Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1272

สรุปบท ตอนที่ 1272 ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 1272 ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1272 ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

คนเรา เมื่อตกใจเกินเหตุหรือถูกความตายกระตุ้น ก็มักจะปะทุศักยภาพแฝงที่เหนือกว่าปกติ

สิ่งที่ราชันผีเสวียนคงสอนหลินสวิน ก็คือทำอย่างไรจึงจะแสดงศักยภาพแฝงเช่นนี้ออกมาได้แม้ในการต่อสู้ทั่วไป!

พูดง่ายๆ วิธีนี้หนีไม่พ้นสี่คำนี้…

เขย่าจิตกระตุ้นใจ!

ทำให้สภาวะจิตและจิตวิญญาณถูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์ในการต่อสู้ เหมือนกับการฝึกปราณ เร่งเร้าเต็มกำลังเพื่อให้ไปถึงสภาวะที่ปะทุอย่างเต็มที่

“ภายใต้การกระตุ้นของความตาย จิตใจและจิตวิญญาณจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง บางสิ้นหวังเพราะเหตุนี้ หมดอาลัยตายอยาก”

“แต่ก็มีบางคนที่สามารถสำแดงจิตต่อสู้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปะทุพลังต่อสู้ที่เหนือกว่าปกติ”

“เช่นว่า…”

พูดถึงตรงนี้จู่ๆ ราชันผีเสวียนคงก็โฉบออกไป ในฝ่ามือมีดาบคมเพิ่มเข้ามาเล่มหนึ่ง แทงเข้าลำคอของหลินสวินทันใด

เร็ว!

เร็วจนเหลือเชื่อ!

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยมีความลังเลใดๆ

หลินสวินขนลุกซู่ หัวใจแขวนลอยขึ้นมา จิตวิญญาณสั่นสะเทือน

เขาไม่สงสัยเลยว่าการโจมตีนี้ของราชันผีเสวียนคง เหมือนเงามืดแห่งความตายที่สามารถฆ่าตนได้อย่างง่ายดาย!

ถอย!

ในเวลาเดียวกันความปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ถูกกระตุ้น ทำให้พลังทั้งหมดในตัวหลินสวินถูกปลุกเร้า ทั้งร่างปลดปล่อยออกมาราวกับธนูที่ง้างดึงจนสุด

เสียงสวบดังขึ้น เงาร่างของเขาถอยร่นไป

“นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าเขย่าจิตกระตุ้นใจ”

ราชันผีเสวียนคงเก็บดาบ มองหลินสวินที่อยู่ห่างออกไป “เจ้าสัมผัสสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ให้ละเอียด หากสามารถหยั่งถึงนัยเร้นลับภายในได้ ก็สามารถดึงความสามารถของตนได้ถึงขีดสุด”

ตรงคอหอยของหลินสวิน บาดแผลสมานกันอย่างเงียบๆ กลับไปเป็นเหมือนเดิม

เขายืนอึ้งอยู่กับที่ ตกอยู่ในภวังค์ความคิด

ระหว่างความเป็นความตาย น่ากลัวยิ่ง

ภายใต้การกระตุ้นอันน่ากลัวนี้ ทุกคนย่อมต้องตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว

แต่เช่นเดียวกัน การกระตุ้นเช่นนี้กลับสามารถกระตุ้นศักยภาพภายในตัวได้!

เหตุใดก่อนหน้านี้ ทุกครั้งหลังจากผ่านการเข่นฆ่าและการต่อสู้นองเลือดที่อันตรายอย่างที่สุด พลังต่อสู้ในตัวจะพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เป็นเพราะการต่อสู้สามารถเคี่ยวกรำมรรคและกฎเกณฑ์ในตัวได้ สามารถทำให้ตนพบจุดบกพร่อง ปรับปรุงตัวเองต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ในระหว่างการเข่นฆ่าเป็นตาย ศักยภาพแฝงในตัวก็จะได้รับการปลดปล่อยไปอีกขั้น เปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ!

หลินสวินเข้าใจเหตุผลนี้ในชั่วพริบตา

จากนั้นเขาเริ่มหวนคิดถึงภาพที่ประสบเมื่อครู่นี้ การเคลื่อนไหวทั้งหมดตอนที่โจมตีกะทันหัน แต่ละภาพประหนึ่งภาพนิ่ง ปรากฏในหัวอย่างไม่มีขาดตก

ไม่ถูก ไม่ใช่พวกนี้…

หลินสวินตระหนักได้ว่าภาพเหล่านั้นไม่ได้มีนัยเร้นลับอะไร จุดสำคัญอยู่ที่ว่าภายใต้การโจมตีนี้ จิตใจ สัญชาตญาณ การขับเคลื่อนพลังของตน… มีการตอบสนองอย่างไรในหะแรก

หากสามารถคว้าจับเก็บรายละเอียดเหล่านี้ได้ บางทีอาจจะสามารถเข้าถึงนัยเร้นลับแท้จริงในการกระตุ้นศักยภาพแฝง

……

หนึ่งวันหลังจากนั้น หลินสวินได้สติจากสภาวะใคร่ครวญ

“ศิษย์พี่ เชิญ”

“ได้!”

ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ที่น่าแปลกคือหลินสวินที่อยู่ในการต่อสู้ พลังที่ปะทุออกมานั้นมากกว่าปกติเป็นครั้งคราวอย่างกะทันหัน

แต่ในสายตาของราชันผีเสวียนคง หลินสวินได้เริ่มเข้าถึงนัยเร้นลับแท้จริงของการปลดปล่อยศักยภาพแฝงทั้งหมดแล้ว!

แต่ยังไม่มั่นคง ไม่สามารถรักษาให้คงที่ได้

หลังจากการต่อสู้รอบหนึ่ง หลินสวินเหงื่อท่วมตัว หายใจหอบ เหนื่อยจนทรุดนั่งลงพื้น

แต่นัยน์ตาดำลึกล้ำของเขากลับเป็นประกายผิดปกติ

ในสมองจับสภาวะที่เร้นลับอย่างที่สุดเช่นนั้นได้รางๆ แล้ว

เขาไม่อาจสนใจอย่างอื่น พลันจมสู่ห้วงความคิดลึดล้ำ

……

ผ่านไปอีกสองวัน

หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ ลุกขึ้นพูด “ศิษย์พี่ รบกวนแล้ว”

“เชิญ!”

การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้พลังปราณของหลินสวินไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่พลังต่อสู้ของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ราวกับถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูก แข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมาช่วงใหญ่

เพียงแต่บางทีจู่ๆ พลังต่อสู้ก็จะถดถอยลงไม่น้อย กลับคืนสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนหน้านี้

ในแววตาของราชันผีเสวียนคงแฝงความปลื้มปริ่ม ศิษย์น้องที่เข้าสำนักช้าที่สุดคนนี้พรสวรรค์โดดเด่นจริงๆ เวลาสั้นๆ เพียงสามวันก็หยั่งถึงนัยเร้นลับแท้จริงของการดึงศักยภาพแฝงที่แท้จริงแล้ว!

แม้ยังคงไม่ชำนาญนัก แต่ก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

“ศิษย์น้อง มรรคาของเจ้าไม่เหมือนกับข้า ข้าไม่สามารถสอนเจ้าได้อีกแล้ว”

ราชันผีเสวียนคงพูด

หลินสวินอึ้ง จากนั้นในใจพลันรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก โค้งคำนับพูดว่า “ขอบคุณศิษย์พี่ที่ชี้แนะ!”

ไม่ว่าจะเป็นการชี้แนะวิถียุทธ์ของตนให้ถึงระดับ ‘กระจ่างจิต’ หรือฝึกฝนวิชาการดึงศักยภาพแฝงในตัวเช่นนี้ ราชันผีเสวียนคงตั้งใจอย่างมาก สอนอย่างเต็มที่ไม่มีเก็บงำ นี่จะไม่ให้หลินสวินซาบซึ้งใจได้อย่างไร

“ศิษย์น้อง วิชาลับที่ดึงศักยภาพแฝงนี้ ถูกผู้มากความสามารถสมัยโบราณเรียกว่า ‘ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว’ ความหมายคือการปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ไม่มีตกหล่น”

เสวียนคงยิ้ม ชี้ไปที่อักษรมรรคอันคลุมเครือและแปลกประหลาดบนคัมภีร์พร้อมพูดว่า “ศิษย์น้อง เดี๋ยวข้าจะทุ่มสุดแรงเปิดอักษรมรรคที่ผนึกไว้นั่น เจ้าฉวยโอกาสนี้เอามุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานเม็ดนั้นออกไป จากนั้นไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”

“ศิษย์พี่…”

หลินสวินอ้าปากหมายจะพูด เสวียนคงกลับโบกมือกล่าว “ไม่ต้องพูดอะไรมาก ข้าตัดสินใจแล้ว”

ตูม!

ครู่ต่อมาเขาคว้าไปทางอักษรมรรคบนโต๊ะ แสงมรรคน่ากลัวพวยพุ่งกึกก้องในการปะทะ

ครึ่กๆ!

มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าอักษรมรรคพวกนั้นถูกดึงขึ้นมาทีละชุ่น แต่ในเวลาเดียวกันเสวียนคงกลับเหมือนแบกรับความเจ็บปวดที่ยากจะจินตนาการ สีหน้าล้วนเหยเกบิดเบี้ยวขึ้นมา

และตอนนี้เองหลินสวินเห็นว่าด้านล่างโต๊ะบนแท่นบูชามีหลุมที่ลึกจนไม่เห็นจุดสิ้นสุด แสงกระจ่างผืแถบหนึ่งพรั่งพรูออกจากภายใน งดงามและยิ่งใหญ่

นี่ ถึงกับเป็นไอพิสุทธิ์มหามรรค!

“รีบลงมือ!”

เสวียนคงตะโกน ในดวงตาเขาปรากฏไอมรณะน่ากลัวอีกครั้งแล้ว ใบหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมา เหี้ยมโหดราวกับผีร้าย

สวบ!

หลินสวินพุ่งเข้าไปในหลุมนั่นอย่างไม่ลังเล

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นหลินสวินกลับมาอย่างปลอดภัย เพียงแต่ในมือมีมุกขนาดเท่าไข่นกพิราบที่โปร่งใสเม็ดหนึ่ง ไอขุ่นมัวไหลเวียน เต็มไปด้วยแสงมรรค ลึกลับอย่างที่สุด

“ศิษย์น้อง รีบไป!”

เสวียนคงคำราม ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังจะพังทลาย เส้นเลือดตรงหน้าผากปูดนูน “จำไว้ หลอมมุกเม็ดนี้เข้าไปในร่าง อย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด!”

หลินสวินมองเสวียนคงแวบหนึ่ง จากนั้นกัดฟันอย่างแรง หมุนตัวเคลื่อนห่างออกไป

“โฮก…”

เสียงคำรามดุดันอย่างที่สุดดังก้องขึ้นด้านหลัง

หลินสวินหันไป ก็เห็นว่าบนแท่นบูชาพันฉื่อนั่น ผมสีม่วงของเสวียนคงแผ่สยาย ถูกหมอกดำปกคลุมทั้งตัว ราวกับเทพมารดุร้าย ดูเหี้ยมเกรียมและน่ากลัวอย่างที่สุด

“ศิษย์พี่…”

หลินสวินลำคออัดแน่นขึ้นมา ความรู้สึกในใจพลุ่งพล่านไม่หยุด สกัดกั้นความวู่วามที่จะกลับไปสุดกำลัง

“ศิษย์น้อง รักษาตัวด้วย!”

ในหมอก เสียงของเสวียนคงดังขึ้น ทั้งร้อนรน แหบพร่าและเหนื่อยล้า ทั้งยังมีความรู้สึกหลุดพ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

พอหันไปมองอีกครั้ง บนแท่นบูชานั่นเต็มไปด้วยหมอกดำ แต่กลับไม่มีเงาร่างของเสวียนคงนานแล้ว

มกุฎมหาอริยะในยุคหนึ่ง ตอนมีชีวิตอยู่ชื่อเสียงเลื่องลือ ปกป้องดินแดนรกร้างโบราณ ต่อต้านการโจมตีของศัตรูจากแปดดินแดน หลั่งเลือดสาดพรม เป็นตายล้วนไม่เสียดาย

ตอนนี้หลังจากถูกขังมาเนิ่นนาน วิญญาณอาฆาตเสี้ยวนี้ของเขาได้รับการปลดปล่อยจากสภาพที่อยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่สามารถแล้วอย่างสิ้นเชิง…

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์