Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1518

สรุปบท ตอนที่ 1518 เปิดฉากคลื่นลม: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1518 เปิดฉากคลื่นลม จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1518 เปิดฉากคลื่นลม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เพียงพริบตาก็ไม่อยู่ในสายตา หายตัวไปในชั่วดีดนิ้ว

แต่ก็ด้วยพริบตานี้ที่ทำให้เทพธิดารั่วอู่ได้ฉวยโอกาสเคลื่อนผ่านช่องว่าง หนีจากสภาพสิ้นหวังมาได้

นี่ทำให้สีหน้าของพวกเล่อเซวี่ยซิวอึมครึมลงในชั่วขณะเดียว

เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

พวกเขาแปลกใจสงสัย รู้สึกยากเข้าใจ

ถึงอย่างไรก็เป็นปริศนาชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เวลา ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิก็ยากจะมีพลังสัมผัสได้ นับประสาอะไรกับเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเขา

“ตาม!”

เล่อเซวี่ยซิวกัดฟันกรอด ดวงตาแดงก่ำมองไปยังป่าหลอมจิตที่อยู่ห่างออกไป

ที่นั่นทิ้งกลิ่นอายของเทพธิดารั่วอู่ที่เคลื่อนผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าไว้ ปิดบังพวกเขาไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

“รอจับตัวได้เมื่อไหร่ ข้าจะทรมานเจ้าให้ตาย!”

ชายหน้าตาห้าวหาญ ทั่วร่างปกคลุมด้วยพายุสายฟ้าสีน้ำเงินชวนประหวั่นคนหนึ่งกล่าวรุนแรง

ตอนอยู่ที่หุบเขาลมน้ำแข็งพวกเขาก็ล้อมกรอบเทพธิดารั่วอู่ ตามฆ่ามาตลอดทางจนถึงตอนนี้ ข้ามผ่านหนทางไกลมาแล้วหลายหมื่นลี้

ไม่ง่ายเลยกว่าจะบีบอีกฝ่ายให้อยู่ในสภาพสิ้นหวังที่นี่ได้ แต่ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน!

นี่จะไม่ให้พวกเขาเคียดแค้นได้อย่างไร

“ตาม!”

อริยะเจ็ดคนที่นำโดยเล่อเซวี่ยซิวเคลื่อนผ่านห้วงอากาศตามไป

“พี่หลิน ครั้งนี้ขอบคุณเจ้ามาก”

ใบหน้างามของเทพธิดารั่วอู่ซีดเผือด หว่างคิ้วเจือความซาบซึ้งใจ ขณะกล่าวมุมปากของนางยังมีคราบเลือดหลั่งออกมาเป็นสายๆ

เห็นชัดว่าอาการบาดเจ็บที่นางได้รับสาหัสกว่าที่เห็นภายนอกนัก

“อย่าเพิ่งพูดเลย รอเข้าไปในเหวลึกนั่นพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว”

หลินสวินกล่าวรวดเร็ว

ยามนี้เขากำลังถูกรั่วอู่พาเคลื่อนผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าไป

“ได้!”

เทพธิดารั่วอู่รับคำอย่างยินดี

“กลิ่นอายน่ากลัวยิ่งนัก!”

“นั่นเหมือนว่าจะเป็น… ใต้เท้าเล่อเซวี่ยซิวหรือ”

“สวรรค์ มกุฎอริยะตั้งเจ็ดคน!”

“ฮ่าๆๆ กองหนุนของพวกเรามาแล้ว เจ้าแพะสองขาที่ชื่อหลินสวินนั่นต้องตายแน่!”

ในป่าหลอมจิต ผู้แข็งแกร่งมากมายที่กำลังแตกตื่นลุกลี้ลุกลนต่างสังเกตเห็นเงาร่างของพวกเล่อเซวี่ยซิววาบผ่านไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งหมดเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่ ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ทันที

ก่อนหน้านี้หลินสวินมุ่งหน้าซัดกวาดสังหารตลอดทาง มีผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ถูกฆ่า นอนจมอยู่ในแอ่งโลหิต

นี่ทำให้คนมากมายแทบจะพังทลาย คิดไม่ถึงว่าบุคคลขอบเขตมกุฎที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง ทำไมถึงน่ากลัวเช่นนี้ได้

แต่ตอนนี้เมื่อมกุฎอริยะเจ็ดคนอย่างพวกเล่อเซวี่ยซิวปรากฏตัว พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวแล้ว!

“หืม? หลินสวิน? นี่มันเรื่องอะไรกัน”

พวกเล่อเซวี่ยซิวก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายตลอดทาง ล้วนอดสงสัยไม่ได้

ต้องรู้ว่าพวกเขามาคราวนี้ไม่ได้มาฆ่าหลินสวิน หากแต่กำลังไล่ล่าเทพธิดารั่วอู่อยู่

แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องเร่งด่วนคือตามล่าเป้าหมาย!

ในฐานะที่เป็นมกุฎอริยะ พวกเขาต่างรู้ดีว่าหากให้เทพธิดารั่วอู่รอดไปได้ ฝั่งดินแดนรกร้างโบราณก็จะมีคนที่เหมือนเสาหลักเพิ่มขึ้นมาอีกคน!

ลูกหลานของเผ่าวิหคชาดคนหนึ่ง หญิงสาวที่ก้าวสู่หนทางมกุฎอริยะคนหนึ่ง กลับสามารถต่อสู้หนึ่งต่อเจ็ด ยืนหยัดอยู่ใต้การตามล่าของพวกเขามาได้ถึงตอนนี้ เดิมทีก็สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนางแล้ว

สวบ!

ไม่ทันไรเมื่อมาใกล้หุบเหวลึกนั่น พวกเล่อเซวี่ยซิวต่างก็ผงะในใจวูบหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

กลิ่นอายอันตรายแปลกประหลาดกำลังแผ่ออกมาจากเหวลึก ทำเอาเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเขายังรู้สึกขนพองสยองเกล้า

“ผู้หญิงคนนั้นหนีเข้าไปในเหวลึกนี่แล้ว”

ชายชุดเขียวคนหนึ่งมุ่นคิ้วกล่าว เขาก้าวเข้าไปใกล้เหวลึก แผ่จิตรับรู้เข้าไปสำรวจใต้หุบเหว

ตูม!

พลังคลื่นกฎเกณฑ์ประหลาดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากส่วนลึกของหุบเหวทันที จิตรับรู้ของชายชุดเขียวถูกจู่โจมทันใด คำรามเสียงอึดอัดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ หนีห่างออกไปทันที

เพียงแต่สีหน้าเขากลับเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา “หุบเหวลึกนี้มีอะไรไม่เข้าที กลิ่นอายที่อัดแน่นอยู่ในนั้นสามารถกักขังพวกเราได้”

พวกเล่อเซวี่ยซิวตกตะลึง แววตาวาววาบ

“พวกเจ้าดู ที่นี่เคยเกิดการเข่นฆ่านองเลือดมาก่อน เอ๋ นี่คือติงซานเหอบรรณาการของเผ่างูมารทองคำนั่นไม่ใช่หรือ เขาตายแล้วรึ!?”

หญิงชราหน้าเด็กผมสีขนนกกระเรียน สวมชุดคลุมโลหิตคนหนึ่งกล่าวตกใจ จำร่างไร้วิญญาณหนึ่งที่นอนอยู่ในแอ่งโลหิตใกล้ๆ ได้

“พวกจี้ชิ่งเองก็ตายหมดแล้ว ทั้งยังตายไปเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ไม่มีทางถูกผู้หญิงเผ่าวิหคชาดนั่นฆ่าตายแน่”

อีกคนหนึ่งกล่าววิเคราะห์

“พวกเจ้าว่ามีคนช่วยรั่วอู่ แล้วพานางเข้าไปในเหวลึกนี้หรือไม่”

มีคนกล่าวเสียงต่ำ

ฟุ่บ!

เล่อเซวี่ยซิวลงมือทันที พุ่งไปกลางอากาศแล้วจับตัวชายชุดดำร่างผอมบางคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปมาสอบถาม “เล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่นี่มา”

ชายชุดดำร่างผอมบางมาจากเผ่าผึ้งมารลายดำ ได้ยินดังนั้นก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินออกมาทีละเรื่องจนหมดเปลือก

ชั่วขณะหนึ่งมกุฎอริยะทุกคนในที่นั้นต่างอึ้งงัน

คิดไม่ถึงว่าแค่บุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง จะก่อเรื่องนองเลือดมากเช่นนี้ได้ในชั่วขณะเดียว

หลินสวินนี่เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่

ในดินแดนรกร้างโบราณมีบุคคลร้ายกาจราวพลิกฟ้าคนหนึ่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ไม่นานข่าวพวกนี้ก็แพร่ไปในเมืองอารักษ์มรรคของค่ายทัพใหญ่ดินแดนโบราณมารโลหิต ก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลตามมา

ทั้งหลินสวินและรั่วอู่ ได้เข้าไปอยู่ในสายตาของผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าของดินแดนโบราณมารโลหิตทุกคนอย่างสมบูรณ์

วันนั้นแม้แต่เซวี่ยชิงอีที่ปิดด่านก็ถูกทำให้ตกใจ เงียบไปครู่ใหญ่จึงออกคำสั่งหนึ่งลงมา

“ไปบอกพวกผู้อาวุโสเล่อเซวี่ยซิว ว่าสองคนนี้จะต้องตาย หากพวกเขาต้องการ ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของดินแดนโบราณมารโลหิตเราจะร่วมมือกับพวกเขา!”

วันนั้นข่าวนี้ก็แพร่ออกไป

สำหรับผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าของดินแดนโบราณมารโลหิต เรื่องที่หลินสวินและรั่วอู่ทำช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ ทำให้พวกเขาไม่อาจอดกลั้น

หากแพร่ออกไป เจ็ดดินแดนอื่นต้องมองพวกเขาเป็นตัวตลกแน่ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าหน้าหม่นแสง

แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือพลังและรากฐานที่หลินสวินกับรั่วอู่สำแดงออกมาทำให้พวกเขาระวังตัว ไม่กล้าดูหมิ่นและดูถูกเหมือนก่อนหน้านี้อีก

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเหมือนเซวี่ยชิงอี ไม่อาจทนเห็นหลินสวินและรั่วอู่มีชีวิตรอดต่อไปอีก!

เพียงพริบตาในโลกมารโลหิตที่กว้างใหญ่ สายตาทุกคู่ล้วนเริ่มจับจ้องไปยังพื้นที่ป่าหลอมจิต

ในโลกมารโลหิตไม่ได้มีแค่ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิต ผู้แข็งแกร่งที่มาจากแปดดินแดนอื่นก็มีอยู่มากเช่นกัน

พวกเขาส่วนใหญ่ถูกเคลื่อนย้ายมาที่โลกมารโลหิตตอนสมรภูมิเก้าดินแดนเปิดออก

นอกจากผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตกวาดล้างครั้งใหญ่ไปในช่วงนี้แล้ว ผู้แข็งแกร่งของเจ็ดดินแดนอื่นยังไม่เคยถูกเพ่งเล็งและเบียดเบียนอะไร

เมื่อผู้แข็งแกร่งที่มาจากเจ็ดดินแดนอื่นได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินและเทพธิดารั่วอู่ ก็รู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน

ถึงอย่างไรดินแดนรกร้างโบราณก็อ่อนแอมานาน ตอนนี้กลับมีบุคคลร้ายกาจชั้นยอดสองคนโผล่ออกมา ย่อมทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงเป็นธรรมดา

เมื่อผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนเหล่านี้จากโลกมารโลหิตไป ก็นำเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินและเทพธิดารั่วอู่ไปแพร่ในขุมอำนาจค่ายทัพอื่นด้วย

สรุปง่ายๆ ก็คือ อิทธิพลที่เรื่องนี้สร้างขึ้นกำลังบ่มเพาะ!

แดนลับวังใต้ดิน

หลังจากมาถึงที่นี่แน่นอนว่าไร้อันตรายใดอีก รั่วอู่ยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป ร่วงลงไปกองกับพื้น หน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือด นัยน์ตากระจ่างทึบแสงไปมาก

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”

หลินสวินประหม่าอยู่บ้าง นำโอสถเทพเยียวยาบางส่วนส่งมอบให้กับนาง

“ไม่เป็นไร”

รั่วอู่รับโอสถเทพมาเคี้ยวพลางสำรวจโดยรอบแล้วกล่าว “ก่อนหน้านี้ข้ายังเป็นห่วงว่าเจ้าจะประสบเคราะห์อยู่ที่ป่าหลอมจิต คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะหลบอยู่ในแดนลับที่ตัดขาดกับโลกภายนอกเช่นนี้”

หลินสวินชะงัก ไม่นานก็ตระหนักอะไรบางอย่าง กล่าวว่า “แม่นางรั่วอู่ เจ้า… เดิมทีคิดจะมาช่วยข้าหรือ”

รั่วอู่ยิ้มเยาะตนเอง “หากรู้ว่าเจ้าสุขสงบปลอดภัย ข้าคงไม่โง่ให้ถูกตามฆ่ามาตลอดทางจนถึงที่นี่”

ถึงตอนนี้หลินสวินเข้าใจแล้ว ในใจรู้สึกอบอุ่นอย่างอดไม่อยู่

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์