Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1385

เช้าวันรุ่งขึ้น

เงาร่างหลายสิบร่างยืนอยู่หน้าโถงใหญ่เขาชำระจิต มีทั้งหญิงทั้งชาย ต่างเป็นลูกหลานรุ่นเยาว์ตระกูลหลิน

ในกลุ่มนี้ที่อายุมากหน่อยก็อย่างหลินเสวี่ยเฟิง ว่ากันตามศักดิ์แล้วยังเป็นญาติผู้พี่ของหลินสวิน

ส่วนที่อายุน้อยยังเพิ่งอายุสิบเอ็ดสิบสองปีเท่านั้น ต้องเรียกหลินสวินว่าท่านอาหรือท่านลุง

แต่ละคนต่างรออยู่เงียบๆ ใบหน้าเต็มไปความกังวล ร้อนรน ตั้งตาคอยและคาดหวัง

เมื่อหลินสวินเดินออกมาจากโถงใหญ่ภูเขาชำระจิตก็เห็นภาพเช่นนี้

“ไม่ได้บอกว่าขอแค่สิบคนหรือ”

หลินสวินอึ้งไป

“นายน้อย ท่านมาเลือกเอาเองเถอะ”

หลินจงยิ้มเจื่อน

หลินสวินชำเลืองมองไปไกล ที่นั่นมีคนใหญ่คนโตตระกูลหลินมากมายกำลังชะเง้อคอมอง ใบหน้าเจือแววคาดหวัง

ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแล้ว แอบอยากหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่ การไปสังหารอสูรมารคราวนี้ของตนไม่ได้เป็นการพาเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งไปท่องใต้หล้าเสียหน่อย

สุดท้ายเขาก็กวาดสายตาไปในที่นั้นปราดหนึ่ง แล้วเลือกลูกหลานตระกูลหลินออกมาสิบคน

พวกเขาต่างมีพลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณ ศักยภาพสูง แม้ไม่ถึงกับเป็นอัจฉริยะที่มีน้อยในใต้หล้า แต่เมื่อเทียบกันแล้วความสามารถก็ถือว่าไม่เลว

แน่นอนว่าในใจหลินสวิน พรสวรรค์กับศักยภาพล้วนเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญยังอยู่ที่จิตใจ

ฝึกมรรคก็คือฝึกใจ

ผู้มีปัญญาโง่เขลา ขอเพียงพากเพียรไม่ลดละ ภายหน้าก็จะมีช่วงเวลาที่สั่งสมความสามารถในมรรคาได้

ผู้มีปัญญาล้ำเลิศ หากจิตใจไม่แน่วแน่ก็ย่อมไปได้ไม่ไกลในเส้นทางฝึกมรรค

อย่างสิบคนที่เขาเลือกมานี้ ก่อนหน้านี้ก็เผยสีหน้าเยือกเย็นหนักแน่นต่างจากผู้อื่น

หลังจากได้รู้ผล ในที่นั้นมีทั้งคนเศร้าซึมและดีใจระคนกันไป

หลินเสวี่ยเฟิงอึดอัดใจอยู่บ้าง เขาเป็นคนที่อายุมากที่สุดในที่นั้น ทั้งยังเป็นญาติผู้พี่ของหลินสวิน แต่กลับไม่ถูกเลือก

แม้ในตอนแรกเขาไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ตอนนี้ยังออกจะผิดหวังอย่างเลี่ยงได้ยาก

“เสวี่ยเฟิง เจ้าก็มาด้วยกันเถอะ”

เสียงของหลินสวินดังขึ้นข้างหู ทำให้หลินสวินเสวี่ยเฟิงชะงักไป ทันใดนั้นก็ฉีกยิ้ม พยักหน้าไม่หยุด

หลินสวินทอดสายตาไปมองหลินจง “ลุงจง เรื่องหอเก็บตำรากับหอสมบัติล้ำค่าจะต้องจัดการให้เรียบร้อย ขอเพียงเป็นลูกหลานตระกูลหลินของเรา ใครมีความสามารถโดดเด่นก็จะได้รับรางวัลทั้งนั้น!”

หลินจงพยักหน้า “วางใจเถอะขอรับนายน้อย!”

หลินสวินร้องอืม

ช่วงหลายปีที่ท่องไปในดินแดนรกร้างโบราณ ตัวเขาได้สะสมสมบัติอย่างวัตถุดิบวิญญาณ ของล้ำค่าศักดิ์สิทธิ์ ลูกกลอนโอสถและตำราไว้จำนวนมาก

และตอนนี้เขาเป็นมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดแล้ว สมบัติบางชิ้นก็ใช้ไม่ได้ไปนานแล้ว ดังนั้นจึงเอาออกมาทิ้งไว้ในหอเก็บตำรากับหอสมบัติล้ำค่าของภูเขาชำระจิตตระกูลหลินทั้งหมด

เป้าหมายก็เพื่อให้ตระกูลหลินได้มีรากฐานและโอกาสผงาดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในช่วงฟ้าดินแปรผันฉับพลันครั้งนี้

อย่างการนำลูกหลานตระกูลหลินสิบคนไปสังหารอสูรมารที่แนวหน้าคราวนี้ หลินสวินก็มีความคิดจะบ่มเพาะส่งเสริมให้เหล่าลูกหลานเติบโต

ถึงอย่างไรการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนก็ต้องเปิดฉากขึ้นภายในสิบปี ถึงตอนนั้นเขาก็ต้องจากไปแล้ว

แผนการของหลินสวินก็คือ ภายในสิบปีนี้จะต้องทำบางอย่างเพื่อตระกูลหลินให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ทำให้ก่อนตนจากไปจะได้ไม่ต้องกังวลใจกับคนข้างหลังอีก

สวบ!

ไม่นานนักยานขนส่งอวกาศก็ทะยานฟ้า นำหลินสวิน หลินเสวี่ยเฟิง รวมทั้งลูกหลานตระกูลหลินสิบคนจากไปกลางอากาศ

บนยานสำเภาหลินสวินเปิดม้วนหยกออก ภายในบันทึกข้อมูลโดยละเอียดของกองทัพสัตว์อสูรมารที่กระจายตัวอยู่ในอาณาเขตจักรวรรดิ

‘ที่ส่วนลึกของเทือกเขาวิญญาณหยินนอกเมืองดาราโรยในมณฑลซีหนานของจักรวรรดิ เป็นอาณาเขตกองทัพสัตว์อสูรมารกองหนึ่ง ผู้นำ ‘ราชันอสูรมารเกราะทอง’ มีกองทัพอสูรมารแสนตนในปกครอง มีแม่ทัพอสูรมารทั้งสิ้นเจ็ดสิบสองตน…’

‘ในบึงยักษ์เขางูเหลือมมณฑลอวิ๋นกวงของจักรวรรดิ มีเก้ามหาราชันอสูรมารกับเหล่าบริวารสัตว์อสูรมารยึดครอง เหิมเกริมไปทั่วทั้งแถบ ผู้นำของกลุ่มนั้นคือ ‘ราชันนิลดำ’…’

‘ที่มณฑลเป่ยถิงของจักรวรรดิ…’

ข่าวแล้วข่าวเล่าฉายขึ้นในใจของหลินสวินราวสายน้ำไหล ทำให้เขานิ่วหน้าอย่างอดไม่ได้

จนถึงตอนนี้ในมณฑลของจักรวรรดิ เกือบครึ่งหนึ่งต่างประสบภัยพิบัติจากอสูรมารอย่างหนัก ปัญหานี้รุนแรงนัก

พออ่านจนจบหลินสวินก็เข้าใจคร่าวๆ แล้ว

ราชันอสูรมารก็คืออสูรมารบำเพ็ญที่มีพลังปราณระดับราชันขึ้นไป ต่างเกิดจากสิ่งมีชีวิตจำพวกสิงสาราสัตว์ ภูตไพรต้นไม้ใบหญ้าเข้าถึงมรรค

ภายในจักรวรรดิในปัจจุบัน ผู้แข็งแกร่งราชันอสูรมารที่เป็นที่รู้จักมีสามสิบหกตน

ในกลุ่มนี้ที่มีภัยคุกคามต่อจักรวรรดิมากที่สุดคือ ‘ราชันชุดดำ’ ที่อยู่ในพื้นที่มณฑลทางใต้ของจักรวรรดิ ศักยภาพลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ลือกันว่ามีพลังปราณน่าหวาดหวั่นอมตะเคราะห์ด่านเก้า ถึงกับเป็นไปได้สูงว่าจะบรรลุระดับอริยะแล้ว!

ราชันชุดดำปรากฏตัวน้อยนัก ข่าวคราวของเขาก็น้อยที่สุด ดูลึกลับอย่างยิ่ง

‘ระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า… และอาจจะเป็นระดับอริยะหรือ ราชันชุดดำผู้นี้ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตระดับไหนเข้าถึงมรรคกัน…’

หลินสวินจมสู่ความคิด

เรื่องนี้ไม่ปกตินัก!

เป็นอย่างที่จ้าวจิ่งเซวียนว่าไว้ ในจักรวรรดิแต่ก่อนมีอสูรมารบำเพ็ญดำรงอยู่น้อยนิด แต่พอฟ้าดินแปรผันฉับพลันช่วงสิบกว่าปีนี้ ภายในจักรวรรดิเริ่มมีสัตว์อสูรมาร อสูรมารบำเพ็ญและราชันอสูรมารปรากฏตัวมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย…

เหมือนกับโผล่มากลางอากาศ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์