สรุปตอน ตอนที่ 1352 ฟ้าส่งเสียงร่ำไห้ – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
ตอน ตอนที่ 1352 ฟ้าส่งเสียงร่ำไห้ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ฝ่ามือนั่น ราวกับภิกษุเทพมาเยือนโลก ตัดศีรษะของอริยะแท้คนหนึ่ง!
ทั้งลานตื่นตะลึง ตกใจอย่างควบคุมไม่อยู่
อริยะแท้ หลอมรวมกฎเกณฑ์อริยมรรค คงอยู่คู่กาลสมัย ส่องแสงคู่สุริยันจันทรา เป็นการดำรงอยู่ที่สูงที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ อริยะแท้อย่างอูซิวทงไม่เพียงแค่ถูกฉีกทึ้งปีก ศีรษะของเขาก็ถูกตัดไปด้วย!
ทว่าอริยะไม่ได้ฆ่าง่ายขนาดนั้น
ทันใดนั้นอูซิวทงมีแสงอริยะไหลเวียนทั้งตัว ศีรษะและปีกของเขางอกขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงสีหน้าที่ขาวซีดขึ้นมาก เห็นได้ชัดว่าพลังดั้งเดิมบาดเจ็บอย่างหนัก
นี่ก็คืออริยะ!
ระดับอริยะแทบจะฝึกรวมสามมรรคาอย่างการหลอมกาย หลอมปราณ หลอมจิต ความแข็งแกร่งของชีวิตใกล้เคียงอมตะไม่เสื่อมสลาย
เหตุใดโลกนี้จึงมีพลังแห่งเจตจำนงและพลังจิตวิญญาณของเมธีจำนวนนับไม่ถ้วนผ่านการกัดกร่อนของกาลเวลาแล้ว ยังสามารถคงอยู่ได้ถึงตอนนี้
เพราะพลังที่พวกเขาครอบครอง ไปถึงขั้นตะลึงโลกตั้งนานแล้ว!
“เจ้าเดรัจฉาน!”
อูซิวทงคำรามเดือดดาลอย่างที่สุด ถูกหลินสวินสังหารจนน่าอนาถเช่นนี้ภายใต้สายตาของทุกคน ทำให้เขาทำหน้าไม่ถูกแล้ว
“ตาย!”
สายตาเย็นเยียบของหลินสวินราวกับสายฟ้า พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
ในระหว่างนั้นอริยะคนอื่นๆ ต่างลงมือ สำแดงวิชาอริยมรรคที่น่ากลัวปิดล้อมหลินสวิน แต่กลับไม่อาจขวางการเคลื่อนไหวของเขาได้
ก็เห็นการโจมตีอันหนาแน่นนั่นถูกพลังที่กระจายออกจากร่างหลินสวินทำลายล้างทั้งหมด แม้แต่สมบัติอริยะบางส่วนก็ล้วนสะเทือนลอยกลับไป
แข็งกร้าวจนน่าสับสน!
ส่วนอูซิวทงที่กำลังระเบิดความโกรธสีหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในใจเต้นระทึก ลอบอุทานว่าแย่แล้ว
แต่ตอนนี้เองหลินสวินได้ชูหมัดสังหารเข้ามาแล้ว
ตูม!
ไอสังหารดั่งฟ้าดาราใหญ่ไพศาล รวบรวมไว้ในพลังหมัดสว่างไสว แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ ราวกับเทพไท้ยกภูเขาเทพขึ้นแล้วกระแทกลงมาอย่างหนัก
อูซิวทงสะบัดปีกทันที ลมคลั่งม้วนตัว หลบหนีอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายกลับเหมือนอยู่เหนือการควบคุม ยากจะเคลื่อนย้าย ถูกพลังหมัดอันน่ากลัวนั่นปกคลุม
“ไม่…” เขาคำราม หน้าตาบิดเบี้ยวไปหมด เสียอาการอย่างสิ้นเชิง รับรู้ได้ถึงความสิ้นหวังและหวาดกลัวอย่างหนึ่ง
ปัง!
หมัดเดียว โจมตีศีรษะของเขาจนระเบิดอีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวและใจสั่นที่สุดคือ ภายใต้การปกคลุมของพลังหมัดนี้ ร่างกายของอูซิวทงล้วนระเบิดออกเป็นชุ่นๆ ตั้งแต่ศีรษะลงมา
เลือดกระจายซัดสาด
ต่อให้ร่างอริยะแท้ของอูซิวทงแทบจะเป็นอมตะไม่มีวันเสื่อมสลาย แต่ก็ต้านหมัดในตอนนี้ของหลินสวินไม่ได้!
ตูม! ไอลีนโนเวล
พลังหมัดของหลินสวินราวกับหินโม่ยักษ์ ทำให้ฟ้าดินแถบนั้นล้วนถูกลบล้าง ส่วนเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ กลิ่นอายของอูซิวทง…
ทั้งหมดล้วนแปรเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านภายใต้การบดขยี้น่าสะพรึง ไม่เหลือแม้แต่ซาก ตายอย่างหมดจด!
ทั้งลานเงียบกริบ
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก ยากจะเชื่อ
ตายแล้วหรือ
ในสายตาของคนโลก ระดับอริยะราวกับการดำรงอยู่ที่ไม่เสื่อมคลาย ในช่วงหมื่นปีที่ผ่านมาน้อยมากที่จะมีผู้แข็งแกร่งระดับอริยะแท้ร่วงหล่น
เพราะอริยะ ฆ่าได้ยากเกินไป!
แม้เหลือความคิดเพียงเสี้ยวเดียว เลือดพิสุทธิ์หยดเดียว ล้วนสามารถหล่อหลอมร่างต้นแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ
แต่ตอนนี้เวลานี้ ร่างกาย จิตวิญญาณและการรับรู้ของอูซิวทงล้วนถูกทำลาย!
ห่างออกไปเยี่ยจิ่วเซียว เซี่ยวปู้กุยและเหวยฉางอวิ๋นต่างอึ้งไป นี่… เหลือเชื่อเกินไปแล้ว…
ตูม!
และตอนนี้เองเหนือห้วงฟ้าปรากฏแสงเลือดสดชั้นหนึ่ง กลิ่นอายราวกับมหามรรคพังทลายโคจรอยู่รางๆ มีเสียงร่ำไห้โศกเศร้าดังสะท้อน
“เมื่ออริยะร่วงหล่น ฟ้าส่งเสียงร่ำไห้!”
ในเมืองที่อยู่ห่างออกไปไกล ผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วน สิ่งมีชีวิตวิญญาณมากมาย ยามนี้ต่างสั่นไปทั้งตัว สายตาจ้องท้องฟ้าที่ถูกสีเลือดย้อมแดงโดยไม่คลาดสายตา
ผ่านไปกี่ปีแล้ว ก็วันนี้แหละที่มีบุคคลระดับอริยะแท้ร่วงหล่น!
“ตายแล้ว!”
ในสนามรบเหล่าอริยะก็สังเกตเห็นทันทีว่าฟ้าประทานปรากฏการณ์ประหลาด
สีหน้าของพวกเขามืดทะมึนไม่แน่วนิ่ง สายตาที่มองหลินสวินก็แฝงความประหลาดใจและหวาดกลัว การตายของอริยะแท้คนหนึ่ง ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบกระเทือนจิตใจไปด้วย
เป็นพลังที่ใครทิ้งเอาไว้กันแน่ ถึงกับทำให้มดปลวกระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดตัวหนึ่งมีอานุภาพสังหารอริยะ
“ทุกคนอย่าได้ลนลาน บนโลกนี้ไม่เคยมีระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดที่ก้าวข้ามระดับอริยะไปได้ เด็กนี่ยืนหยัดได้ไม่นานหรอก!”
ฝ่าเจิ้งแห่งอารามกษิติครรภ์เอ่ยเสียงขรึม เสียงธรรมดังก้องสะท้อนในฟ้าดิน
พวกขู่หยา ซางเย่ โม่คงเองก็รู้เรื่องนี้ดี ต่างสายตาวูบไหว ไม่ได้ถูกการตายของอูซิวทงข่มขวัญจนถอยหนี
“ลาหัวโล้น เริ่มจากฆ่าเจ้าก่อน!”
สีหน้าหลินสวินเย็นเยียบ เงาร่างพุ่งขึ้นกลางอากาศ เคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
“ข้าเอง!”
ซย่าโหวเสวี่ยแห่งลัทธิบูชาจันทร์หัวเราะเยาะ รถศึกสำริดบินล่องกลางอากาศ ไอมงคลพวยพุ่ง แสงเลือดท่วมท้น สภาพการณ์ผิดปกติจนน่าตกใจ
เคร้ง!
หลินสวินยื่นมือข้างหนึ่งออกไปตบใส่รถศึกสำริดผ่านห้วงอากาศ ซัดจนมันปลิวออกไป
นี่น่าอักอ่วนมาก
เพราะตั้งแต่เปิดศึกมา นี่เป็นครั้งที่สามที่ซย่าโหวเสวี่ยถูกซัดถอยออกไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันหลินสวินก็โบกมือ ดาบหักโฉบพุ่ง ปรากฏอยู่ในฝ่ามือและกวาดเบาๆ คราหนึ่ง
เสียงปังดังสนั่น ลูกประคำสารีริกธาตุที่ฝ่าเจิ้งเรียกออกมาถูกฟันผ่าจนกระเด็น
นี่ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังแข็งแกร่งมาก!
“เจ้าเดรัจฉาน ยังกล้ากระทำการชั่วช้าอีกหรือ”
โม่คงตวาด แปลงเป็นมีมือนับพัน ราวกับตะขาบยักษ์อย่างไรอย่างนั้น แขนทุกข้างล้วนเงินยวง พรั่งพรูแสงอริยะ ก่อนประกบเข้าหากันส่งประทับฝ่ามือนับร้อยพันออกมา
ฟุ่บๆๆ!
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นไพ่ตายของนางแล้ว เป็นไพ่ใบสุดท้าย
คนอื่นๆ ก็โจมตีอย่างบ้าคลั่ง ไม่ได้เก็บงำใดๆ เช่นกัน ใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตน
เพียงแต่มุกอริยะปักสมุทรสิบสองเม็ดนั้น กลับถูกเจดีย์สมบัติที่หลินสวินพลิกมือเรียกออกมากระแทกปลิว
เจดีย์สมบัติแปดเหลี่ยม ราวกับหลอมจากกระจกเทพทองศักดิ์สิทธิ์ มีศักยภาพกำราบสี่ทิศ เหยียดหยันทั่วหล้า พร่างพรมแสงมรรคทองนิลกาฬอันงดงามทะลวงฟ้า
เจดีย์สมบัติไร้อักษร!
เพียงแต่พอถูกหลินสวินในตอนนี้ใช้ เจดีย์นี่กลับแตกต่างจากที่ผ่านมาชัดเจน แผ่อานุภาพสุดยอด สว่างไสวไร้ขอบเขต
ตามที่ศิษย์พี่เสวียนคงแห่งคีรีแห่งดวงกมลพูด เจดีย์นี้ลึกลับอย่างที่สุด ราวกับคงอยู่นิรันดร์ มีนัยแห่งความยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมสลาย จึงมีชื่อเรียกว่า ‘มหามรรคไร้สิ้นสุด’!
ครืนโครม!
เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดจรัสแสง ระลอกคลื่นราวกับกระแสน้ำม้วนตัว
เสียงพรูดดังขึ้น ซางเย่กระอักเลือดถอยไป สีหน้าซีดเซียว ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจ มุกอริยะปักสมุทรสิบสองเม็ดนั่น เป็นสมบัติอริยะที่สืบทอดมานับแต่บรรพบุรุษของเผ่าวิญญาณสมุทร!
แต่ตอนนี้กลับถูกบดขยี้ภายในการโจมตีเดียว!
“ฟัน!”
ขู่หยาคำราม กระบี่มรรคสีเขียวเคลื่อนออกไป เพียงพอจะเฉือนฟันตะวันจันทราและดาราให้ร่วงหล่น ตอนที่เจตกระบี่นี้พุ่งขึ้นมา แม้แต่ท้องฟ้ายังถูกกรีดขาด!
ฉึก!
แทบจะในเวลาเดียวกัน กระบี่เทพเล่มหนึ่งโฉบออกจากมือหลินสวิน ยาวสองฉื่อสามชุ่น เก่าแก่ทึมเทา หนาหนักไร้ความคม
เป็นสมบัติชั้นยอดที่ช่วงชิงมาจากมืออวิ๋นชิ่งไป๋ กระบี่เทียมฟ้า!
ชิ้งๆ!
เจตกระบี่สองสายประชันกัน ส่งเสียงกึกก้องสะเทือนหู
หลังจากนั้นก็เห็นกระบี่เทียมฟ้าแทงทำลายการขวางกั้นทั้งหมด ซัดกระบี่มรรคสีเขียวของขู่หยาให้กระเด็นออกไป
ฟุ่บ!
จากนั้นกระบี่เทียมฟ้าใช้อานุภาพที่ไม่อาจขวางกั้นแทงใส่หน้าอกขู่หยา ตอกตรึงไว้กลางอากาศ ไวเกินไปแล้ว ทุกอย่างล้วนง่ายดาย!
คนแข็งแกร่งเช่นขู่หยา ในฐานะอริยะกระบี่ที่แท้จริงคนหนึ่งยังสกัดไว้ไม่อยู่ แสงอริยะคุ้มครองกายล้วนถูกโจมตียับเยิน
“กระบี่เทียมฟ้า…” ขู่หยาอึ้งงัน เขาคิดไม่ถึงว่ากระบี่พิทักษ์สำนักของสำนักตน จะสังหารตนด้วยวิธีเช่นนี้
“ศิษย์พี่!”
ห่างออกไปอวี๋ซิวเบิกตาถลน
ฟุ่บ!
ทันใดนั้นกระบี่เทียมฟ้าก็สั่นคราหนึ่ง ทั้งตัวขู่หยาระเบิดแตก หมอกเลือดลอยอวล ภายใต้การม้วนตัวของปราณกระบี่อันน่ากลัวนั่น เลือดเนื้อที่ระเบิดจากร่างของเขาล้วนถูกบดขยี้ดับสลาย
นี่ทำให้ทุกคนตะลึง กะทันหันเกินไปแล้ว!
ตอนนี้หลินสวินได้โจมตีไปยังฝ่าเจิ้งแห่งอารามกษิติครรภ์อีก หากว่ากันถึงผู้ที่เขาชิงชังที่สุด แน่นอนว่าย่อมเป็นผู้ฝึกปราณของอารามกษิติครรภ์
และในเวลาเดียวกัน เหนือท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงเลือดอีกครั้ง มีเสียงราวกับเทพมารร่ำไห้ดังก้องอยู่กลางฟ้าดิน
อริยะแท้อย่างขู่หยาร่วงหล่น ทำให้เกิดเสียงครวญจากฟากฟ้าอีกครั้ง!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์