Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1445

สรุปบท ตอนที่ 1445 ชนะรวด: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 1445 ชนะรวด จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1445 ชนะรวด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ท่ามกลางฝุ่นควันแสงระเรื่อคละคลุ้ง ปรากฏเงาร่างสูงโปร่งผงาดกร้าวของหลินสวิน

เขายืนอยู่ตรงนั้น ผมดำทั่วศีรษะปลิวไสวตามสายลม กลิ่นอายพวยพุ่งดุจเทพมาร

ไร้สภาพยับเยินแต่อย่างใด!

ภายใต้การเผชิญหน้ากับพลังจู่โจมของเงามายาหงส์หิรัณย์ที่เหมือนการโจมตีจากอริยบุคคลนั้น เขาถึงกับไม่เคยได้รับบาดเจ็บเลย…

เมิ่งเหลียนชิงเบิกตากว้าง ใบหน้าที่ซีดขาวแต่เดิมปรากฏแววมึนงง นี่… เป็นไปได้อย่างไร

ทั่วลานเงียบกริบ

ไม่ว่าศัตรูหรือฝ่ายตนต่างก็แข็งค้างอยู่ตรงนั้น จิตใจฉงนงุนงง

การโจมตีก่อนหน้านั้นน่าสะพรึงถึงขีดสุด ทำให้หัวใจผู้คนกระดอนจ่อที่คอหอย แต่ผลลัพธ์กลับเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่คิดไม่ฝัน

หลินสวินปลอดภัยไร้อันตราย!

จ้าวซิงเย่ยังอึ้งงัน หว่างคิ้วฉายแววประหลาดใจ ในการคาดเดาของนาง หลินสวินน่าจะมีศักยภาพต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้ แต่ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

นางถึงขั้นเริ่มคิดคำนวณว่าหากหลินสวินจบไม่สวย ฝ่ายจักรวรรดิเหลือเพียงผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นที่จะดำเนินศึกถกมรรคต่อ ยังพอมีโอกาสชนะอีกเท่าไร

ไหนเลยจะคาดคิด หลินสวินกลับสร้างความประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึงให้แก่นาง!

“นี่เป็นถึงสมบัติอริยะที่มีอานุภาพป้องกันอัศจรรย์อย่างหนึ่ง…”

ไกลออกไปนัยน์ตาหนิวเจิ้นอวี่วาบวาว ประกายเทพน่าตระหนกฉายสาดออกมา เพิ่งตระหนักได้ในตอนนี้ว่าเบื้องหน้าหลินสวินปรากฏโล่สำริดลายพร้อยเปื้อนเลือดอันหนึ่ง กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาเก่าแก่และไพศาล มีกลิ่นอายอริยเทพหลอมรวมซ่อนอยู่ข้างใน

ทั่วลานเงียบกริบ

ผู้แข็งแกร่งหมื่นเผ่าเหล่านั้นต่างไม่อาจยอมรับได้ การโจมตีอันแข็งแกร่งเช่นนี้กลับไม่สามารถทำอะไรเจ้าหมอนี่ได้แม้แต่ปลายขนเลยหรือ

เป็นไปได้อย่างไร

ท่ามกลางความเงียบงัน หลินสวินเก็บโล่สำริดแล้วย่างเท้าก้าวเดินไปทางเมิ่งเหลียนชิง สีหน้าราบเรียบเยียบเย็น

ตึก! ตึก!

เสียงฝีเท้าไม่ดังมากนัก แต่ท่ามกลางบรรยากาศนิ่งเงียบเช่นนี้กลับเหมือนกลองยักษ์ที่เทพสงครามกระหน่ำตี ทุบเคาะหัวใจผู้คนอย่างรุนแรง

เมิ่งเหลียนชิงหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ในใจปรากฏความหนาวเหน็บขึ้นมา

นี่เป็นของประหลาดชนิดใดกันแน่ ถึงได้มีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าน่าสะพรึงเช่นนี้ภายในมือของระดับอมตะเคราะห์หลอมกายด่านเจ็ด

ขณะนี้นางรู้สึกถึงความหวาดกลัวแล้ว

แต่นี่เป็นศึกถกมรรค ไม่มีทางให้ถอยหนี ไม่ชนะก็ตาย!

นี่ต่างหากที่เป็นจุดที่ทำให้เมิ่งเหลียนชิงสิ้นหวัง

ก่อนหน้านี้ใช่ว่านางไม่เคยเข้าร่วมศึกถกมรรคมาก่อน ถึงขั้นเคยบุกสังหารคู่ต่อสู้อย่างง่ายดายในศึกถกมรรคที่ผ่านมาด้วยซ้ำ

ตอนนั้นนางไม่สนใจไยดีคู่ต่อสู้ที่ตายด้วยน้ำมือตน ไม่เห็นอยู่ในสายตา ย่อมไม่เคยสัมผัสรสชาติแห่งความสิ้นหวังเช่นนี้เป็นธรรมดา

ตอนนี้เมิ่งเหลียนชิงได้สัมผัสถึงมันแล้ว ถึงได้ค้นพบว่าตนกำลังก้าวสู่เงามืดแห่งความตาย!

ความไม่จำยอมอันแรงกล้ากระตุ้นให้นางเกิดแรงปรารถนาที่จะเอาชีวิตรอด ไม่รอให้หลินสวินเข้าใกล้นางก็กรีดร้องเสียงแหลมออกมา ควงกระบี่บุกเข้าไป

สวบ!

กระบี่อัฐิหงส์หิรัณย์ทะยานฟ้า ส่งเสียงดังชิ้งๆ ประหนึ่งรุ้งเทพสีทองพาดขวางโลกหล้า บั่นเฉือนห้วงอากาศขาดสะบั้น

แต่เมื่อเข้าใกล้หลินสวินกลับถูกหมัดเดียวซัดปลิว ร่วงกระแทกพื้นอย่างแรง เศษหินและฝุ่นควันฟุ้งกระจายเต็มพื้น ครวญคร่ำไม่หยุด

พรูด!

เมิ่งเหลียนชิงที่พลังดั้งเดิมบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้วกระอักเลือด ร่างอรชรสั่นสะท้าน

ฝ่ายพันธมิตรหมื่นเผ่าต่างเบิกตาแทบถลน ในใจเปี่ยมด้วยความหวั่นวิตก ตกใจระคนเดือดดาล และความหวาดหวั่น

ทุกคนล้วนดูออกว่าเมิ่งเหลียนชิงใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว

“ให้นางถอนตัวยอมแพ้ ในการต่อสู้ครั้งต่อไปข้าจะให้โอกาสเจ้ายอมแพ้สักครั้ง”

ทันใดนั้นข่งซิ่วที่ยืนอยู่นอกสนามประลองเอ่ยปากขึ้น น้ำเสียงเยียบเย็น เจือความขัดใจเสี้ยวหนึ่ง

ประโยคเดียวเรียกสายตาคนทั้งลาน

ข้อเสนอนี้ช่างเย้ายวนอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นเท่ากับมอบหนทางรอดให้แก่ทั้งสองฝ่าย

แต่น่าเสียดายหลินสวินปฏิเสธตรงๆ “ข้าบอกแล้ว มีข้าอยู่ในสนามประลองแห่งนี้ พวกเจ้าล้วนต้องตาย!”

น้ำเสียงไม่ยินยอมให้สงสัยใดๆ

ฝ่ายค่ายจักรวรรดิต่างเลือดลมสูบฉีด จิตใจเดือดพล่าน ถูกท่าทางผงาดกร้าวเด็ดเดี่ยวของหลินสวินกระตุ้น

ทว่าข่งซิ่วและเหล่าผู้แข็งแกร่งพันธมิตรหมื่นเผ่าแต่ละคนล้วนสีหน้าเคร่งขรึม สายตาเหมือนจะฆ่าคน

ในศึกถกมรรคที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยรู้สึกอดสูเช่นนี้มาก่อน!

และในใจเมิ่งเหลียนชิงก็หนาวเหน็บอย่างสิ้นเชิง นางรู้ว่าตนไม่มีโอกาสแล้ว…

จากนั้นประกายเย็นเยียบผุดขึ้นกลางนัยน์ตาของนาง คล้ายกับทำการตัดสินใจ

แต่ยามนี้หลินสวินได้บุกมาถึงแล้ว ความเร็วน่าเหลือเชื่อ เดิมทีเขาเดินเข้ามา แต่ตอนนี้เงาร่างกลับหายวับจากจุดเดิมฉับพลัน

“แย่แล้ว!”

เมิ่งเหลียนชิงพลันหน้าเปลี่ยนสี เบี่ยงหลบสุดแรง

ตูม!

แสงหมัดพร่างพราวสายหนึ่งปรากฏขึ้น ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วในครรลองสายตาของนาง กลายเป็นหมัดที่เหมือนแผ่ครอบสิบทิศ ประหนึ่งแทรกซึมทุกอณู หลบหนีไม่ได้

จากนั้นนางรู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้าเป็นสีดำ บริเวณอกก็ถูกแหวกออก!

ครึ่ก!

ร่างกายของนางถูกพลังหมัดแข็งแกร่งสายนั้นทึ้งทะลวงตรงๆ จากนั้นก็ระเบิดเป็นจุณ กลายเป็นละอองเลือดสีแดงฉานงดงามสยดสยองสาดพรม

ก่อนตายนางรู้สึกตั้งตัวไม่ทัน มีคำพูดมากมายที่ยังไม่ได้พูด เรื่องราวมากมายที่ยังไม่ได้ทำ ทั้งหมดล้วนกลายเป็นความไม่จำยอมอย่างหนึ่งที่ถูกแทนที่ด้วยความตาย

“ลำพังแค่เจ้า ยังไม่มีคุณสมบัติพอจะตายไปพร้อมกับข้า”

หลินสวินกล่าวเสียงเรียบเฉย

เงาร่างของเขาผึ่งผาย อาบชโลมแสงมรรคสีใส ทั่วร่างแผ่อานุภาพดุจดั่งเทพมาร ละอองเลือดสาดกระเซ็นอยู่ไม่ไกลนัก

“เอะอะอะไร เขาคนเดียวเท่านั้น ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราทุกคนได้ ต้องตายอย่างแน่นอน และต้องชดใช้ชีวิตที่เสียไป!” อันฮว่าเทียนตะโกนลั่น

“ในศึกถกมรรคที่ผ่านมา พวกข้ากำชัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า สังหารคนของจักรวรรดิพวกเจ้า และไม่ได้บ้าระห่ำถึงเพียงนี้เหมือนเจ้า ตอนนี้เจ้ากำแหงอะไร”

เวลานี้เสียงเกรี้ยวกราดของฝั่งพันธมิตรหมื่นเผ่าและเสียงโห่ร้องยินดีของฝั่งค่ายจักรวรรดิประชันกันอย่างเด่นชัด

ส่วนหลินสวินยังยืนนิ่งไม่ไหวติง สีหน้าราบเรียบ “สุนัขที่รู้จักแต่เห่าหอนไม่มีประโยชน์ ถ้ากล้าก็ไสหัวขึ้นมา!”

“ฆ่า!”

ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าคนหนึ่งกระโจนออกมา ระงับไอสังหารและความเดือดดาลภายในใจไม่ไหวแล้ว

ครานี้เป็นชายหนุ่มที่ร่างกายอบอวลด้วยหินหนืดหลอมระอุพลุ่งพล่าน หนวดเคราเผ้าผมดุจไฟโหม กลิ่นอายดุเดือดและสยดสยองหาใดเปรียบ

ตูม!

ทันทีที่ปรากฏตัวก็จู่โจมทันที แผ่นดินกว้างใหญ่ล้วนแหวกออก หินหนืดหอบม้วนลุกโหมห้วงอากาศ กลิ่นอายทำลายล้างน่าสะพรึง

น่าเสียดาย เพียงไม่กี่กระบวนท่าก็ถูกหลินสวินฟันคอขาดด้วยฝ่ามือเดียว จากนั้นก็ใช้เท้าเหยียบร่างของเขาจนแหลก ตัวขาดลอยไปคนละทิศคนละทาง

“ต่อไป”

หลินสวินเปล่งเสียงเยียบเย็น แม้ผ่านการรบราฆ่าฟันหลายหนเขาก็ยังคงสะอาดหมดจด ไม่มีจุดไหนเสียหาย ถึงขั้นที่กลิ่นอายไม่เคยลดทอนลงแม้แต่น้อย

ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรหมื่นเผ่าล้วนตาแดงก่ำ เบิกตาแทบถลน พ่ายแพ้ติดต่อกันสี่ครั้งรวด ทำให้พวกเขายากจะยอมรับได้

“ข้าแค้นนัก!” หนิวทุนเทียนแหงนหน้าคำราม ดวงตาแดงก่ำจวนจะคลั่งอยู่รอมร่อ

ยามนี้เขาคล้ายจะรู้รสชาติตอนที่หลินสวินอดทนรอก่อนหน้านี้แล้ว ศัตรูอวดดีไม่ว่า แค้นก็แต่ตนไม่มีโอกาสลงสนาม

และฝ่ายค่ายจักรวรรดิก็เดือดพล่านอย่างสิ้นเชิง

ชนะสี่ครั้งรวด!

ผลงานต่อสู้ระดับนี้ ในศึกถกมรรคที่ผ่านมาไม่เคยมีมาก่อน!

ตัดเสวียนหลัวจื่อที่ถูกซ่งอู๋เชวียสังหาร ตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรหมื่นเผ่าเหลือแค่ห้าคนเท่านั้น

กล่าวได้ว่าแม้หลินสวินจะถอนตัวออกจากสนามประลองตอนนี้ ฝ่ายจักรวรรดิก็ครองสถานการณ์ได้เปรียบระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรเสียพวกหลี่ตู๋สิง สืออวี่ก็ยังไม่ได้ลงสนาม

แต่หลินสวินไม่ทำเช่นนั้น

เขายืนอยู่ตรงนั้นราวกับหินดึกดำบรรพ์ไม่โคลงเคลง หมายจะฆ่าจนถึงที่สุด!

ไม่มีใครรู้ว่าเขาอดกลั้นมาโดยตลอด เกรงว่าพลังที่ระเบิดออกมาจะแข็งแกร่งเกินไป เรียกความประหลาดใจโดยไม่จำเป็น

อย่างเช่นอริยะอย่างหนิวเจิ้นอวี่ หากตอนที่รู้ว่าในลานไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของตนได้สักคน จะขายหน้าจนพาลโกรธแล้วแหกกฎขึ้นมาหรือไม่

ใครก็บอกไม่ได้

เพราะฉะนั้นหลินสวินจึงยั้งมือมาโดยตลอด ก็เหมือนนักตกปลาที่อดทน อานุภาพและพลังต่อสู้ที่สำแดงออกมาในแต่ละครั้งล้วนลงมือแบบเก็บงำกดข่ม ทั้งยังไม่ให้เป็นที่น่าตกใจขนาดนั้นอีกด้วย

ก็เหมือนตอนที่สังหารเมิ่งเหลียนชิง เขาไม่จำเป็นต้องหยิบยืมโล่สำริดเปื้อนเลือดชิ้นนั้นมาต้านพลังเลยก็ได้ แค่ต้านตรงๆ ก็สกัดการโจมตีระดับนั้นได้แล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ จากพลังหลอมกายระดับอมตะเคราะห์ของเขา ตอนที่สังหารคู่ต่อสู้สี่คนก่อนหน้านี้ก็สามารถตัดสินแพ้ชนะได้ภายในเวลาอันสั้น!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์