พลังของกลุ่มคนเบื้องบนตระกูลจั่วถูกกวาดล้าง ก็อยู่ห่างจากการดับสูญไม่ไกลแล้ว!
สามารถจินตนาการได้ว่า เมื่อตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงตระกูลหนึ่งสูญเสียพลังข่มขวัญสี่ทิศ อำนาจตกต่ำ จะต้องมีหมาป่าหิวโหยมากมายฉวยโอกาสนี้เอาเปรียบและเหยียบย่ำ
แต่สำหรับหลินสวินนี่ยังไม่พอ
หลังจากคืนนี้ เขาจะกำราบอิทธิพล พลัง รากฐานทั้งหมดที่ตระกูลจั่วครอบครองทีละก้าว ทำให้ตระกูลนี้ไร้ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะลืมตาอ้าปากได้อีก!
“ตระกูลฉิน ตาพวกเจ้าแล้ว…”
หลินสวินเก็บสายตากลับมา เงาร่างลอยขึ้นและแปรเปลี่ยนเป็นรุ้งศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนออกไป
หากตอนนี้คนใหญ่คนโตอย่างจักรพรรดิ ราชันกระหายเลือดจ้าวไท่ไหลยังอยู่ จะต้องห้ามการกระทำอันบ้าคลั่งเช่นนี้ของหลินสวินแน่
แต่บางทีทุกอย่างอาจถูกฟ้ากำหนดไว้แล้ว
นครต้องห้ามในคืนนี้ ไม่มีใครสามารถห้ามหลินสวินได้!
……
ภูเขาแสงมรกต
อาณาเขตของตระกูลฉินผู้เป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง
“หลังจากคืนนี้ตระกูลหลินจะต้องสิ้นแน่ สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ก็ไม่พ้นความช่วยเหลือของทุกคน มา ข้าดื่มให้ทุกคนสักจอก”
ในตำหนักหรูหรางดงาม แขกผู้มีเกียรติมากันมากมายเต็มงาน ฉินเป่าจี้ผู้นำตระกูลฉินลุกขึ้น ชูจอกพูด
“เชิญ”
ภายในโถงใหญ่มีเหล่าคนใหญ่คนโตที่ถูกเชิญมานั่งอยู่ ต่างชูจอกขึ้นแล้วดื่มหมดในรวดเดียว
“หลังจากสิ้นตระกูลหลิน กิจการในครอบครองของมัน ตระกูลฉินของเรากับตระกูลจั่วจะแบ่งกันฝั่งละสามส่วน อีกสองส่วนถวายให้ราชวงศ์จักรวรรดิ ส่วนที่เหลืออีกสองส่วน ให้ขุมอำนาจแต่ละฝ่ายแบ่งกัน”
ฉินเป่าจี้พูดสบายๆ “เชื่อว่านี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทุกคนอยากเห็น”
“’นั่นก็จริงๆ”
แขกที่นั่งอยู่ต่างพยักหน้า ยิ้มอย่างปลื้มปลิ่ม
หลายปีมานี้ขุมอำนาจที่พวกเขาอยู่ล้วนเคยร่วมเคลื่อนไหวเล่นงานอิทธิพลตระกูลหลิน ถึงขั้นที่ขุมอำนาจซึ่งเดิมทีเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลินยังขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์อย่างชัดเจน
และตอนนี้ ตระกูลหลินกำลังจะดับสิ้น ก็ถึงเวลาที่จะแบ่งทรัพย์หลังศึกแล้ว นี่จะไม่ให้ตัวแทนขุมอำนาจเหล่านี้ดีใจได้อย่างไร
“พี่ฉิน ขอถามสักหน่อยว่าหากภูเขาชำระจิตว่าง ใครจะครอบครอง”
ทันใดนั้นจู่ๆ ก็มีคนถามขึ้น
บรรยากาศในโถงเงียบลงชั่วขณะ ทุกคนต่างรู้ดีว่าเนื้อชิ้นใหญ่ที่สุดของตระกูลหลิน ก็คือภูเขาชำระจิตที่พวกเขาครอบครอง
ในฐานะหนึ่งในเจ็ดสิบสองภูเขาแห่งอำนาจของนครต้องห้าม หลายปีมานี้พร้อมๆ กับที่เกิดฟ้าดินแปรผันฉับพลัน ภูเขาชำระจิตก็กลายเป็นถ้ำสวรรค์แดนมงคลที่หายากแห่งหนึ่ง ความเข้มข้นของไอวิญญาณ เพียงพอจะทำให้ขุมอำนาจใหญ่ใดๆ หมายปอง
อีกอย่าง หากสามารถช่วงชิงภูเขาชำระจิตได้ ยังมีนัยถึงฐานะและอำนาจ!
ฉินเป่าจี้ยิ้มพูด “เรื่องใหญ่เช่นนี้แน่นอนว่าต้องให้องค์ชายสามตัดสินใจ ตระกูลฉินและจั่วทำได้เพียงปฏิบัติตามบัญชา”
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ในใจต่างกระตือรือร้นขึ้นมา รู้ว่าหากเกลี้ยกล่อมองค์ชายสามจ้าวจิ่งเหวิน บางทีอาจสามารถครอบครองภูเขาชำระจิตได้
เหนือห้วงอากาศสูงขึ้นไป ภายใต้ท้องฟ้ารัตติกาล หลินสวินยืนอยู่เงียบๆ
จิตรับรู้ของเขาปกคลุมทั้งตระกูลฉินนานแล้ว แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโถงก็อยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด
มุมปากของเขาเผยแววเยียบเย็นออกมาอย่างอดไม่ได้ “ใจร้อนจริงๆ เริ่มฉลองกันเสียแล้วหรือ”
ประโยคเดียวราวกับฟ้าผ่า ระเบิดในห้วงอากาศเหนือภูเขาแสงมรกต เสียงก้องสะท้อนสะเทือนไปทั่วในชั่วขณะ
ในตำหนักที่บรรยากาศคึกคัก เสียงจอแจทั้งหมดล้วนถูกหยุด เหล้าชั้นเลิศบนโต๊ะระเบิดแหลกภายใต้เสียงปึงปัง เป็นระลอก
“ใคร?”
ในโถงสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป ต่างลุกขึ้นยืน
สีหน้าของฉินเป่าจี้มืดทะมึน ลุกขึ้นตามมาด้วย ในสถานการณ์เช่นนี้กลับมีคนมาป่วน เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้าตระกูลฉินของพวกเขา!
จากนั้นในสายตาของพวกเขาก็มองเห็นเงาร่างหล่อเหลาร่างหนึ่งยืนอยู่บนท้องฟ้าไกลห่างออกไป สีหน้าเรียบเฉย กำลังมองลงมายังพวกเขาราวกับเทพก็ไม่ปาน
“คนเดียวหรือ”
ทุกคนอดอึ้งไม่ได้
ในนครต้องห้ามแห่งนี้ ยังมีคนกล้าวางท่าสูงส่งเช่นนี้มาท้าทายตระกูลฉินอีกหรือ
คร้านจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่
“เป็นเขา หลินสวิน!”
มีคนร้องด้วยความตกใจ จำฐานะของหลินสวินได้
ทันใดนั้นทั้งโถงต่างกระสับกระส่าย ฮือฮาไม่หยุด ราวกับเห็นผีตัวเป็นๆ อย่างไรอย่างนั้น
ใครก็คิดไม่ถึง ว่าคนหนุ่มที่ทุกคนนึกว่าไม่สามารถกลับออกมาจากดินแดนรกร้างโบราณได้แล้ว กลับปรากฏตัวที่นี่ในคืนนี้!
“หลินสวิน?”
ฉินเป่าจี้เองก็นัยน์ตาหดรัดลง จากนั้นพลันยิ้มเยาะ “มาได้จังหวะพอดี ตอนนี้อิทธิพลตระกูลหลินสิ้นแล้ว เด็กนี่มาก็จะได้ฆ่าซะ ถอนรากถอนโคนให้สิ้น!”
ทันใดนั้น สายตาของคนในโถงต่างวาบวาวขึ้นมา
หลินสวินในการรับรู้ของพวกเขา ยังคงหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มซึ่งอำนาจทั่วนครหลวงเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ตอนนี้แม้จู่ๆ เห็นเขาปรากฏตัวที่นี่ ทำให้พวกเขาไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อใจเย็นลงต่างก็เห็นด้วยกับคำพูดของฉินเป่าจี้
เป็นความจริงที่ว่าหลินสวินตัวคนเดียวเท่านั้น กลับมาตอนนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้แล้ว!
และที่นี่คือตระกูลฉิน การปรากฏตัวของเขาไม่ต่างอะไรกับการโยนตนเองเข้ามาในแห
“ฟ้ามีทางเจ้าไม่ไป นรกไร้ประตูเจ้ากลับเข้ามา หลินสวิน หากเจ้ามาเพื่อขอความเมตตาให้ตระกูลหลินของพวกเจ้า ข้าพูดได้แค่ว่า เป็นไปไม่ได้!”
ฉินเป่าจี้พูดเสียงเรียบๆ ย่ามใจอย่างมาก
“หลินสวิน อิทธิพลตระกูลหลินสิ้นแล้ว เจ้ายอมแพ้โดยดีเถอะ ที่นี่คือตระกูลฉิน เจ้ามาคนเดียวย่อมทำอะไรไม่ได้แน่”
แขกคนอื่นๆ ก็พูดขึ้น
หลินสวินเห็นเช่นนี้แล้วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เสียงหัวเราะราวกับฟ้าร้อง กึกก้องภายใต้ม่านรัตติกาล
สารเลวพวกนี้ถึงกับไม่รู้ความถึงขนาดนี้ พวกเขาคิดว่าตนวู่วามมารนหาที่ตายหรือ
“พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว คืนนี้ตระกูลฉินจบสิ้นเพียงเท่านี้แน่ ส่วนพวกเจ้า…”
หลินสวินเก็บสายตา ดวงตาดำเย็นเยียบ กวาดผ่านร่างของทุกคนในโถง “ข้าจะไม่ปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว!”
กล่าวจบ เขารวบนิ้วกรีดวาดออกมา
ปราณกระบี่เทียมฟ้าสายหนึ่งโฉบออกไป เรืองรองดุจรุ้งเทพ ฉีกท้องฟ้ายามราตรี สว่างไสวบาดตา
“ฟัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์