Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1321

อวิ๋นชิ่งไป๋หยิ่งทะนงเกินไปแล้ว เขาไม่อาจทนเห็นตนถูกมรรคกระบี่ต้านยามต่อสู้ด้วยมรรคกระบี่

ด้วยเหตุนี้ในช่วงสุดท้ายจึงต้องการเอาคืน ใช้พลังพรสวรรค์ที่แย่งชิงไปจากหลินสวินมาเป็นต้นกำเนิด พลีชีพสังเวยกระบี่ หมายจะกำจัดอีกฝ่าย

น่าเสียดาย เขาคิดผิดแล้ว!

เกรงว่าอวิ๋นชิ่งไป๋ก็คงคาดไม่ถึงว่ายามที่หลินสวินหลอมกายจนพลังเลื่อนขั้นสู่ระดับราชัน ชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ก่อให้เกิดอภินิหารพรสวรรค์ที่แท้จริง…

หุบเหวกลืนกิน!

นี่คือชื่อของชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิด แต่ก็เป็นชื่อของอภินิหารประหลาดที่พลังพรสวรรค์นี้สรรสร้างออกมาเช่นกัน

แต่ถ้าอวิ๋นชิ่งไป๋จะผิดก็ผิดที่เขาคิดเอาเองว่าพรสวรรค์ของหลินสวินที่ชิงมาได้ สามารถนำมาเสาะหามรรคกระบี่อันสมบูรณ์แบบ แต่แน่นอนว่าเขาไม่อาจทำให้อภินิหารพรสวรรค์ตื่นขึ้นมาได้

เพราะท้ายที่สุดหุบเหวกลืนกินก็ไม่ใช่ของเขา

ก็เหมือนวังวนกระบี่ตรงหน้านี้ ต่อให้มีพลังกลืนกินที่แข็งแกร่งหาใดเปรียบ แต่ในสายตาหลินสวินนี่ก็เหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำ!

ครืน…

ปราณกระบี่ราวกระแสน้ำบุกจู่โจมเข้ามา พลังนั้นพอที่จะสังหารบุคคลระดับนายเหนือหัวแห่งยุคบางส่วนในปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย

แต่กลับไม่อาจเปื้อนโดนหลินสวินแม้แต่น้อย

ภาพนี้ทำให้อวิ๋นชิ่งไป๋หน้าคล้ำเขียวยิ่งกว่าเดิม จิตมรรคที่เดิมมั่นคงหาใดเปรียบเวลานี้เกิดสั่นคลอน

เขาไม่เชื่อ!

และไม่ยินยอมด้วย!

“นี่เป็นไปไม่ได้!”

อวิ๋นชิ่งไป๋ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับคลุ้มคลั่ง

ฝึกปราณหลายสิบปีมาถึงตอนนี้ กระบี่ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งชีวิตกลับทำลายแม้แต่ขนเส้นเดียวของอีกฝ่ายไม่ได้ สำหรับอวิ๋นชิ่งไป๋นี่คือการจู่โจมหนักถึงขั้นที่ไม่อาจย่ำแย่ไปมากกว่านี้ได้อีกแล้วจริงๆ!

“นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัว พลังของเจ้าท้ายที่สุดก็ไม่ใช่ของเจ้า แค่ถูกเจ้าปักใจเชื่อมาตลอดเท่านั้น”

หลินสวินสีหน้าราบเรียบยิ่งกว่าเดิม

“เป็นไปไม่ได้!”

อวิ๋นชิ่งไป๋คำราม เขาในตอนนี้ไม่มีมาดสง่างามของผู้ฝึกกระบี่แห่งยุคอีก อารมณ์ดูปั่นป่วน สภาวะจิตไม่มั่นคง

“เป็นไปไม่ได้รึ เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าอะไรที่เรียกว่าหุบเหวกลืนกินที่แท้จริง!”

ทันใดนั้นร่างกายของหลินสวินส่องประกาย หุบเหวหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ลึกล้ำไร้สิ้นสุด มีลักษณ์ประหลาดที่เวิ้งฟ้าทรุดตัวผลุบโผล่คลุมเครืออยู่ภายใน

ดวงดาวเหลือคณานับดับสลายอยู่ในนั้น!

เพียงพริบตาวังวนกระบี่นั่นราวกับหยุดชะงัก พลิกตลบอย่างรุนแรง มีสัญญาณว่าจะพังทลาย ส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด

“เจ้าดู พลังที่ถูกเจ้าชิงไปก็ทำได้แค่ก้มหัวศิโรราบต่อหน้าข้า เจ้าคิดว่ายังเป็นของเจ้าอยู่ไหม”

ผมดำของหลินสวินพลิ้วไหว วาจาราบเรียบ แต่ทุกคำกลับเหมือนค้อนหนักฟาดใส่จิตมรรคของอวิ๋นชิ่งไป๋

สีหน้าเขาปรวนแปรเด่นชัด ขุ่นเคืองและไม่ยินยอม มุมปากกำลังหลั่งเลือด ดวงตาจ้องมองหลินสวินเขม็ง ยังคงยากจะยอมรับ

ฝึกปราณมาทั้งชีวิต สุดท้ายกลับไม่ใช่ของตัวเอง ความรู้สึกนั้นก็เหมือนสิ่งที่เสาะหามาชั่วชีวิตล้วนเป็นได้แค่บุปผาในคันฉ่อง จันทราในวารี เพียงพอที่จะทำให้ผู้ฝึกปราณคนใดก็ตามพังทลาย!

พรูด!

ในที่สุดอวิ๋นชิ่งไป๋ก็กระอักเลือดคำโต สีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดสลัว

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ตอนนี้ยังทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งชีวิตหลอมรวมเข้าไปในกระบี่จนสิ้น

เวลานี้ยังถูกโจมตีเช่นนี้อีก ทำให้ทั้งตัวเขามีสัญญาณที่จวนจะพังทลายอย่างหนึ่ง

แต่สิ่งที่ทำให้หลินสวินผิดคาดคือ เพียงชั่วขณะสีหน้าอวิ๋นชิ่งไป๋เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบใหม่อีกครั้ง!

“บางทีนี่ก็คือกรรมตามสนอง”

เขาสูดหายใจลึก แผ่นหลังยังคงตรงดุจกระบี่ เหมือนความหยิ่งทะนงของเขา

“ไม่ นี่ไม่ใช่กรรมสนอง แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่เคยเชื่อเรื่องกรรมตามสนอง”

หลินสวินกล่าวหนักแน่น “หากกรรมตามสนองมีจริง หลังจากที่เจ้าอวิ๋นชิ่งไป๋สังหารตระกูลหลินสายตรงของข้าทั้งหมดแล้ว ก็ควรได้รับกรรมสนองจนตาย แต่สุดท้าย… เจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังอยู่อย่างเจิดจรัสกว่าใครๆ ตั้งแต่นั้นมาข้าก็รู้ว่าบนโลกนี้กรรมตามสนองไม่มีจริง ดังนั้นข้าจึงเชื่อแต่ตัวเอง!”

อวิ๋นชิ่งไป๋อึ้งงัน ครู่ใหญ่จึงกล่าว “บางทีที่เจ้าพูดก็คงถูก คำว่ากรรมตามสนองไม่เคยมีแต่แรก…”

เขาเองไม่รู้ว่านึกถึงเรื่องในอดีตอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด เผยความคั่งแค้นที่พาให้ผู้คนหนาวเยือกในใจ

“ถูกต้อง ไม่มีคำว่ากรรมตามสนอง…”

ผ่านไปครู่ใหญ่อวิ๋นชิ่งไป๋พึมพำ เขาพลันยกมือแทงเข้าไปในอกตัวเองดังฟึ่บ ผิวปริเนื้อแตก เลือดสดสาดกระจายราวน้ำพุ

เมื่อเขาดึงมือกลับ ชีพจรปราณวิญญาณแวววาวเปล่งประกายสายหนึ่งที่ถูกชโลมอยู่ในน้ำเลือดแดงสดก็ติดออกมาด้วย

“เจ้าคิดว่าข้าละโมบอยากได้พรสวรรค์ของเจ้าหรือ…” อวิ๋นชิ่งไป๋ก้มหน้า มองฝ่ามือและหน้าอกที่ถูกตนทลายออกจากกัน แต่เขากลับราวไม่รับรู้อะไร

มีเพียงนัยน์ตาที่ฉายแววเจ็บปวดหาใดเปรียบ

ติ๋ง! ติ๋ง!

เลือดสดๆ มากมายร่วงหล่นจากหน้าอกและง่ามนิ้วของเขา ภาพเหตุการณ์นั้นดูนองเลือดและชวนขนพองสยองเกล้าเป็นพิเศษ ทำให้หลินสวินเองยังอดมุ่นคิ้วไม่ได้

“น่าเสียดาย สุดท้ายแล้วเจ้าก็ไม่ใช่ข้า ย่อมไม่เข้าใจเป็นธรรมดา ข้าอวิ๋นชิ่งไป๋ เดิมทีตอนแรกก็ไม่เคยคิดจะก้าวสู่หนทางฝึกปราณมาก่อน!”

อวิ๋นชิ่งไป๋พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงพลันเปลี่ยนเป็นเร่งเร้าและคลุ้มคลั่งหาใดเปรียบในชั่วขณะเดียว เหมือนกำลังระบายความรู้สึกที่กดอัดอยู่ในส่วนลึกที่สุดของจิตใจ

หลินสวินสีหน้าเฉยชา

เขาไม่มีทางเห็นใจศัตรู แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคย

ตึง!

อวิ๋นชิ่งไป๋ราวกับหมดแรง ในที่สุดก็ทนไม่ไหวทรุดตัวนั่งลงกลางอากาศ มีเพียงแผ่นหลังที่ยังตรงอยู่เหมือนเดิม

เขาเงยหน้า ไม่สนบาดแผลตรงหน้าอกที่เลือดหลั่งชโลมแม้แต่น้อย สายตามองไปยังหลินสวิน สีหน้าเองก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนหาใดเปรียบ เหมือนได้หลุดพ้นและเหมือนยิ้มเยาะตัวเอง “ข้าไม่เคยเสียอาการเช่นนี้มานานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมาเป็นต่อหน้าเจ้า”

“เสียใจภายหลังรึ” หลินสวินกล่าว

อวิ๋นชิ่งไป๋ส่ายหัว “ชั่วชีวิตนี้ของข้าไม่มีคำว่าเสียใจภายหลัง แม้แต่ตอนนี้ก็เหมือนกัน”

พูดถึงตรงนี้เขาพลันกล่าวอย่างจริงจัง “ความจริงพวกเราล้วนเป็นคนแบบเดียวกัน เพียงแต่เจ้าเลือกได้ ส่วนข้า… เลือกไม่ได้…”

พูดถึงตอนท้ายสุดสีหน้าเขาเลื่อนลอย นั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องในอดีตของตน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์