว
มิหนำซ้ำตัวเขามาจากอารามกษิติครรภ์ ครอบครองมรดกวิชาชั้นสูงและสมบัติลับ ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ไม่ด้อยไปกว่าบุตรนรกแน่นอน ถึงขั้นอาจแข็งแกร่งกว่า!
เวลานี้เขาใช้พลังทั้งหมดหมายจับจี้ซิงเหยาเป็นตัวประกัน แน่นอนว่าย่อมไม่ยั้งมือ
กล่าวอย่างไม่เกินจริงได้ว่า หากเป็นช่วงเวลาปกติ ไม่ต้องเอ่ยถึงจี้ซิงเหยา หากเปลี่ยนเป็นบุคคลชั้นยอดคนอื่นๆ ในลาน เกรงว่าล้วนไม่อาจขัดขวางการโจมตีอันมุ่งมาดนี้ของกู่ฝอจื่อ
แต่ภาพแปลกพิสดารหนึ่งก็เกิดขึ้น ระหว่างที่อยู่กลางทาง พลังกฎระเบียบลายมรรคอันไร้รูปร่างผุดขึ้นมาเป็นสายๆ ตัดพันพาดผ่านพันธนาการร่างของกู่ฝอจื่อ
จากนั้นบีบรัดอย่างแรง!
เสียงตึงดังขึ้น สัตว์ประหลาดยุคโบราณแห่งอารามกษิติครรภ์ที่เร้นลับผู้นี้ ถูกกำราบกับพื้น!
ในใจทุกคนล้วนตะลึงงัน สูดหายใจหนาวสะท้าน
นี่ก็คือพลังของกระบวนค่ายกล แข็งแกร่งจนทำให้คนไม่กล้าเชื่อ ราวกับว่าแค่เพียงหลินสวินต้องการ เพียงความคิดไหวเคลื่อน ก็สามารถกำจัดศัตรูทั้งหมดในค่ายกลนี้ได้ทันที
ประหนึ่งนายเหนือหัวผู้กุมความเป็นตาย!
หลังผ่านพ้นความตกใจ ดวงตากระจ่างใสของจี้ซิงเหยาปรากฏโทสะรุนแรง เอ่ยว่า “นี่ก็คือผู้สืบทอดอารามกษิติครรภ์หรือ ถึงกับต่ำช้าและไร้ยางอายเช่นนี้!”
คนไม่น้อยเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
แต่ไหนแต่ไรกู่ฝอจื่อขึ้นชื่อเรื่องเร้นลับไร้ร่องรอย แทบไม่ทิ้งอะไรให้คนในใต้หล้าได้จดจำ
ทว่ายามเผยตัวครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อน ก็จัดวางแผนการทำลายหลินสวินจนถูกขังอยู่ใต้แม่น้ำนรก
แผนการล้ำลึกและโหดเหี้ยมเช่นนี้ ทำให้คนหวาดผวาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว
มาบัดนี้เขาเผยตัวอีกครา ก็ยังฉวยโอกาสยามหลินสวินอ่อนแรงเข้าจู่โจมดุดัน อีกทั้งวางแผนการต่างๆ ไว้อย่างดี หมายใช้ค่ายกลใหญ่สังหารหลินสวิน
เดิมทีแผนการชุดนี้ล้วนเรียกได้ว่างดงามไร้ที่ติ
แต่ใครเล่าจะคาดคิด หลินสวินกลับเหนือชั้นยิ่งกว่า สามารถวางกระบวนผนึกน่าสะพรึงทำลายแผนการทั้งหมดของกู่ฝอจื่อจนไม่มีชิ้นดี
หากเพียงเท่านี้ ภาพจำที่ทุกคนมีต่อกู่ฝอจื่อก็คงไม่ถึงขั้นเลวร้าย
ทว่ายามเขาออกโจมตีหมายจับจี้ซิงเหยาเป็นตัวประกัน พริบตานั้นก็ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณมากมายรู้สึกผิดหวัง
นี่ ยังเป็นผู้บำเพ็ญธรรมอยู่อีกหรือ
วิธีการอำมหิต จัดการเรื่องราวโดยปราศจากความกลัวเกรง ใช้ทุกวิธีการ ต่างอะไรกับพวกวิถีมารนอกรีต!
“เจ้านอกรีต เจ้าสมควรตาย!”
ทั่วร่างของกู่ฝอจื่อแสงธรรมโหดซัด ราวกับแปลงเป็นอรหันต์กราดเกรี้ยว ทำลายพันธการโดยพลันแล้วทะยานขึ้นสู่ฟ้า มือเขาถือบาตรดำใบหนึ่งพุ่งเข้าสังหารหลินสวิน
แม้ตกอยู่ในสภาพหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เขากลับเยือกเย็นมั่นคง ไร้ท่าทีตื่นตระหนก
ตูม!
บาตรพุ่งทะยานเวหา สาดพรมแสงธรรมหมื่นจั้ง ควบรวมเป็นฝ่ามือธรรมขนาดมหึมา แต่ละข้อนิ้วดุจเสาสูงเสียดฟ้า เปล่งประกายแสงเจิดจรัสไร้จำกัด
เรียกได้ว่ามือเดียวปิดคลุมฟ้า!
นี่คือวิชามรรคที่แข็งแกร่งและเลื่องชื่อที่สุดวิชาหนึ่ง หัตถ์ธรรมกษิติครรภ์!
หลินสวินท่าทีนิ่งเฉย เมื่อความคิดขยับไหว แส้ยาวโซ่เทพที่แวววาวโปร่งแสงเส้นหนึ่งร่วงลงมา ควบรวมมาจากพลังกฎเกณฑ์กระบวนผนึก
เสียงเพียะดังขึ้นครั้งหนึ่ง ฝ่ามือธรรมที่ปิดคลุมฟ้านั่นถูกฟาดแตก กลายเป็นละอองแสงแตกซ่านเต็มฟ้า
เพียะ!
เสียงหวดแส้ดังแจ่มชัดอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของกู่ฝอจื่อมีรอยแส้ชุ่มเลือดเพิ่มขึ้นมาหนึ่งรอย ลึกถึงกระดูก
เขาเจ็บปวด ร่างกายร่วงหล่นลงพื้น ฝุ่นควันลอยตลบ
มาถึงตอนนี้ทุกคนล้วนมองออก ว่าในฟ้าดินแห่งนี้ต่อให้เจ้ามีพลังต่อสู้มากเพียงใด แต่ขอเพียงถูกขังไว้ในค่ายกลนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเนื้อปลาบนเขียง ได้แต่นอนรอความตายเท่านั้น!
“กล้าถอนค่ายกลนี้แล้วมาสู้กับอาตมาอย่างยุติธรรมหรือไม่”
กู่ฝอจื่อเอ่ยออกมาเสียงต่ำ ใบหน้าของเขาชโลมเลือด แต่กลับไม่ใส่ใจแต่อย่างใด ท่าทีนิ่งเฉยจนน่ากลัว
หน้าไม่อาย!
คนไม่น้อยต่างลอบด่าทอดูแคลนอยู่ในใจ ก่อนหน้านี้ตอนเขาใช้กระบวนผนึกมหาข้ามทุกข์กษิติครรภ์จัดการกับหลินสวิน เคยให้โอกาสต่อสู้อย่างยุติธรรมกับหลินสวินหรือ
แต่ทั้งที่เป็นเช่นนั้น คำพูดไร้ยางอายเช่นนี้กู่ฝอจื่อกลับพูดออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ หน้าไม่แดงหัวใจไม่เต้นแรง ความหนาของใบหน้าทำเอาผู้คนเบิกตาค้าง
แม้แต่หลินสวินยังอึ้งงันไป ไม่กล้าเชื่อ นี่คือคำพูดที่ภิกษุแห่งอารามกษิติครรภ์คนหนึ่งกล่าวออกมา มันช่าง… หน้าไม่อายเสียจริง!
เพียะ!
แส้กฎเกณฑ์หวดลง ชั่วขณะนั้นได้ทิ้งรอยแผลชุ่มเลือดสิบกว่ารอยบนร่างกู่ฝอจื่อ ลึกจนเห็นกระดูก น่าตระหนกยิ่ง
“เจ้าคิดว่าการหยามเกียรติอาตมาเช่นนี้จะทำให้อาตมายอมก้มหัวให้หรือ”
กู่ฝอจื่อเอ่ยเสียงเย็นเยียบ ทั่วร่างเขาเลือดไหลนอง แต่กลับดูเหมือนไม่รู้สึก ยังคงรักษาท่าทางเคร่งขรึมดังเดิม
“ไม่ ข้าไม่เคยคิดอยากให้เจ้าก้มหัวให้ ข้าเพียงแค่อยากฆ่าเจ้าทีละน้อยก็เท่านั้น”
สีหน้าหลินสวินเรียบเฉย
ขณะพูด ดาบกฎเกณฑ์คมกริบหลากสายโฉบพุ่งขึ้น หนาแน่นถี่ยิบดุจพายุฝนคลั่ง ปกคลุมลงมา
ฉัวะๆๆ!
กู่ฝอจื่อหลบหนีสุดกำลัง แต่ยังคงถูกบาดจนทั้งตัวเลือดเนื้อกรีดแหวก สภาพไม่เหลือชิ้นดี ภาพน่าอนาถนั่นทำเอาผู้ฝึกปราณไม่น้อยใจสะท้านไม่หยุด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลินสวินไม่ได้โกหก เขาต้องการทรมานกู่ฝอจื่อจนตายจริงๆ!
“อาตมายอมรับว่าครั้งนี้เจ้าต่ำไป ทว่าหากเจ้าต้องการเห็นท่าทางน่าตลกที่อาตมาอ้อนวอนร้องขอชีวิต นั่นไม่มีทางเกิดขึ้น”
สีหน้าของกู่ฝอจื่อเฉยเมย เขาเหมือนตระหนักได้แล้วว่าในฟ้าดินแห่งนี้ดิ้นรนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ จึงนั่งขัดสมาธิลงตรงนั้น ท่าทางรอความตายอย่างไม่สะทกสะท้าน
นี่ทำให้คนตะลึงนัก ต้องยอมรับว่าแม้กู่ฝอจื่อจะโหดเหี้ยมอำมหิต แต่นิสัยของเขากลับกล่าวได้ว่ามั่นคงและแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์