ฟ้าดินกลับคืนสู่ความสงบ บรรยากาศที่กดดันและตึงเครียดทำให้ผู้คนแทบหายใจไม่ออก
ใครๆ ต่างก็มองออกว่าการต่อสู้นี้ใกล้จะปิดฉาก!
และช่วงสุดท้ายนี้จะต้องเป็นภาพฉากอันน่ากลัวระหว่างความเป็นตายแน่
วู้ม!
บนเวิ้งฟ้า อวิ๋นชิ่งไป๋พลันเรียกกระบี่เทียมฟ้าที่กำลังประชันกับดาบหักอย่างดุเดือดกลับมาสู่มือตน
“ไม่ตายไม่เลิกรารึ ข้าไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว…”
เสียงพึมพำแผ่วเบาดังมาจากปากอวิ๋นชิ่งไป๋
แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นหาใดเปรียบ ร่างกายที่เปื้อนเลือดเปลี่ยนเป็นเหยียดตรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งตัวราวกระบี่เล่มหนึ่ง แผ่กลิ่นอายน่าเลื่อมใส นิ่งสงบ มองความตายเป็นเรื่องธรรมดา
เหล่าผู้กล้าในที่นั้นต่างหนาวเยือกในใจ หนังหัวแทบระเบิด อวิ๋นชิ่งไป๋ในตอนนี้ประหนึ่งกำลังจะพลีชีพ หลอมกายตัวเอง!
เทพมารหลินสามารถบีบบังคับผู้ยิ่งใหญ่บนมรรคกระบี่ที่เหมือนตำนานแห่งยุคคนนี้ให้ไปถึงขั้นไม่อาจไม่สละชีวิตได้ ใครจะนิ่งเฉยอยู่ได้เล่า
ฟ้าดินมืดสลัว ห้วงอากาศครวญคร่ำ
บรรยากาศน่าหวาดกลัวไร้รูปหนึ่งค่อยๆ แผ่กระจายออกมาหลังอวิ๋นชิ่งไป๋กุมกระบี่เทียมฟ้านั่น
ไม่จำเป็นต้องสงสัย ต่อจากนี้คงได้เปิดฉากการต่อสู้เป็นตายที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนจะปิดม่านลงแน่!
เวลานี้ใจของพวกเจ้าคางคก นกทมิฬและอาหลู่พลันเคว้งขึ้นมา แข็งทื่อไปทั้งตัว เปลี่ยนเป็นตึงเครียดและกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ห่างออกไปสีหน้าหลินสวินยังนิ่งสงบ แต่ภายในร่างเขาตอนนี้พลังทั้งมวลกลับถูกโคจรถึงขีดสุดแล้ว ไม่เก็บงำอะไรไว้แม้แต่น้อย!
“ระหว่างความเป็นความตายนั้นน่ากลัวยิ่ง ข้าไม่เหมือนเจ้า หลายปีนี้ข้าผ่านมันมาหลายครั้ง แม้จะไม่ถึงขั้นมองข้ามความเป็นตาย แต่อย่างน้อยก็มีประสบการณ์มากกว่าเจ้า”
หลินสวินเอ่ยปากน่ำเสียงสบายๆ สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน
ต่อให้อวิ๋นชิ่งไป๋พลีชีพโรมรันแล้วอย่างไร
ประสบการณ์ที่สู้สุดตัวนี้เขารู้ดียิ่งกว่าอวิ๋นชิ่งไป๋นัก!
เพราะตั้งแต่เกิดเขาก็ดิ้นรนอยู่ระหว่างความเป็นความตาย กระทั่งหนีออกมาจากคุกใต้เหมืองก็ยิ่งรู้ชัดถึงความลำบากของการอยู่รอด
หลายปีนั้นที่โลกชั้นล่าง เขาเด่นผงาดขึ้นมาจากฐานะอันต่ำต้อยราววัชพืช บนเส้นทางชีวิตเต็มไปด้วยคลื่นลมและการนองเลือด
ความเป็นและความตาย เลือดและเปลวเพลิงอยู่ร่วมกันตลอดเวลา!
ส่วนอวิ๋นชิ่งไป๋ ตั้งแต่เด็กได้กราบเป็นศิษย์ฝึกตนในสำนักกระบี่เทียมฟ้า หนทางฝึกปราณตลอดทางมีอาจารย์ชี้แนะ มีคนใหญ่คนโตปกป้อง มีทรัพยากรในการฝึกปราณนับไม่ถ้วนให้ใช้ตามใจชอบ มรรคาของเขาแม้จะฆ่าฟันเด็ดเดี่ยว มีจิตใจห้าวหาญที่เหยียดหยันใต้หล้า แทบจะไม่เคยสัมผัสความพ่ายแพ้ แต่…
เขามีหรือจะเคยสัมผัสรสชาติของการผงาดขึ้นมาจากความเป็นตาย
เวลานี้เขาต้องการพลีชีพต่อสู้ แต่ยังทำทีว่าทอดถอนใจ สำหรับหลินสวินแล้วท่าทางนี้ช่างน่าขันจริงๆ!
อวิ๋นชิ่งไป๋ชะงักเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าก็เด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิมกล่าว “เจ้าผิดแล้ว ใจข้ามีเพียงกระบี่ ไม่หวาดกลัวต่อความเป็นตาย ถูกลิขิตให้ต่างจากเจ้า!”
พูดจบทั้งตัวเขาถูกแสงกระบี่ไร้สิ้นสุดปกคลุม ปราณกระบี่ล้นฟ้าทะลวงขึ้นเหนือเมฆ ฟ้าดินแถบนั้นกลายเป็นพายุปราณกระบี่อย่างสมบูรณ์
ฟ้าดินเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ห้วงอากาศทั่วบริเวณล้วนอลหม่านแตกระเบิดในพริบตา!
ตูม!
พริบตานั้นทุกคนต่างตื่นตระหนก มองเห็นว่ากายหยาบ จิตวิญญาณและเลือดลมของอวิ๋นชิ่งไป๋ราวถูกหลอมรวมเข้าไปในกระบี่เทียมฟ้านั้นอย่างสมบูรณ์
ใช้ร่างกาย สังเวยกระบี่!
“นี่… จะพลีชีพสู้สุดตัวรึ”
ผู้ชมต่างสีหน้าอึ้งงัน เมื่อบุคคลแห่งยุคคนหนึ่งสู้สุดตัวโดยไม่เสียดายชีวิต ผลกระทบที่ยากจะบรรยายนั้นไม่ว่าใครก็ไม่อาจไม่ตื่นตระหนก
“สมเป็นผู้ฝึกกระบี่อันดับหนึ่งแห่งยุค อัจฉริยะมรรคกระบี่ที่หาได้ยากในดินแดนรกร้างโบราณ อาศัยเพียงความอาจหาญที่เห็นความเป็นตายราวสิ่งไร้ค่านี้ นับตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันจะมีสักกี่คนที่สามารถเทียบเทียม”
องค์ชายเซ่าเฮ่าถอนใจยาวเฮือกหนึ่ง
“กระบี่นี้เหมือนการเซ่นไหว้ ใช้มรรคกระบี่ทั้งชีวิตมาหลอมถึงขีดสุดในพริบตา ใคร… จะต้านทานได้…”
เทพธิดารั่วอู่สีหน้าเลื่อนลอย
“ไม่รู้ว่าหลินสวินจะรับกระบี่นี้ได้หรือไม่”
สำหรับพวกเจ้าคางคก หัวใจอันตึงเครียดเหมือนจะกระโดดออกมาอยู่แล้ว ต่อให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวหลินสวินยิ่ง แต่ก็ไม่อาจไม่เคร่งเครียด
ด้วยอวิ๋นชิ่งไป๋ในตอนนี้ไม่เสียดายชีวิตแล้ว!
ตูม!
ในจุดที่อวิ๋นชิ่งไป๋ยืนอยู่ อานุภาพของกระบี่เทียมฟ้าเชื่อมต่อนภาเข้าจริงๆ แสงกระบี่ ปราณกระบี่ คมกระบี่ เจตกระบี่ไม่สิ้นสุดซัดสาดหมุนวน
กลายเป็นน้ำวนขนาดมหึมาหาใดเปรียบ!
มรรคกระบี่ยากบรรยายสายหนึ่งม้วนกลืนอากาศ อบอวลไปทั่วบริเวณในชั่วพริบตา เมื่อน้ำวนเริ่มหมุนท้องฟ้านั่นถูกฉีกกระจุย ในเสียงระเบิดห้วงอากาศพลันกลายเป็นกระแสน้ำปั่นป่วนไร้สิ้นสุดราวไหมทอที่ถูกบดขยี้
ครืน…
ต้นไม้ ก้อนหิน พื้นดินในรัศมีพันลี้ล้วนแตกระเบิดดังสนั่น กลายเป็นฝุ่นคลั่งร่ายระบำทั่วฟ้า
“แย่แล้ว!”
ผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งร่างกายพุ่งลอยเข้าไปในวังวนกระบี่มหึมากลางฟ้าดินนั่นเหมือนควบคุมไม่อยู่
กลืนกิน!
นั่นคือพลังกลืนกินที่ไร้ใดเปรียบ ผสานเข้าไปในวังวนกระบี่ ปรากฏอยู่กลางฟ้าดิน ราวกับจะกลืนกินฟ้าดินและทุกสรรพสิ่งนี้จนสิ้น!
แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังทำให้ผู้คนหวาดกลัว รู้สึกสิ้นหวังหาใดเปรียบ
“เขา… นำมรรควิถีทั้งหมดหลอมเข้าไปในกระบี่นี้ ชีวิตข้าได้เห็นภาพนี้ก็ไม่เสียดายแล้ว!”
นายเหนือหัวแห่งยุคบางส่วนต่างต้านทานเต็มกำลัง เหมือนเจอศัตรูผู้แข็งแกร่ง ในใจตื่นเต้นหาใดเปรียบ
“หลินสวิน เจ้าใช้มรรคกระบี่มาสู้กับข้า เวลานี้ได้เวลาเอาคืน เจ้าจงตายอยู่ที่นี่ซะ!”
เสียงของอวิ๋นชิ่งไป๋เด็ดเดี่ยวเฉยชา ดังก้องกลางฟ้าดิน
เงาร่างของเขาหายไปในวังวนกระบี่มหึมาหาใดเปรียบนั่นนานแล้ว
หลินสวินยิ้มหยันทันที ผมยาวทั้งศีรษะพลันพลิ้วไหว ก้าวออกไปข้างหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์