เปรี้ยง!
ราวฟ้าผ่าลงกลางใจของปี้เหิน
ในครรลองสายตา ชายหนุ่มที่ก้าวออกมาข้างหน้านั้นเหมือนเหวลึกดูดกลืนหมู่ดาวทั่วบริเวณ เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามที่ไม่เปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์ กำราบสรรพชีวิต
เปรียบเทียบกันแล้วปี้เหินรู้สึกว่าตัวเองเหมือนมดปลวกตัวหนึ่ง ได้แต่แหงนมองและหมอบคลาน ไม่อาจรับรู้ได้ถึงความสูงส่งของเขา!
เพียงพริบตาใบหน้างามของปี้เหินซีดเผือด กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างต่างแข็งทื่อ กลิ่นอายน่าหวาดกลัวชวนตระหนกแผ่ไปทั่วตัวเหมือนกระแสลมหนาว
หืม?
เกือบจะเวลาเดียวกัน อี้เทียนหลินสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่พริบตาแรก เดิมเขาคิดว่าหากหลินสวินต้านไม่อยู่ก็จะยื่นมือเข้าช่วยทันที
แต่เขากลับพบว่ายามหลินสวินก้าวออกไป ปี้เหินผู้นี้ก็ราวเผชิญกับความหวาดกลัว ไม่มีท่าทีแข็งกร้าว ดุดัน หยิ่งทะนงเหมือนก่อนหน้านี้อีก
เหมือนระหว่างที่ก้าวเดินก็ทำให้นางแบกรับแรงกดดันที่เกือบจะต้านไม่อยู่!
“คุณชาย…”
เซี่ยเวยเอ่ยปากแต่กลับไม่กล่าวออกมา หลินสวินออกหน้าเพื่อนาง ทำให้นางเกินคาดหมาย ซาบซึ้งใจไม่หยุด แต่นางก็ไม่อยากให้หลินสวินซ้ำรอย ถูกหญิงสาวต่างดินแดนคนนั้นทำให้บาดเจ็บ
เพียงแต่เวลานี้นางก็สังเกตเห็นถึงความผิดแปลกอย่างฉับไว
ก้าวย่างนี้ทำให้ปี้เหินนั่นราวกับถูกสะกด ไม่ยอมลงมือ!
นี่…
ไม่นานคนอื่นๆ ในที่นั้นก็สังเกตเห็นความผิดปกติ แต่ละคนแปลกใจไม่หยุด
ตึง!
จากนั้นภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาตื่นตระหนกของทุกคน ร่างตรงดิ่งดุจกระบี่ของปี้เหินถึงกับคุกเข่าลงกับพื้น หมอบคลานอยู่ตรงนั้น เหมือนกำลังทำความเคารพอย่างสูง!
บนพื้นนั่น ก้อนหินต้นไม้สั่นระรัวตามแรงสะเทือนในการคุกเข่าของนาง
ก้าวเดียว!
หญิงสาวที่มาจากต่างดินแดนซึ่งก่อนหน้านี้มองข้ามเหล่าผู้กล้า ฝีมือดุดันแข็งกร้าว ถึงกับคุกเข่าลงกับพื้น
ภาพเช่นนี้ราวกับฟ้าถล่มดินทลายจริงๆ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงเบิกตากว้าง ลมหายใจหยุดไปชั่วขณะ ไม่กล้าที่จะเชื่อ
ต้องรู้ว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่พวกธรรมดา หากแต่เป็นผู้ฝึกกระบี่หญิงคนหนึ่งที่ก้าวสู่มกุฎมรรคา พลังต่อสู้แข็งแกร่งถึงขั้นทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างรู้สึกสิ้นหวัง
แต่ตอนนี้แค่หลินสวินก้าวออกไปง่ายๆ ก้าวเดียว นางก็คุกเข่าแล้ว!
เมื่อมองหลินสวินอีกครั้ง ท่าทางเขายังคงราบเรียบเหมือนก่อนหน้านี้ สีหน้าไม่เรียบเฉย ไม่มีคลื่นลมแม้แต่น้อย เหมือนเชื่อว่าทุกอย่างนี้เดิมทีก็ควรเป็นเช่นนั้น
คนไม่น้อยต่างกลืนน้ำลายไม่หยุด ใจสั่นระรัว ตระหนักได้ว่าคนที่ถูกพวกเขาละเลยผู้นี้ ความจริงแล้วเป็นบุคคลน่ากลัวที่เก็บงำตัวตนได้แนบเนียนคนหนึ่ง!
อี้เทียนหลินสีหน้ามึนงง ในใจก็ถูกภาพนี้โจมตีเช่นกัน ไม่อาจนิ่งสงบ
ไหนเลยจะคาดคิดว่าในงานชุมนุมที่เขาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นจะมีบุคคลร้ายกาจแห่งยุคอย่างหลินสวินปรากฏตัว
เซี่ยเวยปิดปาก ดวงตาผลซิ่งเบิกโต
ครั้งแรกที่เจอหลินสวินนางก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเช่นนี้!
ศิษย์พี่กู่ก็อึ้งงัน
ก่อนหน้านี้ที่เจอหลินสวิน นางยังไม่ใส่ใจ ถึงขั้นเกือบจะปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ให้เข้าร่วมงานชุมนุมครั้งนี้ แต่ด้วยการมาเยือนของอี้เทียนหลิน ทำให้นางทิ้งหลินสวินไว้เบื้องหลัง ไม่ให้ความสนใจอีก
แต่ตอนนี้…
ในใจนางพลันเอ่อล้นด้วยความรู้สึกนึกเสียดาย หากเมื่อครู่ตนให้ความสำคัญกับคนผู้นี้เหมือนอย่างเซี่ยเวย บางทีเงากระบี่นั่นก็อาจจะไม่ฟาดเข้าที่หน้าของนางกระมัง
“เจ้าเป็นใคร”
น้ำเสียงเยียบเย็นและขุ่นเคืองหลุดออกจากปากของปี้เหินที่คุกเข่าอยู่กับพื้น ทำลายความเงียบสงัดในที่นั้น
ใช่แล้ว เจ้าหมอนี่เป็นใคร
พวกอี้เทียนหลินก็ยังใคร่รู้
“คนถูกคุมขังมีสิทธิ์ถามด้วยรึ”
หลินสวินก้มมองนาง น้ำเสียงราบเรียบ
แต่ประโยคเดียวกลับประหนึ่งใบมีดคมกริบเสียบแทงทะลุหัวใจของปี้เหิน ทำให้นางรู้สึกเดือดดาลและอับอายหาใดเปรียบ
ตั้งแต่มาเยือนดินแดนรกร้างโบราณจนถึงวันนี้ นางไม่เคยเห็นผู้ฝึกปราณของดินแดนนี้อยู่ในสายตา ในใจมีความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีที่สูงส่งเหนือผู้อื่น
แต่ตอนนี้นางกลับถูกก้าวเดียวสยบให้คุกเข่า ศักดิ์ศรีถูกเหยียบย่ำ!
และเวลานี้ในใจของพวกอี้เทียนหลินก็มีความรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้ความเย่อหยิ่งและจองหองของปี้เหินทำให้พวกเขากลั้นเพลิงโทสะไว้ทั่วท้อง ตอนนี้ในที่สุดก็ได้ระบายออกมา
“ข้าไม่สนใจจะรังแกหญิงรับใช้อย่างเจ้า กลับไปบอกเจ้านายของเจ้าว่าหากไม่พอใจก็มาหาข้าได้ ข้าจะให้โอกาสเขาท้าประลองข้าครั้งหนึ่ง”
หลินสวินพูดพลางถอนสายตากลับ สองมือไพล่หลัง ก้าวไปทางเชิงเขา
“จำไว้ว่าข้าชื่อหลินสวิน”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เขาก็ลอยจากไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
แต่บนยอดเขากลับเป็นเพราะคำว่า ‘หลินสวิน’ เลยทำให้อึกทึกพลุ่งพล่านอย่างสมบูรณ์
หลินสวิน!
เทพมารหลิน!
สำหรับผู้ฝึกปราณทั่วดินแดนรกร้างโบราณ ชื่อนี้ก็เหมือนตำนานอย่างหนึ่ง เป็นตำนานเทพแห่งยุคบนมกุฎมรรคา
ใครเล่าจะไม่รู้จัก
“เป็นเขา…”
อี้เทียนหลินเหม่อลอย ยามคิดจะรั้งตัวหลินสวินไว้ มีหรือจะเจอเงาร่างของหลินสวินอีก
“ที่แท้เขาก็คือเทพมารหลิน…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์