Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1527

สรุปบท ตอนที่ 1527 สังหารมกุฎอริยะแท้หลอมกาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 1527 สังหารมกุฎอริยะแท้หลอมกาย – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1527 สังหารมกุฎอริยะแท้หลอมกาย ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ถึงกับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยหรือ!”

ถูว่านคงนัยน์ตาหดรัด จากนั้นพลันหน้าเปลี่ยนสี “พลังหลอมกายของเขาก็ถึงกับเหยียบย่างระดับมกุฎอริยะแล้ว!”

ไกลออกไปทั่วร่างหลินสวินเรืองแสง สายตาราวกับประกายอสนีเยียบเย็น ทุกอณูรูขุมขนบนผิวหนังล้วนสาดพรมแสงมรรคเก้าพิสุทธิ์ ดุจดั่งเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน

และเมื่อเห็นภาพนี้ ในใจพวกเล่อเซวี่ยซิวก็หนักอึ้ง

พวกเขาล้วนบรรลุมกุฎอริยะแล้ว ความเข้าใจที่มีต่อศาสตร์หลอมกายนำหน้าคนอื่นๆ ไกลโข ต่างรู้ดีว่าผู้หลอมกายที่หมายจะเหยียบย่างระดับมกุฎอริยะ ยิ่งต้องลำบากและตรากตรำขึ้นไปอีก!

เหมือนอย่างในหมู่พวกเขาเจ็ดคน ก็มีแต่ถูว่านคงคนเดียวเท่านั้นที่เหยียบย่างระดับมกุฎอริยะ

และทอดสายตามองทั่วแปดดินแดน ในหมู่มกุฎอริยะหนึ่งพันคน อย่างมากที่สุดก็มีพวกกายหยาบบรรลุอริยะเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ถูว่านคงโจมตีสุดกำลัง น่าสะพรึงแค่ไหน เดิมคิดว่าเพียงพอจะทำให้หลินสวินบาดเจ็บสาหัสได้แล้ว

แต่ตอนนี้ดูท่า พวกเขาเดาผิดแล้ว!

กล่าวอีกในหนึ่งได้ว่าผิดตั้งแต่เริ่มแล้ว เพราะจนกระทั่งตอนนี้พวกเขาถึงตระหนักได้ว่า ในด้านการเคี่ยวกรำพลังหลอมกาย หลินสวินก็บรรลุขอบเขตมกุฎเช่นเดียวกัน!

ฟู่!

เมื่อเห็นว่าหลินสวินไม่เป็นไร เสี่ยวอิ๋นและรั่วอู่ต่างถอนหายใจโล่งอก

“พลังถือว่าไม่เลว แต่คิดจะทำให้ข้าบาดเจ็บ ฝึกอีกหมื่นปีก็ทำไม่ได้”

สายตาหลินสวินจับจ้องถูว่านคงที่อยู่ไกลๆ “ตอนนี้ ตาเจ้ารับหมัดข้าสักหมัดแล้ว!”

ตูม!

เขาสาวเท้าออกไป อาศัยเพียงพลังกายก็เคลื่อนย้ายผ่านอากาศ ชั่วอึดใจก็มาหยุดต่อหน้าถูว่านคง เงื้อหมัดโจมตี

พลังหมัดเจิดจ้าปลดปล่อยเสียงธรรมประหนึ่งคชสารมังกรแผดคำรามออกมา คล้ายหมายจะสยบกำราบธารดารา

มรดกแห่งจักรพรรดิสงครามลักษณ์เทพ!

เพียงแต่กลับถูกหลินสวินใช้นัยเร้นลับของเคล็ดวิชาร่างอริยะเก้าพิสุทธิ์สำแดงออกไป

ก็เห็นกลางฟ้าดินดุจดั่งถูกหมัดนี้อัดแน่น แสงมรรคน่าสะพรึงบีบคั้นจนห้วงอากาศละแวกใกล้เคียงล้วนระเบิดทรุดครืนทั้งอย่างนั้น

“แย่แล้ว!”

ถูว่านคงหน้าเปลี่ยนสี

ถึงเขาจะเป็นมกุฎอริยะหลอมกาย ทระนงตนผงาดกร้าวอย่างที่สุด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดนี้ของหลินสวิน กลับทำให้เขารู้สึกใจสั่นเนื้อกระตุก ขวัญหนีวิญญาณบิน!

“เปิด!”

เขาตะโกนลั่น ร่างกายที่ดุจดั่งหลอมขึ้นจากแสงศักดิ์สิทธิ์แผ่พลังทะยานฟ้า ปั่นป่วนเมฆลมแปดทิศ

ปึง!

ทั้งคู่ปะทะกัน แขนขวาของถูว่านคงตั้งแต่ฝ่ามือไปจนถึงเลือดเนื้อบริเวณแขนล้วนแตะระเบิด เลือดเนื้อเหลวเละ

ทั้งตัวถูกซัดสะเทือนลอยออกไป

เขากระอักเลือด สีหน้าหวาดผวา

เป็นมกุฎอริยะหลอมกายเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับพลังของหลินสวิน เขาถึงกับมีความรู้สึกเล็กจ้อยไร้ปัญญา ไม่อาจสั่นคลอนได้อย่างหนึ่ง

ตูม!

หลินสวินไม่ให้เวลาถูว่านคงครุ่นคิดสักนิด รุกสังหารเข้ามาแล้ว

ชั่วพริบตาหลินสวินโจมตีออกมาสามหมัด

หมัดแรก ร่างของถูว่านคงสั่นสะท้าน เลือดลมพลิกม้วน เลือดออกเจ็ดทวาร ถูกซัดจนเบื้องหน้าปรากฏดาวสีทอง

หมัดที่สอง ถูว่านคงถอยกรูดหลบเลี่ยง กลับถูกไล่ต้อนไม่ลดละ แขนสองข้างล้วนแตกระเบิด

หมัดที่สาม พลังหมัดน่าสะพรึงทำลายการป้องกันร่างกายของถูว่านคงอย่างสิ้นเชิง บาดแผลเหวอะหวะ เลือดเนื้อแหลกกระจุย กระดูกยังไม่รู้แตกหักไปกี่ท่อน

ตูม!

ร่างของเขาทรุดลงกับพื้น แต่ที่น่าพิศวงคือ เพียงไม่กี่อึดใจอาการบาดเจ็บทั่วตัวเขาก็กลับสู่สภาพปกติดังเดิม

มีเพียงสีหน้าซีดขาว และกลิ่นอายรวยรินที่ยืนยันว่าอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับก่อนหน้านี้สาหัสเพียงใด

นี่ก็คือผู้ที่ใช้กายหยาบบรรลุอริยะ!

บุคคลระดับนี้ เว้นแต่จะบดขยี้กำจัดเลือดเนื้อทุกอณูของพวกเขาให้หมดสิ้น หาไม่ ลำพังแค่เลือดหยดเดียวก็สามารถรอดชีวิตฟื้นคืนกลับมาได้

“ก็แค่นี้เท่านั้น”

หลินสวินสีหน้าเยียบเย็น โบกแขนเสื้อดังพรึ่บคราหนึ่ง “ต่อไปข้าจะส่งเจ้าไปตาย!”

ตูม!

ค่ายกลกระบี่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันสายก่อตัวกันขึ้นมา ปราณกระบี่แน่นขนัด หว่านครอบลงมา

ถูว่านคงขวัญผวาอย่างสิ้นเชิง

“รีบหยุดเขาเร็วเข้า!”

พวกเล่อเซวี่ยซิวเข้ามาช่วยเต็มกำลัง

ก่อนหน้านี้เดิมพวกเขาก็ล้อมกรอบโจมตีหลินสวินมาโดยตลอด เพียงแต่ความเร็วของหลินสวินเร็วเกินไป พลังที่ซัดหมัดโจมตีถูว่านคงน่าสะพรึงเกินไป ทำให้พวกเขาล้วนถูกกดข่ม

และตอนนี้พอเห็นถูว่านคงใกล้ยืนหยัดไม่ไหวเต็มที พวกเขาแต่ละคนต่างเริ่มทุ่มสุดชีวิตแล้ว

หากถูกโจมตีทีละคน วันนี้เกรงว่าพวกเขาคงไม่มีใครรอดชีวิตออกไปได้!

ชิ้ง!

และขณะเดียวกันหลินสวินก็เรียกดาบหักออกมา

ดาบหักที่ขาวแวววาวดุจหิมะ งามวิจิตรดั่งมายากระวัดกรีดแสงเจิดจรัสสายหนึ่ง เคลื่อนขวางออกมากลางอากาศ เผยกลิ่นอายเข่นฆ่าพลิกฟ้า

และพลังหลอมจิตของหลินสวินก็ปะทุออกมาอย่างเต็มที่ในเวลานี้เช่นกัน

เคล็ดวิชาอักษรปฐม เคล็ดวิชาอักษรยอด เคล็ดวิชาอักษรสังหาร… พลังมรดกสามอย่างกระตุ้นดาบหักในพริบตา เข้าโจมตีศัตรูทั่วทิศ!

ปึงๆๆ!

ก็เห็นในที่นั้นดาบหักขยับไหวฟันฉับ แผ่กลิ่นอายเข่นฆ่าดุดันสะท้านฟ้า กวาดล้างการโจมตีทั้งหมดอย่างง่ายดาย

ไม่ว่าจะเป็นเล่อเซวี่ยซิว หรือมกุฎอริยะคนอื่นๆ ล้วนหน้าเปลี่ยนสีอีกระลอก พลังหลอมจิตของเจ้าหนูนี่ก็น่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ

ส่วนตัวหลินสวินเองกำลังควบคุมปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันสายเข้าสังหารถูว่านคง

พรูด!

เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นร่างของถูว่านคงถูกกรีดเฉือนออกเป็นรอยแผลโชกเลือดนับไม่ถ้วน โลหิตสดไหลสาดราวกับน้ำตก

เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ฮึดสู้ขัดขืน มกุฎอริยะหลอมกายผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง กลับถูกปรารกระบี่พร่างพราวหนาแน่นปกคลุมเอาไว้ เหมือนสัตว์ร้ายในกรงขังก็ไม่ปาน!

อันที่จริงเดิมทีเขาก็ถูกพลังหมัดมากมายของหลินสวินกระหน่ำใส่จนบาดเจ็บสาหัสแล้ว ถึงแม้จะพึ่งพลังหลอมกายฟื้นคืนสภาพเดิม แต่อย่างไรก็ยังเจ็บหนัก หาใช่ร่างอมตะไม่ตายอย่างแท้จริง

เวลานี้ต้องรีบสู้รีบจบ!

“ฟัน!”

อานุภาพหลินสวินดุจเจินหลงคืนสมุทร ดาบหักโฉบพุ่ง ปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันสายบุกโจมตีอีกครั้ง

และในเวลาเดียวกัน อาศัยความดุดันของพลังหลอมกาย ทำให้เขาเข้าโรมรันโจมตีประหนึ่งไม่หวาดกลัวสักนิด สามารถเคลื่อนขวางหวดกระแทกอย่างไม่กลัวเกรง

ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินสวินยังไม่เกิดจิตสังหาร ก็กดข่มจนมกุฎอริยะพวกนี้โงหัวไม่ขึ้น นับประสาอะไรกับตอนนี้

ไม่นานพวกเล่อเซวี่ยซิวทั้งห้าคนล้วนถูกกดดันจนไม่อาจเงยหน้า แต่ละคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี บังเกิดความหวาดกลัวภายในใจ

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ตั้งแต่พวกเขาผงาดกลายเป็นมกุฎอริยะ ล้วนไม่เคยพบคู่ต่อสู้ที่เย้ยฟ้าเช่นนี้มาก่อน ตัวคนเดียวก็ทำให้พวกเขาเหมือนถูกมัดมือ ไร้แรงปัดป้อง!

พรูด!

ไม่ทันไรดาบหักพริบไหว บั่นเฉือนศีรษะโชกเลือดหัวหนึ่ง

เป็นถูเยี่ยนเหวิน ในการต่อสู้ตอนแรกเขาเป็นคนแรกที่ลงมือกับหลินสวิน ผลคือถูกหลินสวินโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสอย่างง่ายดาย

สิ่งนี้ทำให้เขากลายเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุด และถูกหลินสวินสังหารในเวลานี้!

ศีรษะของเขาลอยคว้างกลางอากาศ แววตาโกรธจัดเบิกกว้าง ยังคงเหมือนไม่อยากเชื่อ ส่วนร่างไร้หัวของเขาระเบิดกลางอากาศ ละอองเลือดพร่างพรม

มกุฎอริยะคนที่สาม สิ้นชีพ!

“คนต่อไป!”

หลินสวินไม่ได้หยุดพักสักนิด ขยับเคลื่อนกลางห้วงอากาศ สายตาจับจ้องเฟิงอวิ๋นเชวีย

คนผู้นี้สวมชุดนักพรตสีแดงโลหิต อันที่จริงเป็นบุคคลที่เหมือนเพชฌฆาตมาจากเผ่าผึ้งมารลายดำคนหนึ่ง ฝีมืออำมหิตถึงขีดสุด

เมื่อรู้สึกถึงสายตาของหลินสวิน ในใจเฟิงอวิ๋นเชวียพลันสะท้าน จากนั้นก็ส่งเสียงคำรามลั่นออกมา “เจ้าสวะตัวจ้อย ไปตายซะ!”

ประทับใหญ่สีเลือดที่เก่าแก่อันหนึ่งทะยานอากาศ บนนั้นประทับแผนภาพมรรคนองเลือดที่ดุจดั่งนรกสิบแปดขุม มีภูเขาศพทะเลเลือด มีกระดูกขาวกองดุจภูผา มีสรรพชีวิตสูบเลือด…

ประทับฝังโลหิต!

ศาสตรามารอริยมรรคชิ้นหนึ่ง ชั่วร้ายและนองเลือด อานุภาพก็แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นกัน

หากไม่ใช่สู้สุดกำลัง เฟิงอวิ๋นเชวียก็คงทำใจเรียกสมบัติสูงสุดที่ถูกเขามองเป็นของรักของหวงชิ้นนี้ออกมาไม่ได้

หวิว…

กลางฟ้าดินลมยะเยือกโบกกระโชก ธารโลหิตเดือดปุดๆ เงาร่างที่ประดุจยักษ์นองเลือดตัวแล้วตัวเล่ากรูออกมาจากประทับฝังโลหิต

พริบตาเดียวฟ้าดินก็เหมือนแดนมารสีเลือดแห่งหนึ่ง!

ต่อให้เป็นหลินสวินนัยน์ตาก็ยังหดรัด นี่ต้องสังหารผู้แข็งแกร่งไปเท่าไหร่กัน จึงจะสามารถหลอมสมบัติชิ้นหนึ่งที่นองเลือดน่าสะพรึงขนาดนั้นได้

วู้ม!

ครู่ต่อมาหลินสวินพลิกฝ่ามือคราหนึ่ง เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดปรากฏ ตัวเจดีย์ดุจดั่งสร้างขึ้นจากกระจกแก้วทองเทพ คละคลุ้งด้วยกลิ่นอายไม่เสื่อมคลาย

“ไป!”

เขายื่นมือออกไป เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดส่งเสียงก้องกระหึ่ม หมุนติ้วพุ่งออกไป

เพียงแค่ตัวเจดีย์สาดแสงมรรคทองนิลกาฬแถบหนึ่งออกมาเท่านั้น กลิ่นอายนองเลือดกลางฟ้าดินก็ถูกกวาดล้างไปจนเกลี้ยง!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์