ตอนที่ 1284 ตัวตลกเต้นแร้งเต้นกา – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1284 ตัวตลกเต้นแร้งเต้นกา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ครู่ใหญ่หลินสวินถึงตื่นขึ้นจากภาพสะท้านโลกเช่นนั้น
ส่วนในใจเขาก็ปรากฏการสัมผัสรู้อันอัศจรรย์ต่างๆ ขึ้น ล้วนเกี่ยวข้องกับ ‘เมืองมรณะ’ สมบัติอริยะฟ้าประทาน
สิ่งที่ลี้ลับที่สุดของเมืองนี้ก็คือ สามารถส่งวิญญาณร้ายและเศษเสี้ยววิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้พวกมันหลุดพ้นจากโลกได้ จึงได้รับพลังแห่งบุญกุศลที่มาจากระเบียบมหามรรค
บุญกุศล!
เป็นพลังลี้ลับราวมายาถึงที่สุดเช่นเดียวกับโชควาสนา กฎกรรม และพรหมลิขิต
ในสายตาของผู้บำเพ็ญธรรม ช่วยคนหนึ่งครั้งเหนือกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น อันที่จริงก็เป็นวิธีสั่งสมพลังบุญกุศลอย่างหนึ่ง
ส่วนสำหรับผู้บำเพ็ญปราณแล้ว พลังบุญกุศลก็เหมือนโชควาสนามหามรรค เพียงแต่มีประโยชน์กับการฝึกปราณของผู้ฝึกปราณมากกว่า
อย่างไอพิสุทธิ์ฟ้าประทานก็เป็นสิ่งที่สะท้อนพลังบุญกุศลอย่างหนึ่ง หลอมไอพิสุทธิ์ฟ้าประทาน มีคุณต่อการบำรุงขัดเกลาพลังปราณ จิตวิญญาณ และสภาวะจิต
จากจุดนี้แค่คิดก็รู้ว่า สมบัติอริยะฟ้าประทานที่สามารถรับพลังบุญกุศลได้อย่าง ‘เมืองมรณะ’ อัศจรรย์พันลึกขนาดไหน
ที่น่าเสียดายก็คือ ‘เมืองมรณะ’ ไม่ดำรงอยู่นานแล้ว เหลือเพียงต้นกำเนิดฟ้าประทาน แปรสภาพเป็นมุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานเม็ดหนึ่ง
พูดง่ายๆ มุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานก็คือพลังต้นกำเนิดสำคัญของเมืองมรณะ
วู้ม!
หลินสวินทำตามใจคิด เริ่มจดจ่อกับการหลอมสิ่งนี้
หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน…
กาลเวลาผันผ่านไปอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว
ภายในสถูปเจดีย์ เจ้าคางคกกับนกทมิฬก็ไม่ได้หยุดพัก ศึกษาและขบคิดปริศนาภายในสามพันสถูปเจดีย์แห่งนี้อยู่ตลอด
ผ่านการสืบหาอยู่นาน ทั้งสองต่างได้บทสรุปอย่างเดียวกันว่า…
เจดีย์นี้ต้องมีมหาวาสนา!
เพียงแต่คิดจะได้ไป กลับต้องมีจุดเปลี่ยนสักครั้ง
ตอนนี้ทั้งสองต่างลองใช้วิธีต่างๆ มาลองเชิง หมายจะชิงวาสนาครั้งนี้มาไว้ในมือในคราเดียว
……
ครึ่งปีเต็มๆ หลินสวินถึงหลอมมุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานเม็ดนี้ได้!
ความยาวนานของเวลาที่ใช้แม้แต่หลินสวินเองยังออกจะประหลาดใจ แต่คุณประโยชน์ก็น่าตื่นตะลึงถึงที่สุด กระทั่งทำให้หลินสวินจิตใจกระเพื่อมไหวไม่ว่างเว้น
ภายในมุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานมีพลังบุญกุศลยิ่งใหญ่ไพศาลราวมหาสมุทร แทบจะไร้ที่สิ้นสุดผนึกไว้อยู่!
ยามหลอมพลัง มุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานก็สามารถมอบไอพิสุทธิ์ฟ้าประทานได้อย่างไม่ขาดสาย ราวกับบุญกุศลคลุมกาย มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย จิตใจและวิญญาณ
หากเพียงเท่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับหลอมยอดสมบัติบางชิ้นในโลก
สิ่งที่อัศจรรย์ที่สุดของมุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานก็คือ ยามประลองกับเสี้ยวเจตจำนงหรือวิญญาณร้ายที่แข็งแกร่งบางส่วน จะมีสรรพคุณกดข่มได้!
และหากส่งวิญญาณร้ายพวกนี้ไปได้ ยังจะได้รับพลังบุญกุศล รวมตัวอยู่ภายในมุกพิสุทธิ์ฟ้าประทาน กระตุ้นให้สมบัติชิ้นนี้แปรสภาพ!
หลินสวินถึงกับสงสัยว่า ยามพลังบุญกุศลที่ได้รับมาสะสมถึงระดับหนึ่งแล้ว เป็นไปได้อย่างยิ่งที่มุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานจะแปรสภาพเป็นเมืองมรณะอีกครั้งหนึ่ง
‘มิน่าศิษย์พี่เสวียนคงถึงกำชับเป็นพิเศษว่าจะให้คนอื่นรู้เรื่องสิ่งนี้ไม่ได้ เป็นสมบัติล้ำค่าพบเห็นได้ยากหาใดเทียบชิ้นหนึ่งจริงๆ’
‘มันเป็นทั้งยอดสมบัติหลอมพลังชิ้นหนึ่ง และเป็นวัตถุอริยะที่ได้บุญกุศลชิ้นหนึ่งอีกด้วย ไม่อาจเปรียบเทียบกับสมบัติอริยะชนิดต่อสู้ได้อย่างยิ่ง…’
‘แม้จะไม่สมบูรณ์ แต่วันหน้าขอเพียงฝึกต่อไปตลอด สมบัติชิ้นนี้ย่อมมีหวังที่จะกลายเป็นเมืองมรณะได้อีกครั้ง!’
หลินสวินสูดหายใจลึก เก็บกลั้นความตื่นเต้นในใจ
เสียเวลาไปครึ่งปีเพื่อหลอมมุกพิสุทธิ์ฟ้าประทานนี้ คุ้มไหม
คุ้มค่าเกินไปแล้ว!
ครอบครองสมบัตินี้ก็เท่ากับทำให้ตนมีวิธีที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดในการรับเอาพลังบุญกุศล มีประโยชน์ที่ไม่อาจประเมินได้ต่อการฝึกปราณ อัศจรรย์เหลือจะกล่าว
“หลินสวิน ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้ว ช่วงครึ่งปีมานี้ทุกวันมีแต่พวกรนหาที่ตายบางส่วนมาท้าทาย โวยวายอยากให้เจ้าออกไป”
นกทมิฬกระพือปีกบินมาแล้วร้องว่า “ถ้าเจ้าไม่ไปอีก เกรงว่าพวกเขาจะพังฝ่าเข้ามาแล้ว!”
“หาข้าหรือ”
หลินสวินเลิกคิ้ว
“ใช่ ตั้งแต่รู้เรื่องความแค้นระหว่างเจ้ากับอวิ๋นชิ่งไป๋ นอกสถูปเจดีย์แห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์รวมความวุ่นวาย ครึ่งปีมานี้เจ้าคงไม่รู้ว่าที่นี่ครึกครื้นขนาดไหน”
นกทมิฬเอ่ย “โดยเฉพาะผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้า มาตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว รออยู่ตรงนั้นตลอด ท่าทางจะรอเจ้าปรากฏตัว”
หลินสวินเข้าใจทันที สถานการณ์เช่นนี้ก็อยู่ในการประเมินของเขาจริงๆ
“พวกเขาอยากรอ ก็ให้พวกเขารอต่อไปก็พอแล้ว”
หลินสวินเอ่ย “นอกสถูปเจดีย์แห่งนี้ถูกข้าวางกระบวนผนึกลายมรรคไว้ ขอเพียงพวกเขาไม่กลัวตาย ก็ดันทุรังฝ่าได้เต็มที่”
ตูม!
ทันใดนั้นเสียงสั่นคลอนรุนแรงระลอกหนึ่งดังขึ้นนอกสถูปเจดีย์ราวกับเกิดแผ่นดินไหวขึ้น
จากนั้นเสียงโห่ร้องยินดีอันฮึกเหิมระลอกหนึ่งก็ดังขึ้น
“ค่ายกลใหญ่ระยำนี่ใกล้ถูกตีแตกแล้ว ทุกคนพยายามอีกหน่อย!”
“หึ เจ้าหลินสวินนี่ก็เป็นเต่าหดหัวในกระดองตัวหนึ่ง หลบซ่อนมาครึ่งปีไม่กล้าปรากฏตัว ขอเพียงตีค่ายกลนี้แตก ดูซิว่าเขาจะยังหลบซ่อนอย่างไร!”
…เสียงเอะอะโวยวายยุ่งเหยิงเริ่มแว่วเข้ามาในสถูปเจดีย์
แววเหี้ยมเกรียมพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินสวิน กระบวนผนึกลายมรรคที่เขาวางไว้มีประสิทธิภาพในการตัดขาดคลื่นเสียง
แต่ตอนนี้กลับมีเสียงแว่วเข้ามา เห็นได้ว่ากระบวนค่ายกลนี้เสียหายรุนแรง กำลังจะถูกทลายแล้วจริงๆ
นกทมิฬหัวเราะขึ้นอย่างมีความสุขที่ได้เห็นผู้อื่นเป็นทุกข์ “ฮ่าๆๆ เกรงว่าไอ้พวกไม่กลัวตายใกล้จะฝ่าเข้ามาแล้ว”
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชื่อสักนิดว่าหลินสวินจะเป็นคู่ต่อสู้ของอวิ๋นชิ่งไป๋ได้
แน่นอนว่าเมื่อเผชิญหน้ากับหลินสวินที่ตอนนี้มีชื่อเสียงสะเทือนแดนเก้าบนแล้ว พวกเขาย่อมไม่กล้าเลินเล่อ หาไม่แล้วคงไม่รออยู่ที่นี่มานานถึงสองเดือน
แต่พร้อมกับเวลาที่ผันผ่าน ไม่ว่าพวกเขาจะท้าทาย ด่าทอ ท้าสู้อย่างไร หลินสวินก็ไม่เคยปรากฏตัว ทำให้พวกเขาต่างขุ่นเคืองอยู่ในใจอย่างยิ่ง อดจะดูแคลนอยู่บ้างไม่ได้
เป็นถึงเทพมารหลิน แม้แต่รับคำท้ายังไม่กล้าหรือ
พอสันนิษฐานเช่นนี้ ข่าวที่กระจายออกมาเมื่อครึ่งปีก่อนนั้นจะเป็นจริงไปได้อย่างไร
ความจริงแล้วความแคลงใจเช่นนี้ก็บังเกิดขึ้นในใจผู้แข็งแกร่งที่ลอบจับตามองทุกอย่างนี้
ครึ่งปีแล้ว หลินสวินกลับซ่อนตัวอยู่ในสถูปเจดีย์ ไม่ว่าจะถูกด่าทอและท้าทายเช่นไรก็ไม่เคยปรากฏตัวออกมา หรือว่าเขากลัวเสียแล้ว
หรือจะบอกว่าข่าวที่กระจายออกมาเมื่อครึ่งปีก่อนเป็นเท็จ ไม่เช่นนั้นจะเลือกทนไม่ออกมาในสถานการณ์ที่ถูกปิดล้อมเช่นนี้ได้อย่างไร
ควรรู้ว่าเขาเทพมารหลินมีชื่อเพราะใจกล้าเกินใครมาตลอด เคยขี้ขลาดตาขาวอย่างตอนนี้เสียที่ไหน
“ตอนกระบวนค่ายกลนี้พัง ความจริงก็จะกระจ่าง!”
ขณะนี้ทุกคนต่างตั้งตาคอย เพราะล้วนดูออกว่ากระบวนผนึกที่วางอยู่หน้าสถูปเจดีย์กำลังจะพังลง!
ตูม!
ทันใดนั้น เบื้องหน้าสถูปเจดีย์มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวระลอกหนึ่งดังขึ้น
ท่ามกลางละอองแสงเต็มฟ้า กระบวนผนึกลายมรรคที่โคลงเคลงจะถล่มลงมาแต่เดิมไม่ได้พังลง ทว่าเหล่าผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าที่ล้อมโจมตีกระบวนค่ายกลนี้กลับส่งเสียงตื่นตระหนก เงาร่างกระเด็นถอยหลังโซซัดโซเซ
ภาพนี้ดึงดูดความสนใจผู้คนทั้งที่นั้นทันที
และก็ในตอนนี้เอง สายตาทุกคู่มองเห็นว่ามีเงาร่างสูงโปร่งโดดเด่นร่างหนึ่งเดินออกมาจากกลางกระบวนผนึกลายมรรคที่มีละอองแสงปลิวว่อนนั้น
ผมดำสยายออก ดวงตาเย็นชาลุ่มลึก ท่วงท่าราวเซียนมาเยือนโลกา หลุดพ้นเหนือโลกีย์ผิดธรรมดา ไม่ใช่หลินสวินแล้วจะเป็นใครไปได้อีก
เก็บตัวไปครึ่งปี ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้!
ในที่นั้นพลันระส่ำระสายขึ้นระลอกหนึ่ง
เพียงแต่ทุกคนไม่ใคร่จะมองหลินสวินในแง่ดี เพราะว่าเขาถูกบีบให้ออกมา หากไม่ใช่เพราะค่ายกลใหญ่นั่นกำลังจะพัง เกรงว่าเขาคงยังเลือกหดหัวอยู่ในกระดองไม่ออกมา!
ในขณะเดียวกันเหล่าผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าอย่างเหวินฉงเฟิงก็ตกตะลึงก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นล้วนยินดีปรีดา ในที่สุดเจ้าคนที่ปล่อยข่าวลือให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ใช้วิธีการต่ำช้าสาดโคลนให้อวิ๋นชิ่งไป๋คนนี้ก็ปรากฏตัวแล้ว!
ชั่วขณะเดียวดวงตาพวกเขาบังเกิดแววเหี้ยมเกรียม ไอสังหารพลุ่งพล่าน
ความขุ่นเคืองที่สั่งสมภายในใจมาหลายวัน ทำให้พวกเขาอยากจะเคลื่อนไหวเต็มแก่แล้ว
“อวิ๋นชิ่งไป๋ไม่มา ตัวตลกเต้นแร้งเต้นกากลับมาเสียฝูงหนึ่ง ยิ่งโง่งมยิ่งรนหาที่ตายจริงๆ”
และท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดระส่ำระสายนี้เอง หลินสวินเดินออกมาจากค่ายกลใหญ่ตามลำพังอย่างใจเย็น ดวงตาดำลุ่มลึก น้ำเสียงเรียบเฉย แต่กลับดังไปทั่วฟ้าดินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์