Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1353

อริยะแท้คนที่สองร่วงหล่น!

นี่ก็เหมือนการโจมตีอันหนักอึ้งที่กระแทกในใจอริยะทุกคนอย่างรุนแรง ทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป

ก่อนหน้านี้มีอูซิวทง จากนั้นก็ขู่หยา เรื่องการร่วงหล่นเช่นนี้ จะดำเนินต่อไปหรือไม่

ในใจหลายคนต่างสั่นไหวแล้ว

ฉัวะ!

หลินสวินทะลวงอากาศ สะบัดหมัดสังหารไปทางฝ่าเจิ้ง

ฝ่าเจิ้งสูดหายใจเข้าลึก เรียกประคำสารีริกธาตุเส้นหนึ่งในมือออกมา ทะยานขึ้นห้วงอากาศ ลูกประคำทุกเม็ดล้วนสลักมุนินทร์ไว้

บ้างยิ้มอย่างพอใจ

บ้างหันหลังให้ทุกคน

บ้างกำลังสวดภาวนา

บ้างคงลักษณ์รูปจำลอง ปางอสูรปราบมาร

…ลูกประคำเปล่งแสงจ้า จากนั้นกระจายกลางอากาศกะทันหัน แต่ละเม็ดร่วงลงมากลางฟ้าดิน แปรเปลี่ยนเป็นเงาร่างมุนินทร์มากมายยืนอยู่กลางอากาศ

“นะโม!”

ชุดภิกษุพลิ้วไหว ท่วงท่าเคร่งขรึม ปากประกาศเสียงธรรม

นี่คือวิชาไม้ตายของเขา นามว่า ‘เหล่าธรรมสิบทิศ’ มุมินทร์ทุกองค์ล้วนแปลงจากสารีริกธาตุมุนินทร์ในสมัยโบราณ มีอานุภาพระดับอริยะ

ทั้งหมดสิบแปดคน หมายความถึงการผลาญโลกสิบแปดชั้น

ตูม!

ทันใดนั้นฟ้าดินประหนึ่งกลายเป็นแดนพิสุทธ์ตะวันตก มุนินทร์สิบแปดองค์เคลื่อนทัพ เกิดปรากฏการณ์ประหลาดมากมาย มีมังกรฟ้าบินท่อง นกหงส์สยายปีก มีบุปผาสวรรค์ร่วงโรย พื้นดินผุดบัวทอง มีเสียงสวดท่องธรรมเป็นระลอกๆ ราวกับกระแสน้ำ…

“เจ้าลาหัวโล้นนี่กำลังสู้สุดชีวิต!”

ห่างออกไปพวกเยี่ยจิ่วเซียวสูดหายใจเย็นเยียบ

“เยือน!”

แทบจะในเวลาเดียวกัน เงาร่างหลินสวินพลันเปลี่ยนเป็นกำยำไร้เทียมทาน รอบตัวปรากฏแสงธรรมไร้สิ้นสุด เบียดเต็มจักรวาล

ใต้เท้าเขา บังเกิดดอกบัวใหญ่ที่สมบูรณ์สว่างไสว

จากนั้นด้านหลังเขาถึงขั้นสะท้อนเมืองพุทธที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตแห่งหนึ่ง

ครืนโครม

พลันเห็นบนท้องฟ้า หลินสวินราวกับพระพุทธที่มองลงมายังโลกเบื้องล่างอย่างเย่อหยิ่ง กำราบอานุภาพทั้งหมดของเงามายามุนินทร์สิบแปดองค์นั้นไว้

มังกรฟ้าครวญคร่ำ หงส์บินหนี บุปผาสวรรค์แตกสลาย บัวทองเสื่อมทลาย แม้แต่เสียงสวดเป็นระลอกๆ นั่นยังกลายเป็นเสียงอ่อนระทวย อ่อนแรงลงไป!

“เมืองอันบริสุทธิ์สงบนิ่ง บังเกิดดอกบัวยักษ์!”

ฝ่าเจิ้งที่อยู่ห่างออกไปราวกับถูกฟ้าผ่า เบิกตาโพลง สายตาจ้องรูปจำลองที่หลินสวินสำแดงออกมาในตอนนี้อย่างไม่ละสายตา

“นี่… นี่ไม่ใช่ของ…”

ตูม!

ไม่รอเสียงนั้นพูดจบ ก็ถูกประทับฝ่ามือสะท้านฟ้าสะเทือนดินขัดจังหวะ

พลันเห็นหลินสวินกดฝ่ามือหนึ่งออกมา มือใหญ่สีทองปานบดบังฟ้าปรากฏขึ้น ราวกับสามารถรองรับวัฏจักรว่างเปล่า ใหญ่ยิ่งเกินไปแล้ว

มองดูอย่างละเอียด ในฝ่ามือนั่นถึงกับมีเมืองพุทธเมืองหนึ่งรางๆ!

พร้อมกันนั้นพลานุภาพที่ปิดคลุมฟ้าดินก็แผ่กระจาย กำราบจนเหล่าอริยะที่กำลังปิดล้อมหลินสวินอยู่ต่างลมหายใจติดขัด ไม่กล้าจินตนาการถึงความน่ากลัวของการโจมตีนี้

เมืองพุทธในฝ่ามือ!

ลือกันว่าสมัยดึกดำบรรพ์มีอริยพุทธสยบมาร เมื่อกดฝ่ามือหนึ่ง เมืองพุทธปรากฏ มีพระโพธิสัตว์ อรหันต์ สามเณร อุบาสกดูแลอยู่ภายใน ใช้พลังทั้งเมืองหลอมรวมเป็นหนึ่งฝ่ามือ

หนึ่งฝ่ามือปรากฏออกไป แดนมารสามหมื่นลี้ถูกตีจมลง อสูรมารร้อยล้านแปรเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน สลายไปจากโลก!

อภินิหารวิชานี้ยอดเยี่ยมจนเหลือเชื่อ เป็นมรดกลับชั้นสูงของสำนักพุทธ ต่อให้เป็นระดับอริยะก็ยากจะสำแดงออกมา

นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ทำให้ฝ่าเจิ้งใจสั่น

เพราะในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดพลังของหลินสวินจึงน่ากลัวถึงเพียงนี้!

แต่เขาเตือนไม่ทันแล้ว ตอนที่หลินสวินกดฝ่ามือออกมา เขาที่เป็นผู้รับการโจมตีคนแรกพลันประสบแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

ในส่วนลึกของหัวใจยิ่งมีความหวั่นหวาดที่ไม่อาจควบคุมปรากฏขึ้น ทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว จิตใจแทบพังทลาย

ตูม!

ภายใต้สายตาของทุกคน ก็เห็นเงาร่างของฝ่าเจิ้งราวกับมด ไม่ว่าจะคำรามเดือดดาลดิ้นรนอย่างไร หรือสำแดงวิชาอภินิหารต้านทานก็ล้วนไม่มีประโยชน์

ภายใต้ฝ่ามือนี้ เขาถูกปกคลุมไปทั้งตัวประหนึ่งภูเขาเทพกดทับ ไม่อาจสั่นคลอนสักนิด

ทันใดนั้นลมฝ่ามือที่ไพศาลไร้เทียมทาน ทำเอาจักรวาลผืนนั้นถูกกดเป็นหลุมยักษ์ที่ทรุดทลาย ราวกับเหวลึก

“ทุกคนระวัง เขาคือ…”

เสียงของฝ่าเจิ้งหยุดไปโดยพลัน เพราะร่างกายที่ราวกับเทวราชไม่อาจเสื่อมสลายกลับเหมือนกระจกที่ถูกตีแตก แม้แต่เลือดยังถูกพลังฝ่ามือนั่นดับทำลาย

ทั้งสนามต่างตกใจ

ภาพนี้มีอานุภาพกดข่มปิดคลุมฟ้าอย่างแท้จริง ฝ่าเจิ้งนั่นเป็นถึงอริยะคนหนึ่ง แต่กลับตายภายใต้ประทับฝ่ามือสำนักพุทธ!

หนีไม่ทันด้วยซ้ำ!

นี่น่ากลัวเกินไป

อริยะคนอื่นๆ ต่างตกใจ จิตใจที่เดิมก็หวั่นไหวอยู่แล้วยิ่งไม่มั่นคง อริยะทุกคนล้วนมีความรู้สึกขนลุก

แม้เป็นพวกเซี่ยวปู้กุย เยี่ยจิ่วเซียวก็ล้วนตกใจอย่างสิ้นเชิง อึ้งงันปากอ้าตาค้าง

ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นเหล่าอริยะที่เป็นศัตรู หรือพวกเยี่ยจิ่วเซียว ตอนที่ได้ยินหลินสวินบอกว่าจะสังหารเหล่าอริยะโดยลำพัง ต่างรู้สึกเหลวไหล ไม่เชื่อถือ

แต่ตอนนี้ความจริงอันนองเลือดได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว

หลังจากอูซิวทงและขู่หยา ฝ่าเจิ้งแห่งอารามกษิติครรภ์เองก็ร่วงหล่น!

บนท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาดแสงเลือดอีกครั้ง มีเสียงเศร้าโศกจากฟ้ามาเยือน แต่ละภาพนี้ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นกดดันและน่ากลัว ทำเอาคนแทบหายใจไม่ออก

“ตาเจ้าแล้ว!”

เสียงสวบดังขึ้น หลินสวินไม่หยุดพักสักนิด เงาร่างหายไปกลางอากาศ พุ่งสังหารไปทางโก่วเจิ้นซานแห่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ

ความแค้นกับเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬดำเนินมายาวนานมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว

ตอนนั้นหญิงลึกลับเคลื่อนไหว เปลี่ยนอริยะเป็นสัตว์เดรัจฉาน เคยเหยียบย่ำถิ่นพำนักของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬราวกับแดนไร้มนุษย์

เจ็บหนักขนาดนี้ เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬนี่กลับยังไม่รู้จักจำ ในสถานการณ์เช่นนี้ยังจะส่งอริยะแท้มา หมายจะฆ่าหลินสวิน

นี่จะให้หลินสวินทนได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์