ฟู่! ฟู่!
หนึ่งเดือนให้หลัง หลินสวินพ่นลมหายใจดังฟู่ นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นโดยไม่ลังเล เริ่มตั้งจิตทำสมาธิ
เขาเพิ่งผ่านการต่อสู้หฤโหดมาหมาดๆ ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยแผลเหวอะหวะ หยาดเลือดไหลเอ่อ แต่เขากลับเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร พยายามฟื้นคืนสภาพ
ฮูม!
พลังกฎเกณฑ์ไร้มรณะไหลเวียนทั่วกายทั้งบนล่าง ปรับสภาพบาดแผลทั่วร่างของเขาให้กลับคืนสภาพเดิมด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
หนึ่งเดือนมานี้หลินสวินลืมไปแล้วว่าตัวเองผ่านการเข่นฆ่าอันนองเลือดดุเดือดมามากน้อยเท่าไร
มีหลายครั้งหลายคราที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกฉีกทึ้งท่อนแขน ถูกจ้วงแทงหน้าอก ถูกบดขยี้แผ่นหลัง ถูกตัดขาทั้งสองข้าง…
หากไม่ได้อยู่บนเส้นทางกายหยาบบรรลุอริยะของผู้บำเพ็ญหลอมกายที่พลังการคืนสภาพน่าตกใจ หากไม่ใช่เพราะมีกฎเกณฑ์ไร้มรณะทำการรักษา หลินสวินยังสงสัยว่าตนจะยืนหยัดต่อไปได้หรือไม่
แต่ว่าหลังผ่านประสบการณ์ฆ่าฟันดุเดือดที่ชวนเขย่าขวัญครั้งนี้ ทำให้ความเดือดดาลในตอนแรกเริ่มของหลินสวินค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความเคยชินและสงบนิ่ง เริ่มปรับตัวให้ชินเหมือนเป็นปกติ
ฮือๆๆ…
เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา กลางห้วงอากาศไกลออกไปก็มีเสียงปานผีสางโหยไห้หมาป่าเห่าหอนดังขึ้นระลอกหนึ่ง ไอสังหารพลุ่งพล่านราวกับเมฆทะมึนปั่นป่วน หวีดหวิวลอยมา
สวบ!
หลินสวินหยัดตัวขึ้นจากการนั่งสมาธิ สีหน้าเยือกเย็น กระโจนพรวดออกไป
“ฆ่า!”
การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้งอย่างไม่น่าแปลกใจ
เมื่อเทียบกับหนึ่งเดือนก่อน ในแง่การต่อสู้ทางสายหลอมกาย หลินสวินเหมือนถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูก เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าคว่ำดิน
ร่างกายราวกับเตาหลอม สารกาย พลังชีวิต และจิตวิญญาณทั้งร่างควบหลอมเดือดพล่านทั้งตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พลังกายถูกควบคุมและขับเคลื่อนโคจรได้อย่างถนัดมือ
วิชาต่อสู้หลอมกายทั้งปวงยิ่งถูกหลอมรวมเข้ากับพลังวิชามหามรรค โบกสะบัดดั่งใจอย่างชำนาญช่ำชอง ปรากฏท่วงทำนองที่ราวกับเอิบอิ่มนิ่งขรึมไม่ปาน
นี่ก็คือสิ่งที่หลินสวินได้รับจากการหลอมกายในศึกฆ่าฟันตลอดหนึ่งเดือนมานี้ ถึงแม้พลังปราณจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่พลังต่อสู้นั้นไม่เหมือนที่ผ่านมาตั้งนานแล้ว
ก็เหมือนหยกที่ไม่ได้เจียระไนชิ้นหนึ่ง เริ่มสำแดงประกายที่สามารถสะเทือนโลกหล้า!
……
ในโลกอันมืดมิด หญิงลึกลับเดินมาเป็นระยะทางยาวนานมากแล้ว ระหว่างทางทิวทัศน์อัปมงคลและพิสดารอุบัติขึ้นอยู่ตลอด
นางรู้ดีว่าหากเปลี่ยนเป็นพวกระดับอริยะเหล่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินมาถึงตอนนี้เหมือนกับตน
เพราะความอัปมงคลและแปลกพิสดารพวกนั้น เพียงพอจะสร้างการโจมตีถึงแก่ชีวิตให้กับเหล่าอริยะได้!
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของหญิงลึกลับเลยด้วยซ้ำ
เพราะมีแต่นางเท่านั้นที่เข้าใจว่านี่เป็นโลกแบบไหน
ทว่าขนาดนางเองยังคิดไม่ถึง ว่าในสมรภูมิกระหายเลือดถึงกับมีโลกเช่นนี้อยู่หนึ่งแห่ง เรื่องนี้ทำให้ในใจนางเริ่มไม่อาจสงบได้เช่นกัน
ก่อนจะพาหลินสวินมาที่นี่ นางได้สำรวจโลกมืดมิดนี้เป็นเวลาหนึ่งปี น่าเสียดาย จนป่านนี้ก็ยังไม่พบคำตอบที่นางแสวงหา
เพราะโลกนี้ดำรงอยู่นานเกินไป เบาะแสมากมายล้วนถูกกำจัดไปตามการกัดกร่อนของกาลเวลา ไม่สามารถอนุมานความจริงบางส่วนได้อีกต่อไป
เรื่องนี้ทำให้หญิงลึกลับอดทอดถอนใจไม่ได้ อริยะสามารถควบคุมพลังแห่งห้วงอากาศว่างเปล่าได้ แต่กฎเกณฑ์แห่งเวลานั้น ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิก็ยังยากจะสัมผัส ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน!
“ถึงแล้ว”
ท่ามกลางความมืดมิดเบื้องหน้า ปรากฏพื้นที่ผุพังยุ่งเหยิง ทั้งกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต ให้สัมผัสที่กว้างขวางประหนึ่งภาพลวงตาเวิ้งว้างแก่ผู้คน
เพียงแต่ที่นั่นเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง แผ่สัมผัสแห่งความโดดเดี่ยวและดับสูญ
“ขนาดรากฐานมหามรรคยังไม่เหลือแล้ว…”
หญิงลึกลับยืนอยู่เนิ่นนาน และนิ่งเงียบไปนาน นางคิดไม่ตก บุคคลระดับจักรพรรดิที่ทำให้นางรู้สึกสะท้านสะเทือนหาใดเปรียบคนหนึ่ง เหตุใดถึงมีจุดจบเช่นนี้ได้
นี่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
น่าเสียดาย จากฝีมือในปัจจุบันของนางกลับไม่สามารถหยั่งรู้ความจริงภายในนั้นได้
เพราะเวลายาวนานเกินไป
กาลเวลาไม่เพียงเปลี่ยนแปลงโลกได้ ยังกำจัดร่องรอยส่วนหนึ่งได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นระดับจักรพรรดิหรือมดตัวจ้อย เมื่อตายไปย่อมต้องถูกพลังแห่งกาลเวลากัดกร่อน จากนั้นก็ถูกกำจัดไป
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนกันอาจจะเป็น… ร่องรอยของพวกระดับจักรพรรดินั้น หากคิดจะให้กาลเวลากำจัดทิ้งไปอย่างสิ้นเชิงก็คงไม่ง่ายดายเช่นนั้น
ดังนั้นถึงทำให้หญิงลึกลับได้เห็นทุกอย่างเบื้องหน้านี้
“จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของสมรภูมิกระหายเลือด… หรือว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับเจ้า”
เนิ่นนานหญิงลึกลับพึมพำเสียงเบา
……
สามเดือนให้หลัง
พร้อมๆ กับเสียงดังกระหึ่ม รอบกายหลินสวินปรากฏเหวลึกขึ้นมา พลังขับเคลื่อนพลุ่งพล่านเป็นฐานตั้ง ห้อทะยานอยู่ในนั้น
มรรคดับดารากลืนกิน!
เพียงแต่ว่าครั้งนี้กลับถูกหลินสวินใช้พลังหลอมกายโคจรออกไป
ฮู้ม!
เพียงไม่กี่อึดใจภูตผีมากกว่าสิบตัวก็ถูกหลินสวินสังหารเกลี้ยงรวดเดียว ถูกกำจัดสิ้นซาก
ทอดสายตามองออกไป ในโลกแถบนี้ไม่มีไอสังหารโผล่ขึ้นมาอีกเลยแม้แต่สายเดียว เงียบกริบเวิ้งว้าง เย็นเยียบทั้งแถบ
สีหน้าหลินสวินไม่สุขไม่ทุกข์ ไร้อารมณ์แปรปรวน สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายทั่วร่างโดยละเอียด เนิ่นนานกว่าจะโรยตัวลงมาจากห้วงอากาศอย่างแผ่วเบา เก็บงำกลิ่นอายทั่วร่างเอาไว้
สามเดือน การเข่นฆ่าดุเดือดที่มากมายไม่จบไม่สิ้น
การต่อสู้ระหว่างความเป็นความตายครั้งแล้วครั้งเล่า
สิ่งที่ได้มาคือการเปลี่ยนแปลงพลังหลอมกายครั้งแล้วครั้งเล่า!
หากเป็นสามเดือนก่อน หลินสวินคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่า ในแง่มรรคหลอมกายตนจะถึงกับมีศักยภาพแฝงที่ไม่เคยขุดพบมากมายขนาดนี้
เรื่องนี้ก็ทำให้หลินสวินยิ่งเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ หลอมกายกับหลอมปราณนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตนในอดีตยังดูเบาความอัศจรรย์ของมรรคาหลอมกายอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์