เผ่าผึ้งมารลายดำ!
นี่เป็นเผ่าที่มีเอกลักษณ์อย่างมากในดินแดนโบราณมารโลหิต มี ‘ตาประกอบลายดำ’ สามสิบหกคู่ สามารถมองทะลุทุกการอำพราง จับกลิ่นอายและร่องรอยที่คนทั่วไปไม่สามารถสังเกตเห็นได้
หากมีพวกเขาช่วยเหลือ อยากจะจับร่องรอยของศัตรูได้ในป่าหลอมจิตที่แปลกประหลาดและกว้างขวางนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ก็อย่างที่เสอเฟิงพูด หากไม่จนหนทาง เหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่างูมารทองคำอย่างพวกเขาย่อมไม่ยินยอมขอความช่วยเหลือจากคนนอก
“และพวกเจ้าต้องระวัง ‘ต้นบรรพชนหลอมจิต’ พวกนี้ด้วย นี่เป็นสัตว์ร้ายที่แม้แต่อริยะยังไม่กล้าแตะต้องง่ายๆ หากไม่ระวังแตะต้องเข้า ต้นไม้นี้จะคาย ‘แสงขุ่นหลอมจิต’ ออกมา ใครที่ถูกมันกวาดโดน เลือดเนื้อจะถูกกัดกร่อน จิตวิญญาณเปลี่ยนเป็นสารอาหาร ถูกต้นไม้นี้กลืนกิน”
สายตาของเสอเฟิงกวาดมองต้นไม้โบราณที่ราวกับหล่อจากสำริดเหลวในบริเวณไม่ไกลนัก เตือนด้วยเสียงจริงจัง
ในใจเหล่าชายหญิงที่อยู่รอบๆ สะท้าน
แน่นอนว่าพวกเขาเคยได้ยินความน่ากลัวของต้นบรรพชนหลอมจิตมาเช่นกัน
“ไป เริ่มเคลื่อนไหว”
เสอเฟิงก้าวนำไปก่อน
ชายหญิงคนอื่นๆ ตามหลังเขา
……
ในส่วนลึกของผืนป่าที่มืดสนิท ด้านบนต้นไม้โบราณต้นหนึ่งซึ่งปกคลุมด้วยกิ่งใหญ่หนาทึบ บดบังท้องฟ้า
หลินสวินนั่งอยู่ในนั้น รอบตัวใช้กระบวนผนึกลายมรรคบดบังกลิ่นอาย
วู้ม!
ดาบหักปรากฏตรงหน้า คมดาบดุจมายาโปร่งแสง พื้นผิวมีลายมรรคคลุมเครือชั้นหนึ่งโคจรอยู่
หลินสวินเปิดขวดหยกมันแพะออกมา พอแหล่งสมบัติหลอมจิตสีทองอร่ามหยดหนึ่งร่วงลงบนดาบหัก ปรากฏการณ์ประหลาดอัศจรรย์อย่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
ดาบหักที่ขาวกระจ่างดุจหิมะเหมือนกระหายอย่างไรอย่างนั้น ดูดซับแหล่งสมบัติหลอมจิตหยดนี้ไป จากนั้นคมดาบพลันเกิดเสียงครวญใสขึ้นมา ราวกับนกกระจอกโห่ร้องด้วยความดีใจ
ดวงตาดำของหลินสวินเป็นประกายขึ้นมาทันที เอียงขวดหยกมันแพะ แหล่งสมบัติหลอมจิตสีทองราวกับไหมเส้นหนึ่งค่อยๆ ตกลงบนดาบหัก
จากนั้นดาบหักส่งเสียงครวญไม่ขาดสาย พื้นผิวปลายดาบที่ราวกับโปร่งแสงนั่น มีลายมรรคคลุมเครือมากมายยิ่งชัดเจนขึ้นกว่าเดิม
‘แหล่งสมบัติหลอมจิตนี่ช่างสมกับที่เป็นสมบัติล้ำค่าที่โลกภายนอกไม่อาจพบเจอ…’
ในใจหลินสวินตื่นเต้น
ดาบหักเป็นศาสตราจิตที่แท้จริงชิ้นหนึ่ง และเป็นศาสตราราชันบริสุทธิ์ของหลินสวิน
หลายปีมานี้ดาบหักผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้ง อานุภาพไม่เหมือนเมื่อก่อนมานานแล้ว
และหลินสวินเองก็เคยได้รับมรดกสองประเภทจากดาบหัก
อย่างแรกคือมรดกอักษร ‘ปฐม’ เป็นวิชาควบคุมดาบหักอย่างหนึ่ง และด้วยมรดกนี้จึงทำให้หลินสวินใช้พลังหลอมจิตควบคุมดาบพลิกฟ้าเล่มนี้
อย่างที่สองคือมรดกอักษร ‘ยอด’ นี่คือวิชากระตุ้นอานุภาพดาบหัก สามารถทำให้พลังของดาบหักปะทุอย่างเต็มกำลัง
แต่หลินสวินรู้ดีว่ามรดกของดาบหักแบ่งเป็นสี่ส่วน จวบบัดนี้เขาเพิ่งจะได้รับพลังมรดกอักษร ‘ปฐม’ กับ ‘ยอด’ สองอย่างด้วยความบังเอิญ
และตอนนี้ ดาบหักเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนอีกครั้ง!
เพียงแต่จนกระทั่งแหล่งสมบัติหลอมจิตขวดหนึ่งถูกดูดกลืนจนหมด นอกจากแสงประกายของดาบหักที่ดูเป็นมายากว่าที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ปรากฏพลังมรดกอย่างที่สามตามที่หลินสวินคาดหวัง
‘ดูเหมือนว่าแหล่งสมบัติหลอมจิตเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำให้ดาบหักเปลี่ยนแปลงได้…’
หลินสวินตกใจ
แหล่งสมบัติหลอมจิตไม่ใช่สิ่งที่เจตวัตถุทั่วไปจะเทียบได้ การครอบครองนั้นขึ้นอยู่กับวาสนา ดุจดังสมบัติล้ำค่าหนึ่งเดียวในโลก
อย่างแหล่งสมบัติหลอมจิตขวดเล็กๆ เมื่อครู่นี้ หากเอาออกไปขายก็สามารถทำให้อริยะแย่งกันจะเป็นจะตายแล้ว!
แต่ดาบหักดูดซับแหล่งสมบัติหลอมจิตไปมากขนาดนั้น กลับยังไม่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ นี่ยิ่งทำให้ดาบหักดูไม่ธรรมดา
ศาสตราจิตชิ้นหนึ่ง ไม่เพียงแค่มีนัยเร้นลับและมรดกที่คลุมเครือมหัศจรรย์มากมาย ถึงขั้นทรัพยากรที่ใช้ในการแปรสภาพยังน่าทึ่งขนาดนี้ นี่น่าตกใจเกินไปแล้ว
หลินสวินเก็บดาบหัก หยิบต่างหูเก็บของที่ชิงมาจากมือเสอเจินออกมา สัมผัสและสำราจคร่าวๆ ก็เจอม้วนหยกที่หล่อหลอมจากเกล็ดทองแผ่นหนึ่ง
ในม้วนหยกบันทึกข่าวเกี่ยวกับแหล่งสมบัติหลอมจิต
และตอนนี้เอง หลินสวินถึงรู้ว่าพวกต้นไม้โบราณที่หล่อเลี้ยงแหล่งสมบัติหลอมจิตออกมา ชื่อว่า ‘ต้นบรรพชนหลอมจิต’
นี่คือต้นไม้วิญญาณฟ้าประทานที่แปลกประหลาดอย่างมากชนิดหนึ่ง แม้ในดินแดนโบราณมารโลหิตก็สูญพันธุ์ไปนานแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มีเพียงในป่าหลอมจิตของสมรภูมิเก้าดินแดนนี้เท่านั้นจึงสามารถหาเจอ
ระบบรากของต้นไม้นี้สามารถให้กำเนิดสมบัติล้ำค่าอย่างแหล่งสมบัติหลอมจิต แต่ในเวลาเดียวกัน ต้นไม้นี้ก็มีพลังน่ากลัวที่มีชื่อว่า ‘แสงขุ่นหลอมจิต’
ตอนที่อ่านถึงท้ายสุดของม้วนหยก หลินสวินพลันตื่นเต้นขึ้นมา หาเจอแล้ว!
ส่วนท้ายสุดของม้วนหยกนี้บันทึกวิธีลับอย่างหนึ่ง เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรวบรวมแหล่งสมบัติหลอมจิตโดยเฉพาะ
หากไม่เข้าใจวิธีนี้ แม้เป็นอริยะไปรวบรวมแหล่งสมบัติหลอมจิต ก็จะถูกโจมตีจากต้นบรรพชนหลอมจิต
‘ถึงว่าตอนที่เสอเจินเข้าใกล้ต้นบรรพชนหลอมจิตจึงระมัดระวังขนาดนั้น…’
หลินสวินเข้าใจทันที
จากนั้นหลินสวินรวบรวมสมาธิ เริ่มอนุมานวิชาลับในม้วนหยกเงียบๆ
เพิ่งจะมาถึงสมรภูมิเก้าดินแดน ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ไม่รู้จัก ตอนนี้ยังมาอยู่ในโลกมารโลหิตซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายทัพดินแดนโบราณมารโลหิตอีก
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินจึงทำได้เพียงเดินไปทีละก้าว
แน่นอนว่าสิ่งที่เร่งด่วนในตอนนี้ คือทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของสมรภูมิเก้าดินแดนให้เร็วที่สุด
หลังจากนั้นก็เริ่มเตรียมพร้อมบรรลุระดับมกุฎอริยะ ตอนที่บรรลุอริยะ หลินสวินจึงเลือกจะมุ่งหน้าไปยัง ‘โลกรกร้างโบราณ’ ที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของสมรภูมิเก้าดินแดน!
ถึงตอนนั้นก็จะรวบรวมชะตามรรคผลงานรบเป็นหลักแล้ว
ส่วนจะสามารถพลิกสถานการณ์ ล้างความอับอายให้ดินแดนรกร้างโบราณ เปลี่ยนแปลงสถานการณ์พ่ายแพ้ในอดีตได้หรือไม่นั้น คิดให้มากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว
สามชั่วยามหลังจากนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์