Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1429

เพี๊ยะ!

เสียงตบหน้านั้นดังจนทำให้ทุกคนที่อยู่โดยรอบจิตใจสั่นระรัว รู้สึกเจ็บไปด้วย

ก็พบว่าจ้าวจิ่งเฟิงที่ท่าทางดุดันถูกฝ่ามือหนึ่งตบให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง

คราวนี้ตัวเขากระแทกลงไปบนเสาหินของตำหนัก หน้าบวมเป่งเป็นหัวหมู เลือดสดๆ ไหลรินออกมาจากปากและจมูก หน้าตาต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง อนาถเสียจนทนดูไม่ได้

เฮือก!

หลายคนสูดหายใจเย็น ในใจตกตะลึง

ด้านพวกฉินเฟยอวี่กลับมุมปากกระตุกอย่างแรง รู้สึกหวาดผวาหาใดเทียบเช่นกัน

องค์ชายเจ็ดจ้าวจิ่งเฟิงเป็นถึงคนร้ายกาจที่ดุร้ายถึงที่สุดคนหนึ่ง มีพลังต่อสู้น่าเกรงขามของระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ด ในทัพจักรวรรดิก็อยู่ในห้าอันดับแรก!

แต่ตอนนี้กลับถูกคนอื่นตบให้กระเด็นออกไปสองครั้งติด เสียงตบดังเพี๊ยะๆ นั้นทำให้ทุกคนต่างรู้สึกครั่นคร้าม

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือคู่ต่อสู้ของเขาตั้งแต่เริ่มจนจบท่าทางสุขุมเยือกเย็น ผ่อนคลายสบายใจมาตลอด เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงสักนิด

สิ่งนี้พิสูจน์ได้อย่างไร้ข้อกังขาว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งนัก และไม่ได้แข็งแกร่งอย่างธรรมดาสามัญด้วย

ต่อให้เป็นหนิงเหมิงหรือเย่เสี่ยวชียังสับสนไปครู่หนึ่ง พวกเขาต่างรู้ดีว่าพลังต่อสู้ขององค์ชายเจ็ดจ้าวจิ่งเฟิงแข็งแกร่งขนาดไหน

แต่ภายใต้น้ำมือของหลินสวิน ก็ดูไม่มีราคาเลย

“รีบไป ข้าห่วงว่าหลี่ตู๋สิงจะถูกลอบทำร้ายแล้ว!”

ทันใดนั้นหนิงเหมิงก็ร้องเสียงดัง

หลินสวินหรี่ตาลง ไม่ได้คิดอะไรอีกก็เดินเข้าไปในตำหนักนั้น ก่อนที่เข้าจะมาถึงที่นี่จิตรับรู้ของเขาก็ปกคลุมที่นี่ไว้ก่อนแล้ว ได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง

เพียงเห็นท่าทางร้อนรนเช่นนั้นของหนิงเหมิงก็รู้ว่าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล

“ไสหัวไป!”

หลินสวินชำเลืองมองพวกฉินเฟยอวี่ที่ยังขวางหน้าตำหนักปราดหนึ่ง ปากก็โพล่งออกมาไม่กี่คำ

เพียงไม่กี่คำ แต่พอไปถึงหูของพวกฉินเฟยอวี่ก็เหมือนก้นบึ้งของจิตใจมีสายฟ้าฟาดระเบิดออกที่ก้นบึ้งจิตใจ สะเทือนจนพวกเขาจิตวิญญาณสั่นไหว ภาพตรงหน้าพร่าเลือน รู้สึกแย่จนแทบกระอักเลือดออกมา

พวกเขาโซเซหลีกทางให้โดยแทบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ

เมื่อพวกฉินเฟยอวี่ได้สติเต็มที่อีกครั้ง หลินสวินก็พาหนิงเหมิงกับเย่เสี่ยวชีเข้าไปในตำหนักนานแล้ว

นี่ทำให้พวกเขาทั้งโมโหทั้งโกรธเคือง ทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว สีหน้าก็เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ย่ำแย่กันหมดแล้ว

เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่

ด้านคนอื่นๆ พอเห็นเช่นนี้ต่างก็จิตใจสั่นสะท้านยกใหญ่อย่างห้ามไม่อยู่ ล้วนคิดไม่ถึงว่าพลานุภาพของหลินสวินจะแกร่งกล้าได้ปานนี้

ตุ้บ!

จ้าวจิ่งเฟิงที่ถูกกระแทกเข้ากับเสาหิน ตอนนี้ร่างถึงอ่อนยวบตกลงมากับพื้น

เห็นได้ชัดว่าเขาถูกอัดจนมึนงง แต่ยังคงกัดฟันเอ่ยเสี่ยงขุ่นเคืองว่า “ไม่ว่ามันเป็นใคร ข้าจะต้องฆ่ามัน ต้องฆ่ามันให้ได้!”

ในที่นั้นเงียบสงัด

มีคนอดไม่ไหวเอ่ยเตือนว่า “องค์ชายเจ็ด เป็นไปได้สูงยิ่งที่คนผู้นั้นจะเป็นหลินสวิน”

หลินสวินหรือ

พวกฉินเฟยอวี่อึ้งไป

“ข้าพูดแล้ว ไม่ว่ามันเป็นใคร ข้าก็ต้อง…”

จ้าวจิ่งเฟิงคำรามด้วยสีหน้าดุร้าย เพียงแต่พูดได้ครึ่งเดียวเขาก็คล้ายรับรู้อะไรบางอย่าง พลันเอ่ยว่า “เจ้าบอกว่าเขาคือหลินสวินหรือ ผู้นำตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตที่ถูกขนานนามว่าอำนาจทั่วนครหลวงคนนั้นหรือ”

หลายคนต่างพยักหน้า

พวกฉินเฟยอวี่ต่างก็ได้สติกลับมาแล้ว แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสี “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ได้ไปดินแดนรกร้างโบราณเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้วหรือ”

นั่นสิ ทำไมหลินสวินคนนี้ถึงปรากฏตัวได้

คนอื่นต่างก็สงสัยอยู่ในใจ ควรรู้ว่าสิบกว่าปีมานี้ช่องทางสู่สมรภูมิกระหายเลือดถูกปิดลงแล้ว ไม่มีใครเข้ามาได้อีก

แล้วหลินสวินเข้ามาได้อย่างไร

“ที่แท้ก็เป็นเขา… สารเลว!!”

จ้าวจิ่งเฟิงเสียงต่ำลึกเหมือนบีบเค้นออกมาจากทรวงอก เผยให้เห็นความเคียดแค้นหาใดเทียบ

ถูกหลินสวินตบใส่สองฝ่ามือจนท่าทางน่าอนาถเช่นนี้ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย นี่ย่อมเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ยิ่งครั้งหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี

“แย่แล้ว!”

ทันใดนั้นจ้าวจิ่งเฟิงพลันหน้าเปลี่ยนสี นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ คำรามดาลเดือดว่า “เร็วเข้า รีบไปขวางพวกมัน จะให้พวกมันทำลายแผนของพี่รองไม่ได้!”

พวกฉินเฟยอวี่อึ้งไป ในหัวงุนงงไปหมด องค์ชายรองจ้าวจิ่งหลินไม่ได้ช่วยหลี่ตู๋สิงรักษาแผลอยู่หรือ

แม้ในใจสงสัยแต่พวกเขากลับไม่กล้าปฏิเสธ รีบร้อนถลาเข้าไปในตำหนัก

คนอื่นที่อยู่ในที่นั้นต่างมองหน้ากัน พอจะรู้สึกได้รางๆ ว่าเรื่องนี้เหมือนมีกลิ่นไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง

……

ห้องที่ปิดสนิทห้องหนึ่งในส่วนลึกของตำหนัก หลี่ตู๋สิงหมดสตินอนอยู่บนเตียงไม่ไหวติง สีหน้าที่เดิมซีดเซียวกลับร้อนแดงเป็นไฟ

วู้ม!

ที่หน้าเตียง กระพรวนสีเขียวมรกตพิสดารสิบสามลูกลอยหมุนติ้วอยู่กลางอากาศ กระพรวนแต่ละลูกต่างฉายวงแสงสีเขียวหยกน่าหวั่นใจออกมา

จ้าวจิ่งหลินสวมชุดคลุมมังกรสี่เล็บสีเหลืองอร่ามทั้งตัว ใบหน้าขาวสะอาดหล่อเหลามีสีเขียวประหลาดภายใต้แสงสีเขียวหยกที่สาดส่อง

เขาสีหน้าสงบนิ่ง มองดูหลี่ตู๋สิงที่อยู่บนเตียงแล้วเอ่ยว่า “เจ้าวางใจได้ ข้าจะช่วยรักษาแผลเจ้าให้หายแน่ อีกทั้งจะไม่ทำร้ายมรรควิถีของเจ้า รับรองว่าจะทำให้เจ้าไปร่วมศึกถกมรรคเขาพินิจมรรคในอีกสองปีข้างหน้าได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์