เคร้ง!
เสียงปะทะสะท้านฟ้าดินดังขึ้น แสงเทพระเบิดปะทุ
การฟันนี้ของหลินสวินถูกทวนศึกยาวหนึ่งจั้งสองฉื่อสีเขียวเล่มหนึ่งรับไว้
เจ้าของทวนศึกคือบุรุษใบหน้ายาวซูบตอบ ผมเผ้าเคราหนวดสีดอกเลาคนหนึ่ง เป็นอริยะผู้หนึ่งเช่นกัน
หญิงสาวชุดแดงตายไปแล้ว ตายด้วยเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
ในสถานการณ์เช่นนี้หากปล่อยให้เล่อมู่จิ้นเกิดเรื่องไม่คาดฝันอีก อริยะอย่างพวกเขาจะปาดคอตัวเองฆ่าตัวตายก็ไม่สำคัญแล้ว
บุรุษผมสีดอกเลาคนนี้ก็คิดเช่นนี้
เขามีนามว่าจี้ชิ่ง มาจากดินแดนโบราณมารโลหิต เป็นบรรณาการของเผ่างูมารทองคำเช่นเดียวกับติงซานเหอ
ทว่าแม้รับการโจมตีนี้ได้ จี้ชิ่งกลับหน้าเปลี่ยนสีในทันใด ร่างกายสั่นโคลง เลือดลมในร่างปั่นป่วน
ในที่สุดเขาถึงกับกระอักเลือดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
เพียงการโจมตีเดียวทำให้อริยะแท้ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บ!
นี่ก็คืออานุภาพของมรดกอักษรสังหาร
หากเป็นก่อนหน้านี้ ต่อให้หลินสวินโคจรพลังทั้งหมดก็ทำได้เพียงอาศัยอภินิหารหยุดเวลา ถึงจะมีความเป็นไปได้ครึ่งหนึ่งในการฆ่าอริยะแท้ให้ได้สักคน
แต่ตอนนี้เขาฆ่าหญิงสาวชุดแดงด้วยศรเดียวก่อน จากนั้นก็ทำให้จี้ชิ่งบาดเจ็บด้วยกระบวนเฉือนเดียว อริยะสองคน ตายหนึ่งบาดเจ็บหนึ่ง!
หากผลงานการต่อสู้เช่นนี้กระจายออกไป สามารถก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ สะเทือนไปทั้งใต้หล้า
ต่อให้เป็นจี้ชิ่งก็คิดไม่ถึง ว่าชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุอริยะคนหนึ่งจะถึงกับทำให้ตนได้รับบาดเจ็บในการประลองซึ่งหน้าได้
นี่ช่างเหนือจริงราวกับความฝัน!
ควรรู้ว่าผู้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับอริยะล้วนเป็นดั่งมดปลวก ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันจะหา ‘มดปลวก’ ที่สามารถเย้ยฟ้า ข้ามระดับมาต่อกรกับอริยะได้สักกี่คน
แต่ตอนนี้ อริยะจี้ชิ่งได้รับบาดเจ็บแล้ว!
……
ในเวลาเดียวกันกับที่จี้ชิ่งได้รับบาดเจ็บ ติงซานเหอได้ออกเคลื่อนไหวไปก่อนแล้ว พอสะบัดแขนเสื้อ กฎเกณฑ์อริยมรรคเต็มฟ้ากลายเป็นรุ้งเทพปราณดาบแน่นขนัดม้วนตลบฟ้ากว้าง ฟันไปยังหลินสวิน
สวบ!
แต่หลินสวินชิงเคลื่อนตัวลงไปใต้หุบเหวก่อนแล้ว
สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทันทีที่การจู่โจมของติงซานเหอไปถึงในหุบเหว ก็ถูกพลังกฎเกณฑ์อันพิสดารกักไว้ จากนั้นสลายออกเหมือนฟองอากาศ หายลับไปในความว่างเปล่า
ติงซานเหอสีหน้าอึมครึม สะกดความต้องการอยากตามฆ่าเอาไว้ ไม่ได้ไล่ตามไป พลังพิสดารที่เต็มเปี่ยมอยู่ในหุบเหวนั้นน่ากลัวเกินไป ทำให้เขาไม่กล้าก้าวข้าม
แต่ทันทีที่คิดว่ามดตัวหนึ่งหลุดมือตนไปอีกครั้ง ก็ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดทะมึนหาใดเทียบแล้ว
“เหตุใดถึงไม่ตามไป! เจ้าเป็นถึงอริยะ แต่ขนาดสวะตัวจ้อยแบบนี้ยังไม่กล้าตามไปหรือ”
ใกล้กันนั้นเสียงคำรามของเล่อมู่จิ้นดังมา
ตอนนี้เขาดวงตาแดงก่ำไปหมด สีหน้าเหี้ยมเกรียมเขียวคล้ำ บันดาลโทสะเหมือนบ้าคลั่ง
หญิงสาวชุดแดงเป็นหญิงรับใช้ข้างกายเขา ปรนนิบัติข้างกายเขามาตั้งแต่ยังเยาว์ แต่ตอนนี้กลับตายเพราะเขา เรื่องนี้จะไม่ทำให้เขาโกรธได้อย่างไร
ติงซานเหอถูกด่าจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาได้ ออกจะเสียหน้าอยู่บ้าง หัวเราะหยันเอ่ยว่า “ขอคุณชายคลายโกรธ หญิงรับใช้ของท่านเป็นอริยะเช่นเดียวกับข้า ไม่ใช่ว่าตายเหมือนกันหรือ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ พูดอีกครั้งซิ”
เล่อมู่จิ้นสีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว
ติงซานเหอสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วพูดว่า “คุณชายเล่อ ท่านดูจี้ชิ่งอีกทีสิ สวะตัวจ้อยในสายตาท่านใช้พลังในการโจมตีเดียวก็ทำให้จี้ชิ่งบาดเจ็บแล้ว”
เล่อมู่จิ้นตะลึงงัน สายตามองไปยังจี้ชิ่งที่อยู่ไม่ไกล
เขาจำได้อย่างแจ่มชัดว่าเมื่อกี้เป็นจี้ชิ่งที่ช่วยเขารับการโจมตีไว้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอริยะอย่างจี้ชิ่งจะถึงกับได้รับบาดเจ็บ!
จี้ชิ่งสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ถูกคนรุ่นเยาว์คนหนึ่งโจมตีบาดเจ็บ ทำให้เขาก็รู้สึกอดสู ใบหน้าชราหม่นหมอง
แต่ยามเผชิญหน้ากับสายตาของเล่อมู่จิ้น เขาก็ยังพยักหน้าเอ่ยว่า “พลังของเจ้าเด็กนั่นแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อไปบ้างจริงๆ”
เล่อมู่จิ้นสีหน้าเหยเก พลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ฝืนตัวสงบใจลง
พอนึกถึงแต่ละภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างละเอียด ตัวเขาก็หนาวเหน็บขึ้นครู่หนึ่ง มือเท้าเย็นเฉียบ
น่ากลัวไปแล้วจริงๆ!
ถ้าไม่ได้หงหลิงช่วยเขารับลูกศรไว้ คนที่ตายก็ต้องเป็นตน
ถ้าไม่ได้จี้ชิ่ง เกรงว่าตนก็คงรับการโจมตีนั้นไม่ได้…
“เขา… แข็งแกร่งปานนี้ได้อย่างไร”
เล่อมู่จิ้นสีหน้าเหม่อลอย ใบหน้าไม่น่าดูหาใดเทียบ
อริยะสี่คนอย่างพวกติงซานเหอ จี้ชิ่งก็สีหน้าอึมครึม คำถามข้อนี้ก็ทำให้พวกเขาคิดไม่ออก อกสั่นขวัญแขวนเช่นกัน
มดตัวหนึ่งกลับมีพลังสังหารอริยะ เรื่องนี้เป็นที่ตื่นตะลึงในโลกอย่างยิ่งอยู่แล้ว หากกระจายออกไปถึงกับไม่มีใครกล้าเชื่อ!
“ที่ทำให้ข้าไม่เข้าใจที่สุดก็คือ ตกลงไปในหุบเหวพิสดารสุดหยั่งนั่น ทำไมเจ้าสวะตัวจ้อยนั่นยังรอดมาได้”
ติงซานเหอนิ่วหน้า
ประโยคเดียวทำให้คนอื่นก็ฉงนใจจนไม่อาจสงบ
หลินสวินกลับสามารถเคลื่อนไหวในนั้นได้อย่างอิสระ ไม่บาดเจ็บแม้สักนิด เรื่องนี้ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจอย่างยิ่ง
“คุณชายเล่อ พวกเราจะยังอยู่ที่นี่ไหม”
จี้ชิ่งเอ่ยถาม
ประโยคเดียวทำให้สายตาของอริยะทั้งสี่ ณ ที่นั้นต่างมองไปที่เล่อมู่จิ้น
“เขายังมีชีวิตอยู่!”
เล่อมู่จิ้นกัดฟัน “ไม่ฆ่าเขาแล้วจะไปได้อย่างไร”
เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วพูดว่า “ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกี้เขาลอบโจมตี เล่นงานพวกเราทีเผลอ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ขอเพียงเขากล้าโผล่หัวขึ้นมาอีก ต้องตายอย่างไม่สงสัย!”
พวกติงซานเหอสบตากัน ในใจรู้ดีว่าการตายของหญิงสาวชุดแดงสร้างความสะเทือนใจให้เล่อมู่จิ้นโดยสมบูรณ์ ตอนนี้เกรงว่าใครมาก็คงกล่อมให้เขาจากไปไม่ได้
“คุณชายเล่อ นี่เป็นพวกแพะสองขาที่จับมาใหม่ มีทั้งสิ้นสิบหกคน หนำซ้ำข้าได้สั่งการลงไปแล้ว ผู้แข็งแกร่งจากเผ่าต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ในป่าหลอมจิตต่างเสาะหาแพะสองขาจากดินแดนรกร้างโบราณอย่างเต็มกำลัง ขอเพียงจับได้ก็จะมอบให้ท่าน”
ไกลออกไปเฟิงผิงจื่อจากเผ่าผึ้งมารลายดำเดินมา พอสะบัดแขนเสื้อเสียงหล่นลงพื้นดังตุ้บๆ ก็ดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์