ตุบ! ตุบ!
เสียงที่หนาหนักทุ้มลึกดังขึ้น ในบรรดาคนชั้นนำตระกูลจั่ว คนที่พลังปราณสูงสุดมีปราณระดับกึ่งราชัน คนที่พลังปราณต่ำที่สุดก็เป็นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ
แต่ตอนนี้ต่างพากันคุกเข่าลง!
เสียงที่ต่ำหนักนั่นล้วนเป็นเสียงเข่ากระแทกพื้น
ครืนโครม
เวลาเดียวกันนั้นในห้องโถงหรูหราทองระยับ โต๊ะ ถ้วยชา ของตกแต่งล้วนแตกระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง
ส่วนสาวใช้และผู้ติดตามเหล่านั้นต่างถูกสะเทือนจนสลบ เลือดออกเจ็ดทวาร
และนี่ ก็คืออานุภาพที่แผ่ออกจากตัวหลินสวิน อานุภาพของมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดที่ฟันฝ่าออกมาท่ามกลางภูเขาศพทะเลเลือด!
พริบตานี้ หลินสวินยืนอยู่ในห้องโถงเพียงลำพัง ราวกับเทพที่มองลงมายังฝูงชนอย่างเย่อหยิ่ง
พริบตานี้ พวกจั่วเวยไห่ จั่วปู้กู่ต่างหน้าซีด ในใจสะท้านสะเทือน ถูกความกลัวกลบมิดทั้งนอกและใน
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจอย่างสิ้นเชิงแล้วว่า เหตุใดหลินสวินจึงกล้าขึ้นเขามาเพียงลำพัง!
เพียงแต่…
พวกเขาคล้ายยากจะเชื่อ
ตอนนั้นเด็กนี่เป็นเพียงมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น เหตุใดเพียงสิบกว่าปีก็เปลี่ยนเป็นน่ากลัวขนาดนี้แล้ว
พลังของเขาถึงขั้นไหนแล้ว
ระดับราชัน?
หรือว่าจะสูงกว่า
พวกเขาดูไม่ออก ต่างตัวสั่นระริก เศร้ารันทดราวกับสูญเสียบุพการี
ก่อนหน้านี้ที่นี่เหลืองอร่ามระยิบระยับ เสียงหัวเราะไม่ขาดสาย คึกคักครื้นเครง ในฐานะผู้ปกครองตระกูลจั่ว พวกเขากำลังหารือกันว่าจะบีบให้ตระกูลหลินไปสู่ความตายอย่างไร มั่นใจเต็มเปี่ยม
แต่ตอนนี้…
เพียงเพราะการปรากฏตัวของหลินสวินคนเดียว ก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป!
“อย่างข้า พอหรือไม่”
แววตาหลินสวินกระจ่างชัด ไร้ซึ่งอารมณ์
ประโยคเดียวทำเอาบรรยากาศในโถงยิ่งกดดัน พาให้คนรู้สึกหายใจไม่ออก
เพียงแค่อานุภาพก็กดดันจนพวกเขาลุกไม่ขึ้น ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืน ถ้าลงมือจริงๆ ใครจะสามารถสู้ได้
“ช่างกล้านัก ข้าอยากเห็นยิ่งว่าในจักรวรรดินี้ใครกล้ามาก่อเรื่องถึงตระกูลจั่วของข้าเช่นนี้!”
ทันใดนั้นเสียงตะคอกหนึ่งดังขึ้น
พร้อมกับเสียงนั้นเงาร่างกลุ่มหนึ่งโฉบเข้าโถง มีมากถึงเจ็ดแปดคน ทั้งชายชราที่เผ้าผมหนวดเคราขาวโพลน หญิงชราที่ท่าทางงกเงิ่น ชายที่หน้าตาราวกับคนหนุ่ม…
แต่ละคนล้วนแผ่อานุภาพของผู้แข็งแกร่งระดับราชัน!
โดยเฉพาะชายที่เป็นผู้นำ อานุภาพแข็งแกร่งที่สุด
ผมดำของเขาราวกับหมึก เรือนกายผึ่งผายราวกับภูเขาที่สูงใหญ่ ยามเมื่อกะพริบตามีประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน
นี่คือสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันที่ถูกเรียกว่า ‘เสาเทพค้ำสมุทร’ คนหนึ่งของตระกูลจั่ว นามว่าจั่วเฉิน ก้าวสู่มรรคาอมตะตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว
เช่นเดียวกัน จั่วเฉินก็เป็นเสาหลักของตระกูลจั่ว เพราะมีเขาควบคุมดูแล จึงทำให้ตระกูลจั่วสามารถอยู่ในหมู่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงมาโดยตลอด ไม่ถูกสั่นคลอนจนถึงตอนนี้!
เจ็ดคนที่อยู่ด้านหลังจั่วเฉินแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา มักปิดด่านฝึกปราณ หากไม่ประสบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายก็ไม่มีทางปรากฏตัว
แต่ตอนนี้พวกเขามาพร้อมกับจั่วเฉิน!
เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ที่โถงใหญ่ดึงดูดความสนใจจากพวกเขา
“ผู้อาวุโส!”
บนพื้น พวกจั่วเวยไห่ส่งเสียงอย่างเศร้าโศกปนขึ้งโกรธ หลายคนดีใจจนร้องไห้ราวกับได้เจอดาวช่วยชีวิต
“ช่างกล้าดีจริงๆ!”
ทันทีที่พวกจั่วเฉินมาถึงและมองเห็นสภาพยุ่งเหยิงอึมครึมนั้น ล้วนสีหน้ามืดทะมึน นัยน์ตาเผยไอสังหาร สายตาพากันมองไปยังหลินสวินซึ่งยืนอยู่กลางโถง
‘ผู้อาวุโส เจ้าหมอนี่คือ…’
จั่วเวยไห่รีบสื่อจิต รายงานฐานะของหลินสวินอย่างละเอียด
พอรู้ฐานะของหลินสวิน พวกจั่วเฉินเองก็อดประหลาดใจไม่ได้ สายตาที่มองหลินสวินเปลี่ยนไปอีกครั้ง ราวกับยากจะเชื่อ
เด็กหนุ่มที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนมีพลังปราณระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น ตอนนี้กลับผงาดขึ้นมากลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่ก้าวสู่ระดับราชันแล้วหรือ
นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปอย่างเห็นได้ชัด!
“มากันครบแล้วหรือ ก็ดี ถึงเวลาเข้าเรื่องแล้ว”
ตอนนี้เองหลินสวินพลันเอ่ยปาก ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่รีบลงมือก็เพราะรอเวลานี้
หากไม่กำจัดพลังที่แท้จริงของตระกูลจั่ว ย่อมไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะลบชื่อของตระกูลจั่วไปจากนครต้องห้าม!
“หลินสวิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”
จั่วเฉินสีหน้าอึมครึม ในใจเขาเองประหลาดใจเล็กน้อย เพราะไม่ว่าเขาจะสัมผัสอย่างไร ก็ไม่สามารถดูออกว่าพลังปราณของหลินสวินอยู่ในระดับไหนกันแน่
นี่มีเพียงสองความเป็นไปได้
หนึ่งคือพลังปราณของหลินสวินในตอนนี้สูงกว่าเขามาก
สองคือหลินสวินมีวิชาลับ สามารถปิดบังกลิ่นอายของพลังรอบตัว
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ทำให้จั่วเฉินรู้สึกไม่ปลอดภัย
หากไม่เป็นเช่นนี้ ตอนที่เห็นแต่ละภาพในห้องโถง จั่วเฉินคงลงมือทันทีโดยไม่สนอะไรแล้ว!
“ข้ากำลังแก้แค้น มีอะไรไม่ถูกต้องเล่า”
หลินสวินยิ้มน้อยๆ
เผชิญหน้ากับระดับราชันกลุ่มหนึ่งแต่ยังคงสงบเช่นนี้ นี่ทำให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยในใจจั่วเฉินทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
“แก้แค้นหรือ ข้าว่าเจ้าเบื่อจะมีชีวิตแล้วมากกว่า!”
ทันใดนั้นระดับราชันคนหนึ่งตวาดเสียงเย็นอย่างอดไม่ได้
นี่คือหญิงชราคนหนึ่ง ในมือถือไม้เท้าอสรพิษเขียว พอเห็นว่าคนนอกอย่างหลินสวินกล้ามาอวดดีเช่นนี้ในอาณาเขตของบ้านตน ทำให้นางโทสะพวยพุ่ง ไอสังหารพลุ่งพล่าน
“หนวกหู”
ริมฝีปากหลินสวินเอ่ยออกมาเบาๆ สองคำ แปรเปลี่ยนเป็นนัยเร้นลับแห่งเสียงคำรามผูเหลาอย่างหนึ่งกระจายออกไป
ราวกับคำสั่งเด็ดขาด
ปึง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์