“สหาย ช้าก่อน เจ้ามีเทียบเชิญหรือไม่”
ตอนที่หลินสวินไปถึงประตูใหญ่คฤหาสน์ตระกูลหวังก็ถูกผู้คุ้มกันขวางเอาไว้
ตระกูลหวังในตอนนี้แขกผู้มีเกียรติรวมตัวกัน คนใหญ่คนโตมากมายในเมืองต่างทยอยกันมาไม่ขาดสาย หากไม่มีเทียบเชิญแน่นอนว่าไม่สามารถให้ใครเข้าไปได้ง่ายๆ
อีกทั้งเป็นการป้องกันกรณีมีคนก่อเรื่อง ผู้รับผิดชอบในการเฝ้ายามล้วนเป็นผู้คุ้มกันมือฉมังของตระกูลหวัง ประสบผลสำเร็จด้านการฝึกปราณ องอาจไม่ธรรมดา
“ข้ามิได้มาร่วมงานเลี้ยง”
หลินสวินพูดเรียบๆ
เสี่ยวเฉ่าที่อยู่ข้างๆ เงียบไม่ปริเสียง ในใจกลับตึงเครียดอย่างมาก นางรู้ดีว่าเจ้าโง่ที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว วิธีฆ่าคนนั้นน่ากลัวไร้ขอบเขตจริงๆ เหลือเชื่ออย่างที่สุด
หากเขาบุกรุกตระกูลหวัง คนคุ้มกันเหล่านี้คงขวางไม่อยู่แน่
ในเวลาเดียวกันนางเองก็อยากให้หลินสวินลงมือเสียเดี๋ยวนี้ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เช่นนี้ยอดฝีมือของตระกูลหวังก็จะถูกทำให้แตกตื่น มาฆ่าเจ้าโง่นี่ให้สิ้นซาก!
ได้ยินคำพูดของหลินสวิน ผู้คุ้มกันเหล่านั้นต่างอดขมวดคิ้วไม่ได้ ตอนนี้เองชายวัยกลางคนในชุดคลุมขนสัตว์เดินออกจากเกี้ยวสมบัติหรูหรา ถูกข้ารับใช้กลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้อย่างหนาแน่น ดูก็รู้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ฐานะไม่ธรรมดา
“เจ้าหนุ่ม ประตูตระกูลหวังใช่ว่าใครอยากเข้าก็สามารถเข้าได้ ข้าใช้เวลาสิบกว่าปีวันนี้เพิ่งจะสามารถเข้าประตูบานนี้ได้อย่างเปิดเผย คนอย่างเจ้าคิดอยากเข้าไป ต่อสู้ทั้งชีวิตก็คงไม่มีหวัง”
พูดจบชายวัยกลางคนเอามือไพล่หลังอย่างเย่อหยิ่ง เดินผ่านหลินสวินไปอย่างเชื่องช้า
“ผู้อาวุโสหลิ่วหง เชิญขอรับ”
ผู้คุ้มกันหน้าคฤหาสน์ตระกูลหวังพูดอย่างเคารพ
หลินสวินขมวดคิ้ว ในหัวนึกถึงเรื่องหนึ่งจึงพูดว่า “ที่แท้เจ้าก็คือหลิ่วหง”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขามักจะเหม่อลอย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่จำเรื่องราว
ในความทรงจำของเขา ตอนที่บิดาเกิดความขัดแย้งกับสำนักเมฆาเขียว หลิ่วหงคนนี้ก็มีส่วนร่วมด้วย คนผู้นี้เป็นรองเจ้าเมืองของเมืองนครหยก มีอำนาจใหญ่ในมือ
จะว่าไปตอนนั้นหลิ่วหงคนนี้ยังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับบิดา
ทว่าตั้งแต่บิดาบาดเจ็บหนักเสียชีวิต หลิ่วหงก็ตีตัวออกห่างตระกูลหลินอย่างชัดเจน ยิ่งได้ทีซ้ำเติม ฉวยโอกาสช่วงชิงแหล่งแร่สามแหล่งของตระกูลหลิน
ตอนนั้นมารดาโกรธจนร้องไห้อย่างเจ็บปวดกับเรื่องนี้ไม่รู้กี่ครั้ง ก่นด่าหลิ่วหงว่าจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่า เห็นผลประโยชน์จนลืมคุณธรรม!
จากนั้นหลินสวินจึงรู้ว่าเดิมทีหลิ่วหงคนนี้เป็นบันฑิตที่มาจากครอบครัวที่ยากจน ต้อยต่ำอย่างที่สุด ภายหลังได้รับความชื่นชมจากบิดาจึงค่อยๆ ตั้งตัวในเมืองนครหยกได้ทีละก้าว และภายใต้การสนับสนุนของบิดา ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสามรองเจ้าเมืองของเมืองนครหยก
เพียงแต่ก่อนหน้านี้น้อยมากที่หลินสวินจะปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอก และไม่เคยเห็นหลิ่วหงมาก่อน จึงไม่ได้รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใครตอนแวบแรกที่เห็น
“เจ้ารู้จักข้าหรือ”
หน้าประตูหลิ่วหงหันมา ขมวดคิ้วพูด
“รู้จักหรือไม่รู้จักไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวันนี้เจ้ามาได้บังเอิญมาก ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาเจ้า”
หลินสวินพูดเรียบๆ
หลิ่วหงสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “เจ้าหนุ่ม คำพูดนี้ของเจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“ผู้อาวุโสโปรดระงับโทสะ ท่านเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลหวัง เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ให้พวกเราจัดการเถอะ”
หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลหวัง สีหน้าของผู้คุ้มกันเหล่านั้นเย็นเยียบขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคิดว่าหลินสวินมาก่อกวน
หลิ่วหงแค่นเสียงอย่างเย็นชาแล้วหมุนตัวจากไป
หากเป็นที่อื่น เพียงแค่คำพูดไม่เคารพอย่างหลินสวิน เขารับรองว่าจะให้บทเรียนที่ยากจะลืมไปทั้งชีวิตกับอีกฝ่าย
นับเป็นอะไรกัน เจ้าหนุ่มที่แม้แต่ประตูใหญ่ตระกูลหวังยังเข้าไม่ได้ คำพูดกลับไร้มารยาทเพียงนี้ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!
หลิ่วหงไปแล้ว หลินสวินไม่ได้ลงมือ
จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าในเมื่อหลิ่วหงมาแล้ว คนใหญ่คนโตคนอื่นๆ ในเมืองก็คงมา ในเมื่อเป็นเช่นนี้รอสักหน่อยจะเป็นไร
ไม่แน่ว่าจะได้เจอพวกคนที่เคยเอาเปรียบตระกูลหลินอีก
“สหาย ให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง หายไปจากเบื้องหน้าข้าเดี๋ยวนี้!”
ผู้คุ้มกันคนหนึ่งสีหน้ามืดทะมึนเย็นชา จ้องหลินสวิน ไอสังหารเด่นชัด
หลินสวินหมุนตัวจากไป ไปยืนอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามไกลๆ ตรงนั้นมีต้นไทรต้นใหญ่เต็มไปด้วยหิมะ ยืนอยู่ใต้ต้นไทรนี้สามารถบังหิมะได้พอดี
เห็นว่าหลินสวินถอยไปอย่างรู้ความเช่นนี้ ผู้คุ้มกันเหล่านั้นต่างอึ้ง จากนั้นล้วนเผยสีหน้าดูถูก อดส่ายหน้าไม่ได้
เดิมคิดว่าเป็นหนามที่แหลมคม ไม่คิดว่ากลับเป็นก้อนกรวดก้อนหนึ่ง!
เสี่ยวเฉ่ากลับฉงนใจอย่างมาก ก่อนหน้านี้นางตึงเครียดอย่างมาก คิดว่ากำลังจะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่แปลกประหลาดและนองเลือดอย่างที่สุด ไม่คิดว่าหลินสวินกลับถอยง่ายๆ แบบนี้!
“ทำไม ตอนนี้เจ้ากลัวเป็นแล้วหรือ”
เสี่ยวเฉ่าพูดเสียงเย็น
ใต้ต้นไทรหลินสวินสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ เอ่ยว่า “ในสายตาข้า ตระกูลหวังก็เหมือนแหใหญ่ รอปลาเข้ามาให้หมดก่อนค่อยเก็บแหก็ยังไม่สาย”
ประโยคเดียวทำให้ดวงตาเสี่ยวเฉ่าเบิกกว้างโดยพลัน ในใจเกิดความหนาวเยือกที่พูดไม่ออก เจ้าหมอนี่คิดจะทำลายล้างศัตรูที่เคยทำไม่ดีกับตระกูลหลินตอนนั้นในรวดเดียวหรือ
แต่เขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์