Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1507

หลินสวินตกตะลึงจนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว

ใครจะคาดคิดได้ว่าก้นบึ้งของหุบเหวแห่งนี้จะมีสิ่งที่น่ากลัวพรรค์นี้อยู่

‘มิน่าในข่าวลือถึงบอกว่าหลังจากอริยะบางส่วนเข้ามาในส่วนลึกของป่าหลอมจิตแล้วก็ไม่มีข่าวคราวโดยสิ้นเชิง เกรงว่าคงประสบเคราะห์ที่นี่กันหมดแล้ว…’

ยามหลินสวินครุ่นคิด ผีเสื้อมารแยกฟ้ากระพือปีก แสงเพริศแพร้วสายแล้วสายเล่าไหลเวียนออกมา

ปรากฏภาพน่าตะลึงภาพหนึ่ง

รอยแยกห้วงอากาศที่เกี่ยวกระหวัดหนาแน่นนั้น กลับหลีกทางออกเป็นทางสายหนึ่งตัดผ่านวังใต้ดินที่อยู่เบื้องล่างเหมือนกระแสน้ำ!

ฟึ่บ!

ผีเสื้อมารแยกฟ้าโผบินว่องไว เคลื่อนตัวพุ่งไป

หลินสวินตามติดอยู่ด้านหลังมัน

เขาสวม ‘อาภรณ์สวรรค์ปีกดารา’ ไว้ มันเป็นของกำนัลที่ได้มาจากเผ่าทอเมฆา สมบัติสูงสุดที่มหัศจรรย์หาใดเทียบชิ้นหนึ่ง มีประโยชน์อัศจรรย์สามารถท่องไปในความว่างเปล่า เพิกเฉยต่ออุปสรรคเรื่องพลังห้วงอากาศ

แต่สมบัตินี้กลับไม่อาจต้านพลังกลืนกินของรอยแยกห้วงอากาศได้

ดังนั้นหลินสวินจึงทำได้เพียงตามผีเสื้อมารแยกฟ้าไปติดๆ

วังใต้ดินมีอาคารรวมตัวกัน ต่างผุพังถึงที่สุด ก็ไม่รู้ว่าทิ้งไว้ถึงตอนนี้ตั้งแต่เมื่อไร กลิ่นอายเก่าแก่กร้านโลกกระจายออกมา

สวบ!

ทันทีที่มาถึงที่นี่ ผีเสื้อมารแยกฟ้าเหมือนอดกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว พอตีปีกไหววูบก็โฉบพุ่งไปยังส่วนลึกของวังใต้ดินนั้นอย่างรวดเร็ว

เร็วจนหลินสวินยังตอบสนองไม่ทัน

หลินสวินหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง ผ่อนฝีเท้าลงและกวาดมองโดยรอบ ไม่นานสายตาก็จับจ้องไปที่ป้ายหินด้านหน้าตำหนักหลังหนึ่ง

ป้ายหินปักเฉียง ตะไคร่เขียวเป็นด่าง ด้านบนสลักอักษรมรรคโบราณไว้แถวหนึ่งว่า…

‘วังฝังสวรรค์!’

หลินสวินดวงตาหดเกร็ง

ฝังสวรรค์หรือ

ชื่ออหังการนัก!

ที่นี่เป็นถึงส่วนลึกของป่าหลอมจิตอันพิสดารในสมรภูมิเก้าดินแดน แต่กลับมีหมู่อาคารใต้ดินตั้งอยู่ก้นหุบเหวเช่นนี้ได้ เดิมทีก็น่าเหลือเชื่ออยู่แล้ว

ใครจะคิดว่าชื่อของอาคารใต้ดินนี้จะยังสะท้านโลกเช่นนี้อีก!

หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากแน่ใจว่าบริเวณนี้ไม่มีอันตรายแล้วก็ก้าวเข้าไปในตำหนัก

เหนือความคาดหมาย ภายในตำหนักกลับเป็นฟ้าดินกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นอีกจักรวาลหนึ่ง

ก็เห็นว่าศาลาพลับพลา บึงน้ำต้นไม้น้อย อาคารหลังแล้วหลังเล่าเรียงรายแน่นขนัด

ไม่ไกลนักยังมีต้นไม้โบราณเขียวขจีต้นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น ราวกับสลักขึ้นจากหยกเขียวมรกต ลำต้นเก่าแก่แข็งแรง กิ่งก้านอุดมสมบูรณ์เขียวเปล่งปลั่ง เต็มไปด้วยพลังชีวิตอันมีชีวิตชีวา

หืม?

ทันทีที่หลินสวินเข้าไปก็สังเกตเห็นว่าที่นี่น่าจะเป็นโลกลี้ลับแห่งหนึ่ง ต่างจากเศษซากผุพังเก่าแก่ที่เห็นข้างนอกก่อนหน้านี้ไปไกล

ที่นี่เงียบสงบ เรือนตำหนักเรียงกันเป็นชั้นๆ อาคารโบราณต่างๆ แอบอยู่ระหว่างไผ่เขียวและต้นไม้ชอุ่ม ทิวทัศน์ไม่ถึงกับงดงามมากนัก แต่กลับให้ความรู้สึกสงบสันโดษ

ดูท่าที่นี่เหมือนสถานที่ปลีกวิเวกเสียมากกว่า เห็นได้ชัดว่าเคยมีคนพำนักฝึกตนที่นี่

ก่อนจะมาสมรภูมิเก้าดินแดน หลินสวินก็รู้แล้วว่าในสมรภูมิอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ยังมีโลกลี้ลับมากมาย กระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ เหมือนฟองอากาศ

โลกลี้ลับบางแห่งไอสังหารแน่นขนัด เป็นแดนมรณะ ไปแล้วไม่หวนกลับ

บ้างเป็นแดนวาสนา มีศุภโชคสะท้านโลกอยู่!

‘ก็ไม่รู้ว่าที่นี่จะเป็นแดนมรณะมหาเคราะห์ หรือเป็นที่อยู่ของมหาวาสนาแล้ว…’

หลินสวินพินิจพิเคราะห์ครู่หนึ่งแล้วเดินหน้าไปตามทางเดินหินเส้นน้อยเส้นหนึ่ง

ตามทางอาคารแต่ละหลังต่างมีชื่อ

เรือนสังหารจิต

หอยอดมรรค

หอแรกกำราบ

สถานทลายกฎ

ศาลาแสวงสัจ

……

ชื่อของอาคารแต่ละชื่อต่างเผยให้เห็นนัยเร้นลับแบบหนึ่ง หลินสวินเข้าไปข้างในอย่างต่อเนื่อง กลับพบว่าว่างเปล่าไม่มีความเร้นลับอะไร ศุภโชคยิ่งไม่ต้องพูดถึง

นี่ทำให้หลินสวินนิ่วหน้า หรือในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนก่อนหน้านี้มีคนเคยเข้ามาที่นี่ หนำซ้ำยังเอาวาสนาที่อยู่ข้างในไปนานแล้ว

เดินหน้าพลางเสาะหาไปเช่นนี้กลับยังไม่ได้อะไรดังเดิม

ซ่า!

ไกลออกไปมีลำธารใสกระจ่างสายหนึ่งปรากฏขึ้น ลำธารไหลผ่านระหว่างอาคารโบราณดั่งเข็มขัดหยก ส่งเสียงน้ำไหลโกรกกราก

หลินสวินกำลังจะก้าวข้ามลำธาร กลับหยุดลงทันที

น้ำลำธารใสดั่งกระจก ฉายเงาร่างหนึ่งออกมา อยู่ตรงข้ามกับหลินสวินพอดี ดูแล้วเห็นได้ชัดว่าเป็นเงากลับด้านของเขา

แต่ในตอนนี้เงานี้กลับเคลื่อนตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พากระแสน้ำเต็มฟ้าขึ้นมา ภาพและเสียงชวนตะลึง!

ตูม!

อีกทั้งทันทีที่เงาปรากฏขึ้นก็ตบใส่หลินสวิน แสงมรรคไหลเวียน พลังฝ่ามือราวกระแสธาร คล้ายคลื่นใหญ่กระทบฝั่ง

หลินสวินโต้กลับอย่างไม่ลังเล กดฝ่ามือหนึ่งออกไปเช่นกัน

ท่ามกลางเสียงปะทะสะเทือนเลื่อนลั่นจนหูแทบดับ เงานั้นพลันระเบิดแหลกกลายเป็นกระแสน้ำนับไม่ถ้วน กระแสน้ำแต่ละสายเปลี่ยนเป็นเงาหนึ่งเงาอย่างรวดเร็วอีก

ไม่นานนักเงานับไม่ถ้วนก็ยืนตระหง่านในบริเวณใกล้เคียง แต่ละเงาล้วนเหมือนกับหลินสวินไม่มีผิด

หลินสวินดวงตาหดรัดทันที

ไม่ทันให้เขาได้สติ เงาทุกสายจากทั่วสารทิศก็กระโจนมาอย่างแน่นขนัดมืดฟ้ามัวดิน

ที่ทำให้หลินสวินยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บในใจคือ

เงาเหล่านี้ไม่เพียงมีรูปลักษณ์เหมือนกับตน พลังมหามรรคและวิชายุทธ์ที่สำแดงออกมาก็เหมือนตนอย่างกับออกมาจากพิมพ์เดียวกัน

โครม!

บ้างสำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ พลังหมัดดั่งคลั่งโกรธ อหังการแกร่งกล้า พลังเทียมเทพ

บ้างสำแดงมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร เจินหลงร้องคำรามรอบกาย แปรสภาพเป็นสัญลักษณ์อักษร ‘เคราะห์’ ตัวแล้วตัวเล่า กำราบห้วงอากาศโดยรอบ

บ้างก็เผยหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า

บ้างก็สำแดงคัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน

บ้างก็…

มรดกวิถียุทธ์ทุกชนิดล้วนมีกลิ่นอายกฎเกณฑ์มหามรรคประทับไว้ อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาก็ไม่ต่างอะไรกับที่หลินสวินสำแดงเอง

ชั่วพริบตานั้น หลินสวินรู้สึกเหมือนประมือกับตัวเองนับร้อยนับพันคน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์