แต่สุดท้ายหลินสวินก็พยักหน้าตอบรับไป
เดิมเขาเที่ยวท่องในโลก จิตใจปลอดโปร่ง เข้าร่วมงานชุมนุมครั้งหนึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไร
“เชิญคุณชายเจ้าค่ะ”
หญิงสาวใบหน้าสะสวยยิ้มหวาน
ตอนนี้หลินสวินจึงสังเกตเห็นว่าหญิงสาวสะสวยตรงหน้านี้งดงามยิ่ง น่ารักน่าเอ็นดู ดวงตาโตสุกสกาว ผิวพรรณเปล่งปลั่งขาวสะอาด เจริญหูเจริญตานัก
หญิงสาวน่ารักกระตือรือร้นนำทางอยู่ด้านหน้า
หลินสวินยิ้มให้ ไม่พูดอะไรอีก
เขาในตอนนี้แม้กลิ่นอายเรียบง่ายดั่งเมฆไหลเคลื่อน แต่บารมีที่บ่มเพาะจากการกรำศึกฝึกปราณมานานปีกลับสูงส่งล้ำลึก โดดเด่นเกินคนธรรมดา กดข่มผู้ฝึกปราณที่อยู่ใกล้กันบางคนลงไปอย่างสมบูรณ์
นี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่หญิงสาวงดงามกระตือรือร้นออกตัวเช่นนี้
“คุณชาย ข้าชื่อเซี่ยเวย มาจากแคว้นแจกันสมบัติสำนักกระบี่ลำนำเขียว”
ระหว่างทางเซี่ยเวยกะพริบตาดวงโต เอ่ยถามอย่างร่าเริงว่า “แล้วท่านล่ะ”
หลินสวินกล่าวว่า “ชื่อเสียงเรียงนามไม่สำคัญ ภายหน้าหากมีวันที่ได้พบกันอีกก็จะรู้จักกันเอง”
ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจปกปิด แต่เป็นเพราะทันทีที่เผยตัวจะต้องดึงดูดสายตาแปลกประหลาดที่ไม่จำเป็นมากมายแน่
หากเป็นเช่นนี้ เกรงว่าจะชิงแสงไฟจากเจ้าภาพที่เตรียมงานชุมนุมครั้งนี้
ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นคนมาเดินดูเล่นๆ เท่านั้น
“เช่นนั้นท่านก็คงเป็นผู้มีขอบเขตมกุฎคนหนึ่งด้วยกระมัง”
เซี่ยเวยพูดอย่างสงสัย
หลินสวินส่งเสียงอืม
พอเห็นเขายอมรับ ดวงตาสุกใสของเซี่ยเวยก็พลันเปล่งประกายขึ้น เอ่ยว่า “มิน่าข้าถึงเห็นว่าบารมีท่านไม่ธรรมดาปานนี้ ที่แท้ท่านก็เคยเข้าไปในแดนมกุฎ”
“คนที่เข้าไปในแดนมกุฎได้ไม่มีใครไม่เป็นบุคคลแห่งยุค อย่างโอรสเซ่าเฮ่า เทพธิดารั่วอู่ หยวนฝ่าเทียน ราชันเผิงปีกทองน้อย และยังมีอีกมากมาย…”
หว่างคิ้วของเซี่ยเวยเจือแววเคารพยกย่อง “อย่างศิษย์พี่อี้เทียนหลินที่จัดงานชุมนุมพันกระแสครั้งนี้ก็เคยเข้าไปในแดนมกุฎ อี้เทียนหลินยอดเยี่ยมนัก ศิษย์พี่ของเขาก็คือเย่หมัวเฮอที่โด่งดังที่สุดในลัทธิเทพต้นกำเนิด”
“จริงสิ คุณชาย ท่านรู้จักพวกเขาไหมเจ้าคะ”
“พวกเขาหรือ”
หลินสวินอึ้งไปแล้วพลันยิ้มเอ่ย “บนโลกนี้คนที่ไม่รู้จักพวกเขาคงมีน้อยมากกระมัง”
ขณะที่พูด ทั้งสองก็เหยียบย่างลงบนเขาพันกระแสแล้ว
ภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สภาพแวดล้อมล้ำเลิศ น้ำตกเทตัวลงมาจากยอดเขา ปรากฏเป็นทิวทัศน์อัศจรรย์เกรียงไกรอย่าง ‘พันกระแสชิงเชี่ยว ธารดาราม้วนกลับ’
และตอนนี้ จู่ๆ ก็มีหญิงสาวชุดม่วงเงาร่างสะโอดสะองคนหนึ่งเดินอยู่บนทางข้างหน้า
“เซี่ยเวย ให้เจ้าไปรับศิษย์พี่ซย่าหลิวชวน แล้วคนผู้นี้เป็นใครกัน”
หญิงสาวชุดม่วงพูดพลางมองหลินสวินด้วยสีหน้ากังขา
หญิงผู้นี้ร่างผอมสูง สายตาเฉียบคมเคร่งขรึม สีหน้าเย็นชาราวน้ำค้างแข็งเย็นยะเยือก เจือแววหยิ่งผยอง
ดังคาด ท่าทีของเซี่ยเวยอ่อนลงไปบ้าง เอ่ยโดยสำรวมว่า “ศิษย์พี่กู่ คุณชายท่านนี้ก็มาเข้าร่วมงานชุมนุมเจ้าค่ะ ใช่แล้ว เขาก็เป็นบุคคลขอบเขตมกุฎคนหนึ่ง”
ศิษย์พี่กู่ตะลึงไป เห็นว่ากลิ่นอายหลินสวินแม้ราบเรียบ แต่บารมีกลับไม่ธรรมดาจริงๆ ความลังเลเผยขึ้นมาบนสีหน้าอย่างห้ามไม่อยู่
อย่างงานชุมนุมพันกระแสคราวนี้ ผู้ที่เชิญมาต่างเป็นอัจฉริยะชั้นหนึ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะอี้เทียนหลิน เดิมทีก็เป็นมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ที่ลือชื่อไปทั้งแดนคนหนึ่ง
คนที่อยู่ตรงหน้านี้หากเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎผู้หนึ่งก็จะชักช้าไม่ได้แล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ศิษย์พี่กู่กำลังจะพูดอะไร ฉับพลันเสียงเซ็งแซ่ระลอกหนึ่งก็แว่วมาจากจุดที่ไม่ไกลนัก ก็เห็นว่าชายหนุ่มชุดเงินผู้หนึ่งเดินขึ้นมาบนเขาท่ามกลางคนกลุ่มหนึ่งที่รายล้อม
“ศิษย์พี่อี้ชิงเทียนมาแล้ว!”
“เร็วเข้า รีบลุกขึ้นไปต้อนรับ”
“ฮ่าๆ ในที่สุดก็ได้ยลโฉมหน้าที่แท้จริงของศิษย์พี่อี้เทียนหลินแล้ว ไม่เสียแรงที่เป็นบุคคลแห่งยุคที่มาจากลัทธิเทพต้นกำเนิด”
ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งมากมายที่อยู่บนเขาต่างตกตะลึง พากันลุกขึ้นยืน ทอดสายตามองไปยังชายหนุ่มชุดเงินซึ่งมีคนรายล้อมอยู่เหมือนหมู่ดาวล้อมเดือนคนนั้น
เห็นเช่นนี้ศิษย์พี่กู่ก็คล้ายตื่นเต้นนัก รีบร้อนเอ่ยกำชับว่า “เซี่ยเวย เจ้าพาคุณชายท่านนี้ไปเถอะ”
นางพูดพลางเดินหน้าไปเอง ใบหน้าที่เดิมเย็นชาราวน้ำค้างแข็งปรากฏรอยยิ้มสดใส คารวะจากใจจริงให้ชายหนุ่มชุดเงินคนนั้น
ส่วนหลินสวินถูกนางลืมไปอย่างรวดเร็ว
’คุณชาย ท่านอย่าถือสาเลย จะต้องมีสักวันที่ท่านเป็นเหมือนศิษย์พี่อี้เทียนหลินเช่นกัน ถึงอย่างไรท่านก็เป็นผู้มีขอบเขตมกุฎ ทางข้างหน้าไม่อาจประเมินได้’
เซี่ยเวยสื่อจิตเสียงอ่อยอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจหลินสวิน
‘ขอบคุณที่เจ้าอวยพร’
หลินสวินยิ้มในใจ ด้วยสายตาและประสบการณ์ของเขา จะมาสนใจเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร
ที่ทำให้เขาขบขันก็คือแม่นางเซี่ยเวยเอาอี้เทียนหลินมาเทียบกับเขา เรื่องนี้… ทำให้เขาจะหัวเราะก็ไม่ใช่ แต่จะร้องไห้ก็ไม่เชิงนัก
ควรรู้ว่าในแดนมกุฎตอนนั้น คนที่ทำให้หลินสวินจดจำได้มีคนอย่างโอรสเซ่าเฮ่า เทพธิดารั่วอู่ บุตรนรก เย่หมัวเฮอ
ที่จำไม่ได้ก็มีแต่อี้เทียนหลินเท่านั้น
ถ้าเขาเดาไม่ผิด เกรงว่าอีกฝ่ายแม้แต่กระดานทองคำผู้กล้ายังเข้าไปไม่ได้
ทว่าสภาวะจิตของหลินสวินในตอนนี้ต่างจากแต่ก่อน ไม่ใช่ขี้คร้านจะถือสา แต่เป็นเพราะไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์