ตำหนักเฉียนหยวน นครต้องห้ามแห่งจักรวรรดิ
ข่าวหนึ่งส่งกลับมาจากชายแดนอย่างเร่งด่วน
“องค์หญิง พ่อมดเถื่อนเก้าสายส่งราชันพ่อมดออกมาสิบสามคน ข้ามแนวป้องกันมาจากแนวหน้าชายแดนทางเหนือของจักรวรรดิ แทรกซึมเข้ามาในอาณาเขตจักรวรรดิขอรับ!”
ด้านหลังโต๊ะ จ้าวจิ่งเซวียนที่กำลังจัดการราชการแผ่นดินเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตากระจ่างราวสายฟ้า “เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนไหนกัน”
“เที่ยงวันนี้ขอรับ”
ข้าหลวงส่งสารเอ่ยเสียงนอบน้อม
“ราชันพ่อมดสิบสามคนร่วมกันเคลื่อนไหว ไม่ใช่หมายความว่าตอนนี้ผู้แข็งแกร่งระดับราชันเกือบครึ่งในกองทัพพ่อมดเถื่อนได้เข้ามาในจักรวรรดิของข้าแล้วหรือ”
จ้าวจิ่งเซวียนนิ่วหน้า รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ร้ายแรงอยู่บ้าง
ตอนนี้จักรวรรดิกำลังทำสงครามกับขุมอำนาจสัตว์อสูรมาร อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ แข็งแกร่งเหิมฮึก ไม่อาจต้านทานได้อย่างแน่นอนแล้ว
เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพ่อมดเถื่อนเก้าสาย
แต่จ้าวจิ่งเซวียนกลับคิดไม่ถึงว่าพ่อมดเถื่อนเก้าสายจะตอบสนองเช่นนี้ ถึงกับส่งเหล่าราชันพ่อมดเข้ามาแทรกซึมในจักรวรรดิเสียได้
นี่พวกเขาต้องการจะทำอะไร
“องค์หญิง จากการวิเคราะห์ของกองยุทธการ เป้าหมายของราชันพ่อมดสิบสามคนนี้เป็นไปได้สูงว่าจะเกี่ยวข้องกับการสังหารคุณชายหลินสวินขอรับ”
ข้าหลวงผู้นั้นเอ่ยเสียงค่อย
จ้าวจิ่งเซวียนสะดุดกึกในใจ คนมาไม่ดี คนดีไม่มา
ในสถานการณ์เช่นนี้พ่อมดเก้าสายต้องมีที่พึ่งพิง แน่ใจว่าสามารถต่อกรกับหลินสวินได้ถึงกล้าทำแบบนี้
นางเอ่ยถาม “ตอนนี้คุณชายหลินอยู่ที่ไหน”
“ตามที่แสดงในข่าวล่าสุด คุณชายหลินกำลังรุดหน้าไปทางใต้ของจักรวรรดิ เป็นไปได้มากที่จะมุ่งหน้าไปทะเลสาบวาโยอสนีพ่ะย่ะค่ะ” ข้าหลวงผู้นั้นรีบร้อนกล่าว
“ทะเลสาบวาโยอสนี… ราชันอาภรณ์ดำหรือ”
เนตรกระจ่างของจ้าวจิ่งเซวียนหดเกร็ง ตามความเข้าใจของนาง ราชันอาภรณ์ดำเป็นราชันอสูรมารที่ลึกลับและยากหยั่งถึงที่สุดตนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
หลินสวินจะเลือกไปต่อกรกับราชันอาภรณ์ดำก็ไม่แปลก
แต่ตอนนี้จ้าวจิ่งเซวียนกลับรู้สึกแปลกชอบกล
เพราะราชันพ่อมดที่แทรกซึมเข้ามาในจักรวรรดิสิบสามคนนั้นเข้ามาจากพื้นที่ชายแดนทางใต้ของจักรวรรดิ หากพวกเขาร่วมมือกับราชันอาภรณ์ดำ…
คิดถึงตรงนี้จ้าวจิ่งเซวียนก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามล้ำปรากฏแววเคร่งเครียด ถ้าเป็นอย่างนี้จริง เช่นนั้นหลินสวินก็มีอันตรายแล้ว!
ในตอนนี้เองก็มีข่าวส่งมาอีก…
“รายงาน กองยุทธการส่งข่าวมา อิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลมากมาย เป็นไปได้สูงยิ่งที่ราชันอสูรมารที่หลบหนีหายตัวไปเหล่านั้นจะไปทะเลสาบวาโยอสนี เป้าหมายก็คือขอความช่วยเหลือจากราชันอาภรณ์ดำ!”
จ้าวจิ่งเซวียนพลันใจหดเกร็งขึ้นมา ถ้าขุมอำนาจราชันอสูรมารกับขุมอำนาจราชันพ่อมดรวมตัวกันในทะเลสาบวาโยอสนี นี่ต้องเป็นกำลังพลที่น่ากลัวจนไม่อาจจินตนาการได้แน่
กอปรกับมีราชันอาภรณ์ดำที่ลึกลับที่สุดสั่งการ ทะเลสาบวาโยอสนีต้องกลายเป็นบึงมังกรถ้ำพยัคฆ์ ทันทีที่หลินสวินไป…
เป็นไปได้สูงมากว่าจะประสบอันตรายอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“สั่งการลงไป ส่งกำลังพลระดับราชันที่กระจายตัวอยู่ภายในจักรวรรดิ รุดหน้าไปทะเลสาบวาโยอสนีเต็มกำลัง!”
จ้าวจิ่งเซวียนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วตัดสินใจ
นางพูดพลางสาวเท้าออกไปนอกตำหนัก
“องค์หญิง ตอนนี้ค่ำมากแล้ว พระองค์จะไปไหนพ่ะย่ะค่ะ”
ข้าหลวงเหล่านั้นล้วนตื่นตระหนก
“อยู่ในวังอุดอู้เกินไปแล้ว จะออกไปเดินสักหน่อย จริงด้วย อย่าบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้นะ ให้บอกว่าข้าต้องปิดด่านหลายวัน”
เมื่อเสียงพูดเงียบลง เงาร่างของจ้าวจิ่งเซวียนก็หายลับไปนอกตำหนักท่ามกลางท้องฟ้ายามดึกอันเวิ้งว้าง
สถานการณ์คราวนี้อันตรายเกินไปแล้ว แม้แต่นางยังออกจะกังวลใจ ต้องการไปทะเลสาบวาโยอสนีด้วยตัวเอง!
……
“พวกเรากับราชันอสูรมารพวกนั้นมีศัตรูร่วมกัน ถ้าร่วมมือกันพวกเขาย่อมไม่ปฏิเสธ”
“คราวนี้ราชันพ่อมดสิบสามคนร่วมกันออกเคลื่อนไหวโดยที่พกสมบัติสำคัญของพวกเราพ่อมดเถื่อนมาด้วย ฆ่าหลินสวินคนเดียวคงไม่ใช่เรื่องยาก”
“สรุปแล้วเรื่องที่ควรทำพวกเราก็ทำหมดแล้ว ที่เหลือก็ดูฟ้าลิขิตล่ะ!”
คืนนี้เสียงแหบแห้งชราวัยของราชันพ่อมดอสนีดังขึ้นในค่ายทัพใหญ่พ่อมดเถื่อน
คนใหญ่คนโตพ่อมดเถื่อนคนอื่นๆ ต่างรู้ดีว่าหากการเคลื่อนไหวคราวนี้สำเร็จ จักรวรรดิจะต้องได้รับการโจมตีอันหนักอึ้งหาใดเทียบ ต่อแต่นี้ไปก็จะไม่เป็นภัยคุกคามอีก
แต่หากล้มเหลว…
เกรงว่าในช่วงเวลาหลายปี พวกเขาพ่อมดเถื่อนเก้าสายจะไม่อาจโจมตีรุกรานดินแดนของจักรวรรดิอันกว้างใหญ่แห่งนี้ได้อีก
พูดง่ายๆ พวกเขากำลังพนัน!
พนันว่าคราวนี้หลินสวินต้องตาย!
……
สวบ!
ยานสำเภาลำหนึ่งแหวกเวิ้งฟ้า ห้อตะบึงท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี
หลินสวินนั่งสบายใจอยู่ที่หัวเรือ จุดชีพจรสามพันจุดภายในร่าง กำลังหล่อหลอมบ่มเพาะปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันสายรอบแล้วรอบเล่าเหมือนเตาหล่อเลี้ยงกระบี่
ระหว่างการต่อสู้หลายเดือนนี้ แม้พลังปราณของหลินสวินไม่ได้บรรลุ แต่กลับบ่มเพาะปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันสายได้อย่างราบรื่น
นี่เป็นขั้นสูงสุดที่สามารถบรรลุได้ระหว่างการฝึกคัมภีร์กระบี่ไท่เสวียนในระดับอมตะเคราะห์แล้ว
ที่หลินสวินต้องทำต่อไปก็คือนำปราณกระบี่มาหล่อหลอมคมกระบี่ รวบรวมเจตกระบี่ และหลอมจิตกระบี่ แล้วแปลงเป็นวิญญาณกระบี่!
ซ่า!
คราหลินสวินครุ่นคิด ปราณกระบี่สามพันสายก็เหมือนฝูงมัจฉาแหวกว่ายเวียนวนรอบกายเขา ส่งเสียงรื่นเริงปรีดา
และก็พบว่าปราณกระบี่เหล่านี้บางครั้งแปรสภาพเป็นค่ายกลกระบี่ทึบทึมราวความว่างเปล่า บางคราวกลายเป็นค่ายกลกระบี่โชติช่วง เปล่งประกายเจิดจรัส บางทียังแปลงเป็นค่ายกลกระบี่ที่ไม่ติดอยู่ในกรอบ เต็มไปด้วยกลิ่นอายผ่อนคลายเป็นอิสระยิ่ง…
ต่างมีความอัศจรรย์ แปรผันได้นับหมื่นพัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์