ปัง!
เล่อมู่จิ้นยืนห่างออกไปสิบกว่าจั้ง พยายามทรงตัวให้มั่นคง พื้นดินถูกสั่นคลอนจนสะท้านไปครู่หนึ่ง ฝุ่นควันอบอวล
เขาสีหน้าคล้ำเขียวระคนซีดขาว ทั้งร่างมีแสงสีแดงอัศจรรย์ถั่งโถม
หลินสวินไม่ได้ไล่โจมตี ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “ที่แท้ก็มีเกราะสมบัติคุ้มกันร่าง มิน่าถึงรับการโจมตีของข้าได้”
“คุณชาย!”
หญิงสาวชุดแดงกระโจนขึ้นมา
“ไสหัวไป!”
เล่อมู่จิ้นตะคอกด้วยสีหน้าอึมครึม
หญิงสาวชุดแดงพลันหยุดเดิน สีหน้าเหยเก แต่สุดท้ายนางก็ถอยกลับไปเงียบๆ
นี่ทำให้หลินสวินออกจะประหลาดใจ เขาดูออกแล้วว่าหญิงสาวชุดแดงผู้นั้นเป็นอริยะแท้คนหนึ่ง พลังต่อสู้แข็งแกร่ง
แต่ตอนนี้กลับถูกเอ็ดเหมือนข้ารับใช้คนหนึ่ง
ชั่วพริบตาหลินสวินก็สันนิษฐานได้ว่าที่มาที่ไปของเล่อมู่จิ้นผู้นี้ไม่ธรรมดา กล้าด่าว่าอริยะแท้คนหนึ่งเช่นนี้ก็ย่อมไม่อาจเป็นคนธรรมดาได้
ตอนนี้สายตาเล่อมู่จิ้นที่มองไปยังหลินสวินประหนึ่งดาบแหลมคม เอ่ยว่า “เมื่อกี้แค่หยั่งเชิง ตอนนี้ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือข้าเอง!”
ตูม!
รอบกายเขามีแสงมรรคสีดำถาโถมออกมาปกคลุม ทำให้ฟ้าดินเหมือนอยู่ในราตรีนิรันดร์ ส่วนเงาร่างของเล่อมู่จิ้นกลับลับหายไปอย่างพิสดาร
ความมืดปกคลุม หลินสวินสังเกตได้อย่างฉับไวว่าแม้แต่จิตรับรู้ยังคล้ายได้รับผลกระทบ รับรู้ได้เพียงความมืดมิด
ไม่ต้องสงสัย สิ่งที่เล่อมู่จิ้นสำแดงเป็นมรดกน่าหวาดหวั่นวิชาหนึ่ง!
ซ่า!
ท่ามกลางความมืดมิด มือใหญ่มือหนึ่งตบมาข้างหน้า พาไอหนาวเสียดกระดูกมาด้วย ดุจดั่งมือทมิฬ พลานุภาพน่าหวาดหวั่น
หลินสวินรวบนิ้วมือวาดออกไป
พลังดรรชนีพร่างพราวบดขยี้ความมืดมิดเหมือนตบภูผาคว่ำสมุทร ก็ในตอนนี้เองที่หลินสวินมองเห็นมือใหญ่มือหนึ่ง
“ไสหัวกลับไป!”
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อ กระแทกใส่มือใหญ่ข้างนั้น
เสียงดังลั่นประหนึ่งอสนีบาตสะท้านฟ้าสะเทือนดิน บริเวณใกล้เคียงหุบเหวโกรกธารนี้เกิดการปะทะน่ากลัวขึ้น
ตึงๆๆ!
เงาร่างเล่อมู่จิ้นถอยหลังโซเซ ถูกตีพ่ายอีกครั้ง เขาสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ รู้สึกว่าแขนขวาชากระตุกไปพักหนึ่ง
เขาเชื่อมั่นในพลังต่อสู้ของตนเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เล็กก็ได้รับมรดกหลอมกายสูงสุด พลังกายแกร่งกล้าจนน่าเหลือเชื่อมานานแล้ว
เขาเป็นผู้กล้าแห่งเผ่าเหยี่ยวมารเหิน ในหมู่ผู้มีระดับเดียวกัน พลังปราณของเขาเรียกได้ว่าล้ำเลิศ น้อยคนนักจะทัดเทียมได้
แต่กลับถูกตีพ่ายในการจู่โจมสองครั้งอย่างต่อเนื่อง!
เล่อมู่จิ้นไม่กล้าเชื่ออยู่บ้างจริงๆ ไม่ใช่ว่าดินแดนรกร้างโบราณตกต่ำไปนานแล้วหรือ มีบุคคลร้ายกาจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ส่วนไกลออกไปพวกติงซานเหอต่างตกตะลึงจนตาเบิกกว้าง ในการเผชิญหน้าของบุคคลขอบเขตมกุฎ ถึงกับเห็นได้ชัดว่าเล่อมู่จิ้นสู้ไม่ได้อยู่บ้าง เรื่องนี้สะท้านใจคนเกินไป
“หากข้าเป็นแพะสองขา แล้วเจ้า… จะนับเป็นตัวอะไร”
ไกลออกไปหลินสวินเอ่ยปาก แม้วาจาราบเรียบ แต่กลับเหมือนคำเยาะเย้ยที่แหลมคมที่สุด ทำให้เล่อมู่จิ้นสีหน้ามืดทะมึนยิ่งขึ้น
หลินสวินหยุดไปครู่ ดวงตาดำเย็นเยียบ ไม่ปิดบังไอสังหารของตนสักนิด “หากไม่ใช่ว่าไอ้แก่พวกนั้นอยู่ข้างๆ เจ้าคิดว่าตอนนี้เจ้าจะยังยืนอยู่ได้หรือ”
เล่อมู่จิ้นสีหน้าอึมครึมถึงที่สุดแล้ว
“เจ้าตายแน่!”
ฉับพลันหญิงสาวชุดแดงก็ลงมือแล้ว เคลื่อนไหวชั่วพริบตาเพียงครั้งเดียวก็มาปรากฏตัวตรงหน้าหลินสวิน มือเรียวบางขาวกระจ่างยกขึ้นกวาดไปที่คอหอยของหลินสวิน
ตูม!
ในขณะเดียวกันพลานุภาพระดับอริยะอันน่ากลัวกดข่มลงมาดุจปกฟ้าคลุมดิน ทำให้ท้องฟ้าบริเวณใกล้เคียงต่างยุบตัว
แต่การโจมตีอันโหดเหี้ยมว่องไวหาใดเทียบนี้กลับไร้ผล
เงาร่างของหลินสวินปรากฏตัวข้างหุบเหวโกรกธารแห่งนั้น เบื้องหลังมีปีกผลาญเทพกะพริบไหว แสงมรรคอัศจรรย์ไหลเวียนออกมา
“ยังอดลงมือไม่ได้หรือ น่าผิดหวัง ข้ายังนึกว่าเผ่าเหยี่ยวมารเหินอะไรนี่จะมีพวกร้ายกาจเยี่ยมยุทธ์คนหนึ่ง แต่ที่แท้… ก็ไม่เท่าไร”
หลินสวินสีหน้าเย็นชา
ก่อนหน้านี้สาเหตุที่เขาทิ้งโอกาสฆ่าเล่อมู่จิ้นระหว่างต่อสู้ ก็เป็นเพราะระวังอริยะพวกนั้นอยู่
หาไม่แล้วอย่างเล่อมู่จิ้นคนเดียวย่อมไม่คณามือสักนิด!
“เจ้ารนหาที่ตาย!”
เล่อมู่จิ้นเดือดดาลถึงที่สุด เก็บกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว เงาร่างโฉบพุ่งออกมาดั่งสายฟ้าฝาด
“คุณชาย ให้ข้าจัดการเถอะ”
หญิงสาวชุดแดงว่องไวกว่าเล่อมู่จิ้นอย่างเห็นได้ชัด เคลื่อนไหวชั่วพริบตาครั้งเดียวก็โจมตีไปยังหลินสวินแล้ว
ต่ำกว่าระดับอริยะ ล้วนเหมือนมดปลวก!
หลินสวินอาจเยี่ยมยอดถึงที่สุดในมกุฎมรรคาอมตะเคราะห์ แต่หญิงสาวชุดแดงมีความเชื่อมั่นอย่างสิ้นเชิงว่าสามารถสังหารอีกฝ่ายได้
ไกลออกไปพวกติงซานเหอกระจายตัวออก ผนึกบริเวณนี้ไว้อย่างแน่นหนา สำหรับพวกเขาแล้วการต่อสู้ที่ไม่น่ากังวลสักนิดนี้ถึงเวลาที่ควรสิ้นสุดลงแล้ว!
สวบ!
แต่เหนือความคาดหมายของทุกคน ขณะนี้ร่างหลินสวินพริบไหว โฉบพุ่งเข้าไปในหุบเหวโกรกธารมหึมานั้น
เงาร่างของหญิงสาวชุดแดงที่กำลังไล่โจมตีหยุดลงกะทันหัน ทั้งยังขวางเล่อมู่จิ้นที่จะไล่โจมตีต่อไว้ด้วย
“คุณชาย หยุดเจ้าค่ะ!” นางสีหน้าเคร่งเครียด
อริยะคนอื่นก็พุ่งเข้ามา ทอดสายตามองไปยังหุบเหวโกรกธารแห่งนั้น แต่ละคนสีหน้าเคร่งเครียด ร่างกายหนาวยะเยือก
หุบเหวแห่งนี้คล้ายสุดหยั่ง กลิ่นอายที่ตลบอบอวลออกมายิ่งทำให้พวกเขารู้สึกหวาดหวั่นเหมือนตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง
“ตามไปไม่ได้จริงๆ เด็กนี่เข้าไปในนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตาย”
ติงซานเหอเอ่ย หว่างคิ้วของเขาถึงกับมีแววตื่นกลัวปรากฏขึ้นรางๆ หากไม่ติดที่ต้องรักษาหน้าก็คงหันหลังกลับไปทันทีนานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์