Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1327

หน้าศิลาศึกผู้กล้าเงียบกริบไร้เสียง

สีหน้าของทุกคนต่างชะงักงันเพราะความตะลึง

ที่หนึ่ง!

ตั้งแต่แดนเก้าบนปรากฏจนถึงตอนนี้ ตำแหน่งนี้เคยถูกอวิ๋นชิ่งไป๋ยึดครองไปหลายปี และเคยถูกองค์ชายเซ่าเฮ่ายึดครองไปอีกหลายปี

แต่วันนี้ บนตำแหน่งนี้ ปรากฏชื่อใหม่ชื่อหนึ่ง…

หลินสวิน!

อีกทั้งระหว่างนั้นแทบไม่มีอุปสรรคใดๆ สำเร็จในลมหายใจเดียว เพราะเกิดขึ้นไวเกินไปถึงขั้นทำให้มีคนรู้สึกตั้งตัวไม่ติด

“เอ๊ะ เทพมารหลินล่ะ”

ทันใดนั้นมีคนร้องด้วยความตกใจ ทำลายความเงียบในที่นั้น

สายตาของทุกคนกวาดมองไปในบริเวณนั้น เพิ่งจะพบเอาในตอนนี้ว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เงาร่างของหลินสวินได้หายไปนานแล้ว และจ้าวจิ่งเซวียนก็หายไปพร้อมกันอย่างไร้ร่องรอยด้วย

“แดนยอดมรดก จะต้องเกิดคลื่นลมขึ้นในวันนี้แน่!”

ทุกคนต่างรู้ชัดว่าหลินสวินเข้าสู่แดนยอดมรดกแล้ว นี่เหนือความคาดหมายของทุกคน แต่ก็สมเหตุสมผล เพราะบุคคลระดับเขา หากไม่เข้าร่วมก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว

“แม้ช้าไปถึงสามวัน แต่ด้วยพลังต่อสู้ที่เทพมารหลินสำแดงออกมา การไปช่วงชิงอริยะนำพานั่นก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

มีคนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไม่ผิด แม้แต่อันดับขององค์ชายเซ่าเฮ่ายังถูกเบียดลงไป นี่ก็หมายความว่า อย่างน้อยในกระดานทองคำผู้กล้าเซ่าเฮ่าก็สู้เทพมารหลินไม่ได้มิใช่หรือ”

“เฮ้อ ก็ไม่รู้ว่าตอนที่เซ่าเฮ่ารู้ข่าวนี้จะรู้สึกอย่างไร”

ในที่นั้นฮือฮา เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่ขาดสาย

“อวิ๋นชิ่งไป๋เคยเป็นที่หนึ่ง สุดท้ายกลับถูกเทพมารหลินเอาชนะ ตอนนี้ในแดนยอดมรดกนั่น หากองค์ชายเซ่าเฮ่ากับเทพมารหลินเกิดความขัดแย้งกัน ใครจะชนะ”

ทุกคนต่างรอคอยอย่างมาก

วันนี้หลินสวินทำการทดสอบที่แดนอัคคีทักษิณ ได้อันดับหนึ่งมาครอบครองในรวดเดียว ชื่อเสียงสะเทือนแดนเก้าบน!

ที่หนึ่งอย่างเขายากจะถูกสั่นคลอนได้อีกอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเมื่อแดนยอดมรดกสิ้นสุดลง การชิงชัยในแดนมกุฎก็จะจบลงไปด้วย

……

แดนยอดมรดก

เป็นแดนลับที่อาบไล้อยู่ท่ามกลางแสงประกายศักดิ์สิทธิ์ กลางฟ้าดินเต็มไปด้วยไอยิ่งใหญ่

สนามประลองที่ใหญ่โตอย่างที่สุดแห่งหนึ่งตั้งอยู่ภายใน

สนามประลองแห่งนี้ราวกับหล่อด้วยของเหลวสีทองอร่ามทั้งสนาม เปล่งแสงประกายศักดิ์สิทธิ์ ด้านบนปกคลุมด้วยสัญลักษณ์ต้องห้ามเต็มแน่น

รอบๆ สนามประลองรูปปั้นหินเก่าแก่มากมายตั้งตระหง่านอยู่เนืองแน่น มากถึงพันกว่ารูป

รูปปั้นหินเหล่านี้มีเผ่ามนุษย์ที่แข็งแกร่งทรงพลัง มีเผ่ามังกรที่ปกคลุมด้วยเกล็ดและมีเขาเดี่ยวงอกบนศีรษะ มีหงส์เซียนที่ปีกงดงาม ท่าทางเย่อหยิ่ง มีเผ่าเถื่อนที่แบกเกาะหนัก เงาร่างสูงใหญ่ไร้ที่เปรียบ มี…

หนาแน่นแออัดและหลากหลายเผ่า

รูปปั้นหินทุกรูปล้วนปกคลุมด้วยกลิ่นอายปานอริยะเทพชั้นหนึ่ง แผ่กลิ่นอายน่าตกใจออกมา ราวกับอริยบุคคลบรรพกาลมากมายกำลังมองลงมายังสรรพชีวิต มีอานุภาพไร้ขีดจำกัด!

หากไม่ใช่เพราะเห็นกับตา คงชวนให้สงสัยว่านี่คือแดนเผยแพร่อริยชนแห่งหนึ่ง

ตูม!

ตอนนี้ในสนามประลองสีทองอร่ามนั่นกำลังมีการต่อสู้เกิดขึ้น ฝั่งหนึ่งเป็นชายชุดดำ อีกฝั่งคือจี้ซิงเหยาผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉา

ระหว่างทั้งสองการเข่นฆ่าดุเดือด แสงมรรคกึกก้อง ปลดปล่อยอานุภาพที่แตกต่างกัน ทำให้ในสนามมีเสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นไม่ขาดสาย

นอกสนามประลอง เหล่าผู้แข็งแกร่งกำลังจับตามองอย่างตื่นเต้น

ผู้แข็งแกร่งทุกคนที่สามารถเข้าสู่แดนยอดมรดกแห่งนี้ได้ แน่นอนว่าล้วนเป็นบุคคลระดับชั้นนำที่เคยมีชื่อปรากฏบนกระดานทองคำผู้กล้า

แต่ตอนนี้กลับมีลำดับเป็นไปตามระเบียบ เพียงแค่ชมการต่อสู้ แต่ไม่ได้มีคนแทรกแซง

นี่คือกฎของการต่อสู้

อยากได้ศุภโชคก็ต้องเข้าสู่สนามประลอง รับการต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ เพียงแค่ชนะสิบตาติดต่อกัน ก็จะได้ศุภโชค!

หากคนอื่นแทรกแซง จะต้องถูกตัดสิทธิ์

ในสามวันนี้การต่อสู้ในสนามประลองชั้นยอดแห่งนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนต่างรู้กฎของที่นี่ ไม่ว่าใครก็ต้องทำตาม

โครม!

ในสนาม พร้อมๆ กับเสียงพุ่งชนสะเทือนหูเสียงหนึ่ง ชายชุดดำนั่นพลันกระอักเลือด เงาร่างร่วงหล่นลงพื้นดังปึง

“ข้าน้อยสู้ไม่ได้ ยอมแพ้”

ชายชุดดำพูดอย่างขมขื่น

ชิ้ง!

จี้ซิงเหยาเก็บกระบี่วิญญาณในมือพร้อมพูดว่า “ออมมือแล้ว”

หน้าผากนางเต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้างามขาวซีด บนร่างแบบบางอ่อนช้อยก็บาดเจ็บหลายจุด เลือดย้อมเสื้อผ้า

แต่ตอนนี้ในใจนางกลับมีความดีใจที่พูดไม่ออกอย่างหนึ่ง ดวงตางามคู่นั้นยิ่งแฝงความตื่นเต้นที่ไม่สามารถปกปิดได้

เพราะนางชนะมาสิบสนามติดต่อกันแล้ว!

ในสนามระเบิดเสียงฮือฮาระลอกหนึ่ง มีคำชื่นชม คำยินดีและอิจฉา

ต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งชั้นยอดสิบคนติดต่อกัน ทั้งยังได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด ไม่เคยแพ้แม้แต่ครั้งเดียว นี่ใช่ว่าใครจะสามารถทำได้

“ไม่เสียทีที่เป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของเรือนกระบี่เร้นปุจฉาสำนักอันดับหนึ่งแห่งแดนฐิติประจิม วิชาประทับกระบี่ไตรภพของเทพธิดาจี้ เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุด อานุภาพไร้จำกัดแล้ว”.Aileen-novel.

หลายคนถอนหายใจ

โหม่ง!

บนเวิ้งฟ้าเสียงระฆังสายหนึ่งก้องสะท้อน ไม่รู้ดังมาจากตรงไหน เคร่งขรึมและทรงพลัง

พร้อมๆ กับเสียงนั่น แสงศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งปรากฏจากในสนามประลองชั้นยอดแล้วทะลวงเข้าสู่ร่างกายของจี้ซิงเหยา

จากนั้นนางก้าวเดินอย่างแผ่วเบา มุ่งหน้าไปยังรูปปั้นหินเก่าแก่นับพันรูปที่ตั้งตระหง่านอยู่นอกสนามประลอง

ศุภโชคประทับอยู่ในรูปปั้นเหล่านี้

รูปปั้นหินแต่ละรูป ล้วนเป็นตัวแทนมรดกที่เรียกได้ว่าไร้เทียมทานอย่างหนึ่ง!

มีเพียงผู้ชนะสิบสนามติด จึงจะมีสิทธิ์เข้าไปสัมผัสและเลือกมรดกหนึ่งอย่าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์