Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1437

ภูเขาฟืนเขียว

ที่ตั้งค่ายทัพพ่อมดเถื่อน

“ใต้เท้าพ่อมดอริยะ เมื่อครึ่งเดือนมานี้พวกเราสูญเสียผู้แข็งแกร่งไปหกสิบสามคน ในนั้นมีผู้แข็งแกร่งห้าสิบเจ็ดคนที่ถูกผู้แข็งแกร่งของจักรวรรดิที่ชื่อหลินสวินนั่นฆ่าตายขอรับ”

“นอกจากนี้จินหมานเอ๋อร์ก็ตายด้วย…”

กลุ่มผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนเก้าสายรวมตัวกันที่ด้านนอกสถานที่ปิดด่านของพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬ หนึ่งในนั้นโพล่งออกมาอย่างฉุนเฉียวปนเศร้าโศก

“ใต้เท้าพ่อมดอริยะ พวกเราต้องตอบโต้กลับไปแล้ว!”

ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนคนอื่นๆ ก็พากันเอ่ยปาก ไม่มีใครไม่กัดฟันกรอด เดือดดาลจนแทบคลั่ง

“แค่คนคนเดียวจากฝั่งจักรวรรดิเท่านั้น ก็ป่วนจนพวกเจ้าท้อแท้สิ้นหวัง จิตใจไม่สงบกันเพียงนี้ ไม่รู้สึกขายขี้หน้ากันบ้างหรือ”

เสียงต่ำลึกแหบแห้งและเยียบเย็นสายหนึ่งดังขึ้น

พร้อมๆ เสียงนั้นเงาร่างชายชราผอมแห้งคนหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขายืนง่ายๆ อยู่ตรงนั้น กลับเหมือนเงาทะมึนมืดมิด ทำเอาผู้คนไม่อาจมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาได้ถนัดตา

คนผู้นี้ก็คืออริยะคนหนึ่งที่นั่งบัญชาการค่ายพ่อมดเถื่อน พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬจากสายคนเถื่อนมืด ความแข็งแกร่งยากหยั่งถึง

ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนที่อยู่ตรงนั้นต่างฮือฮา สีหน้าวูบไหวไม่มั่นคง

“ใต้เท้าพ่อมดอริยะ พวกข้าล้วนสงสัยว่าหลินสวินนั่นเป็นคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าหลี่ตู๋สิง บางทีอาจมีแค่ ‘คู่แฝดรุ่งรัตติกาล’ ออกโรงเท่านั้นถึงจะสังหารเขาได้”

มีคนกัดฟันกล่าว

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬแค่เสียงเย็น “พวกเขากำลังปิดด่านอยู่ เมื่อออกเคลื่อนไหวจะต้องถูกสตรีเหี้ยมอำมหิตอย่างจ้าวซิงเย่จับจ้องตั้งแต่จังหวะแรกแน่ ผลที่ตามมาไม่ใช่สิ่งที่พวกเราแบกรับไหว”

ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนที่อยู่ตรงนั้นล้วนมีสีหน้าไม่เต็มใจ “แค้นครั้งใหญ่ฝังลึก ขายหน้าและอัปยศอดสูเช่นนี้ จะปล่อยผ่านทั้งอย่างนี้หรือ”

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬเอ่ยเสียงขรึมว่า “เรื่องนี้ก็มอบหมายให้ข้าแล้วกัน ขอเพียงหลินสวินนั่นกล้าโผล่หน้ามาอีก จะต้องไม่รอดเป็นแน่!”

ทุกคนอึ้งงันก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นในใจก็ดีใจแทบคลั่ง ต่างเข้าใจแล้ว นี่หมายความว่าขอเพียงหลินสวินนั่นกล้าโผล่หน้ามาอีก ใต้เท้าพ่อมดอริยะต้องลงมือเองอย่างแน่นอน!

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬทอดสายตามองออกไปไกลๆ บริเวณยอดเขามีเงาทะมึนสายหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ประหนึ่งม่านราตรีปกคลุมฟากฟ้าแถบนั้นเอาไว้

อีกด้านหนึ่งมีแสงเจิดจ้าสายหนึ่งทะยานอากาศเช่นเดียวกัน แผ่รัศมีสว่างไสวไพศาล เวิ้งว้างพิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์

นั่นก็คือสถานที่ปิดด่านฝึกปราณของ ‘คู่แฝดรุ่งรัตติกาล’!

‘จากพัฒนาการฝึกปราณเช่นนี้ ไม่ถึงหนึ่งปีก็อาจจะครอบครองรากฐานระดับอริยะได้แล้ว…’

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬกล่าวพึมพำในใจ ‘ตอนนี้สูญเสียพลังส่วนหนึ่งไปไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอเพียงถึงตอนนั้นแล้ว สถานการณ์ในสมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้จะต้องพลิกเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน!’

……

ภูเขาหมื่นทวน

ฐานที่มั่นของพันธมิตรหมื่นเผ่า

“เฮอะ! พวกสวะไร้ค่า!”

‘อริยะ’ เผ่าวัวมารจอมพลังไม่ปิดบังการเหยียดหยันของตน พูดกับผู้แข็งแกร่งพันธมิตรหมื่นเผ่าทั้งหมดที่ยืนอยู่ข้างตน “อยากแก้แค้น? ได้… พวกเจ้าก็อย่าเอาแต่ร้องแรกแหกกระเชอส่งเสียงเอ็ดตะโร แล้วบุกตรงเข้าไปฆ่าเสียก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ”

อริยะคนนี้สูงจั้งเศษ แผ่นหลังกว้างช่วงเอวกำยำ ผมเผ้าหนวดเคราประหนึ่งทวน แค่ยืนสบายๆ ก็พาให้ผู้คนรู้สึกถึงแรงกดดันยิ่งใหญ่ปานภูเขายักษ์

เขาก็คือ ‘หนิวเจิ้นอวี่’ ผู้ควบคุมดูแลทัพพันธมิตรหมื่นเผ่า และได้รับการขนานนามว่าอริยะวัวคลั่ง

สถานที่แห่งนี้มีผู้แข็งแกร่งทุกเผ่ามารวมตัวกัน ผู้คนมากมาย แต่ทุกคนล้วนสีหน้าไม่น่าดูยิ่ง เพราะคำพูดของหนิวเจิ้นอวี่นั้นไม่น่าฟังเกินไปจริงๆ

“ทำไมไม่มีใครพูดเลย ช่างเป็นสวะไร้นำยากันหมดซะจริง!”

หนิวเจิ้นอวี่แค่นเสียงเย็น ทำหน้าดูแคลน “ชิ่วๆๆ ไสหัวออกไปให้หมด ถ้าหลินสวินนี้โผล่มาอีกก็มอบให้ข้าจัดการเสีย พอใจแล้วกระมัง”

เดิมทีทุกคนต่างถูกด่าทอจนสีหน้าไม่น่าดูหาใดเปรียบ แต่เมื่อได้ยินถึงตอนท้ายก็ถอนหายใจโล่งอกพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

พวกเขารู้ว่าหนิวเจิ้นอวี่คนนี้ถึงจะปากร้าย แต่ขอแค่เขารับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ จากนี้ก็ไม่ต้องเกรงกลัวหลินสวินนั่นอีกต่อไปแล้ว

‘ศึกถกมรรคเขาพินิจมรรคจะเริ่มในอีกหนึ่งปีให้หลังนี้แล้ว จู่ๆ กลับมีหลินสวินนี่โผล่มา พวกนางตัวดีจ้าวซิงเย่นั่นซุกไพ่ตายแบบนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไรกัน’

เมื่อทุกคนแยกย้าย หนิวเจิ้นอวี่ก็ลูบเคราปลายคาง หัวคิ้วขมวดมุ่น

ครึ่งเดือนมานี้หลินสวินคนเดียวฆ่าผู้แข็งแกร่งพันธมิตรหมื่นเผ่าไปเจ็ดสิบกว่าคน วิธีการบุกน่ากลัวเช่นนี้ทำเอาหนิวเจิ้นอวี่ยังรู้สึกตกใจ

‘ฝีมือที่เจ้าเด็กนี่สำแดงออกมาสามารถต้านพวกสามอันดับแรกใน ‘กระดานพลังต่อสู้’ ได้ ดูท่านอกจากหลี่ตู๋สิงแล้ว ในศึกถกมรรคเขาพินิจมรรคอีกหนึ่งปีให้หลัง หลินสวินคนนี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องจับตามองด้วยซะแล้ว…’

นัยน์ตาหนิวเจิ้นอวี่วาบประกายแปลบปลาบ จมสู่ภวังค์ความคิด

……

จ้าวซิงเย่วิเคราะห์ไว้ได้ไม่มีผิด การเข่นฆ่าช่วงครึ่งเดือนมานี้ทำให้หลินสวินกลายเป็นจุดรวมความสนใจของสองค่ายใหญ่ที่เหลือในทันที

ต่อให้เป็นอริยะก็เริ่มทอดสายตาจับจ้องหลินสวินแล้ว

กระแสความโด่งดังถึงขั้นกลบรัศมีหลี่ตู๋สิงจนมิด

แต่ว่านับแต่วันนั้นเป็นต้นมา หลินสวินก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกอีก กลับไปใช้ชีวิตปิดด่านฝึกปราณเก็บตัวในเรือนลึกเหมือนเมื่อก่อน

แต่ขณะที่หลินสวินคิดว่าชีวิตราบเรียบเงียบสงบเช่นนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าจะเริ่มศึกถกมรรคเขาพินิจมรรคนั้น

บุคคลที่ไม่คาดไม่ถึงคนหนึ่งก็มาพบเขา

วันนี้ค่ำคืนมืดสนิท ม่านราตรีดุจสีหมึก

หญิงลึกลับปรากฏตัวอยู่ในเรือนหินที่หลินสวินอาศัยอยู่

“ผู้อาวุโส?”

หลินสวินตื่นจากการทำสมาธิโดยพลัน รู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่ง

หากเขาจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นครั้งที่สามในช่วงหลายปีมานี้ที่หญิงลึกลับออกมาจากห้องโถงมรรคาสวรรค์

ครั้งแรกเป็นตอนที่ถูกเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬไล่ล่าสังหารที่แดนฐิติประจิม

ครั้นสองคือตอนเปลี่ยนอริยะเป็นเดรัจฉานที่ริมฝั่งทะเลหมากดารา

ครั้งที่สามก็คือตอนนี้!

สิ่งนี้ทำให้หลินสวินตระหนักได้ในทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน

“หนึ่งปีก่อนข้าเข้าไปในอีกโลกหนึ่งของสมรภูมิกระหายเลือดนี้ ค้นพบสถานที่น่าสนใจบางแห่ง”

หญิงลึกลับไม่ได้ปิดบัง แต่คำพูดที่เอ่ยออกมากลับทำให้หลินสวินตกตะลึง เพิ่งกระจ่างแจ้งตอนนี้ว่าหญิงลึกลับจากไปตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อนแล้ว

หนำซ้ำเป็นไปได้สูงว่าสถานที่ที่นางไป ก็คือโลกในรัตติกาลมืดมิดนั่น สถานแห่งความพิศวงที่ถูกสงสัยว่าเป็นนรกใต้พิภพ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์