ฝ่ามือนั่น ราวกับภิกษุเทพมาเยือนโลก ตัดศีรษะของอริยะแท้คนหนึ่ง!
ทั้งลานตื่นตะลึง ตกใจอย่างควบคุมไม่อยู่
อริยะแท้ หลอมรวมกฎเกณฑ์อริยมรรค คงอยู่คู่กาลสมัย ส่องแสงคู่สุริยันจันทรา เป็นการดำรงอยู่ที่สูงที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ อริยะแท้อย่างอูซิวทงไม่เพียงแค่ถูกฉีกทึ้งปีก ศีรษะของเขาก็ถูกตัดไปด้วย!
ทว่าอริยะไม่ได้ฆ่าง่ายขนาดนั้น
ทันใดนั้นอูซิวทงมีแสงอริยะไหลเวียนทั้งตัว ศีรษะและปีกของเขางอกขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงสีหน้าที่ขาวซีดขึ้นมาก เห็นได้ชัดว่าพลังดั้งเดิมบาดเจ็บอย่างหนัก
นี่ก็คืออริยะ!
ระดับอริยะแทบจะฝึกรวมสามมรรคาอย่างการหลอมกาย หลอมปราณ หลอมจิต ความแข็งแกร่งของชีวิตใกล้เคียงอมตะไม่เสื่อมสลาย
เหตุใดโลกนี้จึงมีพลังแห่งเจตจำนงและพลังจิตวิญญาณของเมธีจำนวนนับไม่ถ้วนผ่านการกัดกร่อนของกาลเวลาแล้ว ยังสามารถคงอยู่ได้ถึงตอนนี้
เพราะพลังที่พวกเขาครอบครอง ไปถึงขั้นตะลึงโลกตั้งนานแล้ว!
“เจ้าเดรัจฉาน!”
อูซิวทงคำรามเดือดดาลอย่างที่สุด ถูกหลินสวินสังหารจนน่าอนาถเช่นนี้ภายใต้สายตาของทุกคน ทำให้เขาทำหน้าไม่ถูกแล้ว
“ตาย!”
สายตาเย็นเยียบของหลินสวินราวกับสายฟ้า พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
ในระหว่างนั้นอริยะคนอื่นๆ ต่างลงมือ สำแดงวิชาอริยมรรคที่น่ากลัวปิดล้อมหลินสวิน แต่กลับไม่อาจขวางการเคลื่อนไหวของเขาได้
ก็เห็นการโจมตีอันหนาแน่นนั่นถูกพลังที่กระจายออกจากร่างหลินสวินทำลายล้างทั้งหมด แม้แต่สมบัติอริยะบางส่วนก็ล้วนสะเทือนลอยกลับไป
แข็งกร้าวจนน่าสับสน!
ส่วนอูซิวทงที่กำลังระเบิดความโกรธสีหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในใจเต้นระทึก ลอบอุทานว่าแย่แล้ว
แต่ตอนนี้เองหลินสวินได้ชูหมัดสังหารเข้ามาแล้ว
ตูม!
ไอสังหารดั่งฟ้าดาราใหญ่ไพศาล รวบรวมไว้ในพลังหมัดสว่างไสว แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ ราวกับเทพไท้ยกภูเขาเทพขึ้นแล้วกระแทกลงมาอย่างหนัก
อูซิวทงสะบัดปีกทันที ลมคลั่งม้วนตัว หลบหนีอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายกลับเหมือนอยู่เหนือการควบคุม ยากจะเคลื่อนย้าย ถูกพลังหมัดอันน่ากลัวนั่นปกคลุม
“ไม่…” เขาคำราม หน้าตาบิดเบี้ยวไปหมด เสียอาการอย่างสิ้นเชิง รับรู้ได้ถึงความสิ้นหวังและหวาดกลัวอย่างหนึ่ง
ปัง!
หมัดเดียว โจมตีศีรษะของเขาจนระเบิดอีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวและใจสั่นที่สุดคือ ภายใต้การปกคลุมของพลังหมัดนี้ ร่างกายของอูซิวทงล้วนระเบิดออกเป็นชุ่นๆ ตั้งแต่ศีรษะลงมา
เลือดกระจายซัดสาด
ต่อให้ร่างอริยะแท้ของอูซิวทงแทบจะเป็นอมตะไม่มีวันเสื่อมสลาย แต่ก็ต้านหมัดในตอนนี้ของหลินสวินไม่ได้!
ตูม! ไอลีนโนเวล
พลังหมัดของหลินสวินราวกับหินโม่ยักษ์ ทำให้ฟ้าดินแถบนั้นล้วนถูกลบล้าง ส่วนเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ กลิ่นอายของอูซิวทง…
ทั้งหมดล้วนแปรเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านภายใต้การบดขยี้น่าสะพรึง ไม่เหลือแม้แต่ซาก ตายอย่างหมดจด!
ทั้งลานเงียบกริบ
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก ยากจะเชื่อ
ตายแล้วหรือ
ในสายตาของคนโลก ระดับอริยะราวกับการดำรงอยู่ที่ไม่เสื่อมคลาย ในช่วงหมื่นปีที่ผ่านมาน้อยมากที่จะมีผู้แข็งแกร่งระดับอริยะแท้ร่วงหล่น
เพราะอริยะ ฆ่าได้ยากเกินไป!
แม้เหลือความคิดเพียงเสี้ยวเดียว เลือดพิสุทธิ์หยดเดียว ล้วนสามารถหล่อหลอมร่างต้นแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ
แต่ตอนนี้เวลานี้ ร่างกาย จิตวิญญาณและการรับรู้ของอูซิวทงล้วนถูกทำลาย!
ห่างออกไปเยี่ยจิ่วเซียว เซี่ยวปู้กุยและเหวยฉางอวิ๋นต่างอึ้งไป นี่… เหลือเชื่อเกินไปแล้ว…
ตูม!
และตอนนี้เองเหนือห้วงฟ้าปรากฏแสงเลือดสดชั้นหนึ่ง กลิ่นอายราวกับมหามรรคพังทลายโคจรอยู่รางๆ มีเสียงร่ำไห้โศกเศร้าดังสะท้อน
“เมื่ออริยะร่วงหล่น ฟ้าส่งเสียงร่ำไห้!”
ในเมืองที่อยู่ห่างออกไปไกล ผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วน สิ่งมีชีวิตวิญญาณมากมาย ยามนี้ต่างสั่นไปทั้งตัว สายตาจ้องท้องฟ้าที่ถูกสีเลือดย้อมแดงโดยไม่คลาดสายตา
ผ่านไปกี่ปีแล้ว ก็วันนี้แหละที่มีบุคคลระดับอริยะแท้ร่วงหล่น!
“ตายแล้ว!”
ในสนามรบเหล่าอริยะก็สังเกตเห็นทันทีว่าฟ้าประทานปรากฏการณ์ประหลาด
สีหน้าของพวกเขามืดทะมึนไม่แน่วนิ่ง สายตาที่มองหลินสวินก็แฝงความประหลาดใจและหวาดกลัว การตายของอริยะแท้คนหนึ่ง ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบกระเทือนจิตใจไปด้วย
เป็นพลังที่ใครทิ้งเอาไว้กันแน่ ถึงกับทำให้มดปลวกระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดตัวหนึ่งมีอานุภาพสังหารอริยะ
“ทุกคนอย่าได้ลนลาน บนโลกนี้ไม่เคยมีระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดที่ก้าวข้ามระดับอริยะไปได้ เด็กนี่ยืนหยัดได้ไม่นานหรอก!”
ฝ่าเจิ้งแห่งอารามกษิติครรภ์เอ่ยเสียงขรึม เสียงธรรมดังก้องสะท้อนในฟ้าดิน
พวกขู่หยา ซางเย่ โม่คงเองก็รู้เรื่องนี้ดี ต่างสายตาวูบไหว ไม่ได้ถูกการตายของอูซิวทงข่มขวัญจนถอยหนี
“ลาหัวโล้น เริ่มจากฆ่าเจ้าก่อน!”
สีหน้าหลินสวินเย็นเยียบ เงาร่างพุ่งขึ้นกลางอากาศ เคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
“ข้าเอง!”
ซย่าโหวเสวี่ยแห่งลัทธิบูชาจันทร์หัวเราะเยาะ รถศึกสำริดบินล่องกลางอากาศ ไอมงคลพวยพุ่ง แสงเลือดท่วมท้น สภาพการณ์ผิดปกติจนน่าตกใจ
เคร้ง!
หลินสวินยื่นมือข้างหนึ่งออกไปตบใส่รถศึกสำริดผ่านห้วงอากาศ ซัดจนมันปลิวออกไป
นี่น่าอักอ่วนมาก
เพราะตั้งแต่เปิดศึกมา นี่เป็นครั้งที่สามที่ซย่าโหวเสวี่ยถูกซัดถอยออกไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันหลินสวินก็โบกมือ ดาบหักโฉบพุ่ง ปรากฏอยู่ในฝ่ามือและกวาดเบาๆ คราหนึ่ง
เสียงปังดังสนั่น ลูกประคำสารีริกธาตุที่ฝ่าเจิ้งเรียกออกมาถูกฟันผ่าจนกระเด็น
นี่ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังแข็งแกร่งมาก!
“เจ้าเดรัจฉาน ยังกล้ากระทำการชั่วช้าอีกหรือ”
โม่คงตวาด แปลงเป็นมีมือนับพัน ราวกับตะขาบยักษ์อย่างไรอย่างนั้น แขนทุกข้างล้วนเงินยวง พรั่งพรูแสงอริยะ ก่อนประกบเข้าหากันส่งประทับฝ่ามือนับร้อยพันออกมา
ฟุ่บๆๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์