ตอนที่ได้ยินเสียงครวญอริยะร่วงหล่นครั้งที่สองต่อจากเล่อเซวี่ยซิว ในใจชางสิงคุนที่กำลังโรมรันดุเดือดกับรั่วอู่ก็หนักอึ้ง
จบกัน!
เฮ่อชิงไหวก็ประสบเคราะห์เหมือนกัน!
สีหน้าของเขามืดมน ในใจเปี่ยมด้วยความหวาดผวาพลุ่งพล่าน
หนึ่งต่อสู้เจ็ด ยังสามารถสังหารมกุฎอริยะหกคนได้ การต่อสู้ครั้งนี้หากแพร่ออกไป จะต้องสะท้านสะเทือนทั่วสมรภูมิเก้าดินแดนอย่างแน่นอน
หากแพร่ออกจากสมรภูมิเก้าดินแดน โลกผู้บำเพ็ญแปดดินแดนก็ต้องถูกซัดสั่นคลอนด้วยเช่นกันกระมัง
ถึงอย่างไร นี่เป็นถึงมกุฎอริยะหกคนร่วงหล่นเชียวนะ!
และชางสิงคุนก็ตระหนักถึงจุดจบของตน ครั้งนี้จะต้องประสบเคราะห์ยากหลบหนีแน่นอน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ จู่ๆ ความคิดทั้งหมดของเขาก็มอดดับ แม้แต่จิตต่อสู้ก็ยังมีอาการสั่นคลอนพังทลาย
ไม่กลัวศัตรู ก็กลัวตัวเองมองไม่เห็นความหวัง!
ตูม!
ฝั่งตรงข้ามรั่วอู่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะจิตของชางสิงคุนอย่างว่องไว ใช้ไม้ตายออกมาโดยไม่ลังเล บุกโจมตีเต็มกำลัง
เรือนร่างของนางสูงเพรียว ห้อมล้อมด้วยเพลิงเทพเจิดจ้าเดือดระอุ ทุกท่วงท่าอิริยาบถวิชามรรคแทรกสอด ดุดันและกร้าวแกร่ง สำแดงอานุภาพไร้ทัดเทียมออกมา
ไกลออกไปหลินสวินมองดูเงียบๆ สัมผัสได้แล้วว่าชางสิงคุนต้องจบเห่อย่างแน่นอน
“นายท่าน!”
เสี่ยวอิ๋นเข้ามาหาด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “ข้าเองก็ปรารถนาจะบรรลุมกุฎอริยะ”
เสี่ยวเทียนก็บินเข้ามาด้วย ปีกส่องประกาย บินระบำวนล้อมหลินสวินพลางกล่าว “ข้าก็ด้วย”
หลินสวินยิ้ม “ทำไมจะไม่ได้ สมรภูมิเก้าดินแดนครั้งนี้ จะต้องมีจุดเปลี่ยนบรรลุมกุฎอริยะให้พวกเจ้าเสาะแสวงอย่างแน่นอน”
เขาทอดสายตามองไปทางผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกช่วยชีวิตเหล่านั้น
มีทั้งชายหญิง มีอริยะ และมีราชันระดับอมตะเคราะห์ เพียงแต่เนื้อตัวล้วนเปื้อนเลือด อาภรณ์ขาดวิ่น แทบจะบาดเจ็บทั้งหมด
สีหน้าของพวกเขาต่างฉายแววตื่นเต้น เดือดคลั่ง และเคารพยำเกรง
มาดเหยียดหยันไร้ศัตรูที่ก่อนหน้านี้หลินสวินต่อสู้กรำศึกคนเดียว ได้สะเทือนจิตใจของพวกเขาตั้งแต่ต้น ทำให้พวกเขาฮึกเหิมสุดขีด
รอดแล้ว!
นี่เป็นความคิดเพียงอย่างเดียวของพวกเขา รสชาติที่หนีรอดจากความตาย ทำให้ตอนที่พวกเขาเผชิญหน้าสบสายตากับหลินสวิน ต่างรู้สึกอยากหมอบกราบโขกศีรษะ ซาบซึ้งตื้นตันขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่หลินสวินพูดประโยคเดียวก็ทำให้พวกเขาระงับแรงกระตุ้นภายในใจเอาไว้
“พวกเราคนของดินแดนรกร้างโบราณ ยอมยืนตายแต่ไม่ยอมคุกเข่ารอด ครั้งนี้ข้าหลินสวินช่วยพวกเจ้า ก็หวังว่าภายหน้าหากพวกเจ้าบังเอิญพบผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณของพวกเราตกที่นั่งลำบาก จะสามารถลุกขึ้นมาให้ความช่วยเหลือได้!”
ประโยคเดียวทำให้ทุกคนต่างพยักหน้าหนักแน่น ภายในใจฮึกเหิม
ภายหน้าในสมรภูมิเก้าดินแดนนี้มีหลินสวินอยู่ ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณจะต้องมีหวังล้างความอัปยศของคนรุ่นก่อนได้อย่างแน่นอน!
“เสี่ยวเทียน เจ้าพาพวกเขาไปแดนลับวังใต้ดิน รักษาอาการบาดเจ็บ ตอนที่พวกเราออกจากโลกมารโลหิต ค่อยมาพาพวกเขาไปพร้อมกัน”
หลินสวินกล่าวสั่งการ
ที่นี่คือโลกมารโลหิต อาณาเขตของค่ายทัพใหญ่ดินแดนโบราณมารโลหิต ในพื้นที่อันกว้างใหญ่ทุกแห่งหนล้วนมีแต่ร่องรอยของศัตรู
ลำพังแค่สถานการณ์ปัจจุบันของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านี้ เมื่อไร้ซึ่งการปกป้องของตน ก็เป็นไปได้สูงว่าอาจประสบเคราะห์
แม้หลินสวินจะรู้ดี ว่าเรื่องการเข่นฆ่าและล้มตายเช่นนี้ล้วนเกิดขึ้นในสมรภูมิเก้าดินแดนได้ทุกเวลา แต่ในเมื่อถูกเขาพบเจอแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลจะไม่ช่วยเหลือ
สิ่งที่เขาทำได้ ก็มีเพียงเท่านี้แล้ว
ผีเสื้อมารแยกฟ้ารับคำสั่งจากไป พาผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทั้งกลุ่มเข้าสู่ภายใต้หุบเหวลึกพร้อมกัน
ส่วนหลินสวินก็ทอดสายตามองไปทางสนามรบอีกครั้ง
…
ไม่ได้ผิดความคาดหมาย สุดท้ายชางสิงคุนก็ถูกโจมตีสังหาร ตายด้วยน้ำมือของรั่วอู่
แต่การโจมตีกลับก่อนสิ้นใจของเขาก็ทำเอารั่วอู่บาดเจ็บเหมือนกัน แต่ยังดีที่ไม่ถือว่าร้ายแรง ไม่นานก็ฟื้นสภาพ
นี่ก็ทำให้ภายในใจรั่วอู่ยิ่งทอดถอนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ตนแค่สังหารมกุฎอริยะที่ขวัญกำลังใจสั่นคลอนคนหนึ่ง ยังเห็นได้ชัดว่าเปลืองแรงขนาดนี้ เมื่อเทียบกับหลินสวินก็ห่างชั้นกันมากโขอย่างไม่ต้องสงสัย
ผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้นางเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าหลังจากเหยียบย่างระดับมกุฎอริยะ พลังต่อสู้ที่หลินสวินมีนั้นน่ากลัวปานใด
การเอ่ยว่าไร้ศัตรูในระดับมกุฎอริยะแท้ นับวันคอยได้เลย?
นางเชื่อ!
“หากเรื่องนี้เกิดในดินแดนรกร้างโบราณ ไม่พ้นวัน ชื่อของเจ้าหลินสวินคงจะกึกก้องทั่วหล้า แม้แต่อริยะก็ยังได้แต่แหงนมองเป็นแน่”
เงาร่างรั่วอู่พลิ้วไสว มาหยุดอยู่ข้างกายหลินสวิน บนใบหน้าอรชรงามล้ำฉายแววเลื่อมใสที่หาได้ยาก
“และสำนักเก่าแก่พวกนั้นที่เคยเห็นเจ้าเป็นศัตรู เกรงแต่ว่าจะตกใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ นั่งไม่อยู่สุขกันหมดแน่”
กล่าวถึงตอนท้ายตัวนางเองก็ยังอดยิ้มไม่ได้ ริมฝีปากแดงเอิบอิ่ม เรียวฝันขาวกระจ่าง รอยยิ้มบริสุทธิ์สดใสดุจดอกไม้ตูมที่เบ่งบานภายใต้แสงอาทิตย์หลังฝน
ถูกชมต่อหน้าเช่นนี้ ทำเอาหลินสวินบื้อใบ้ไป
“จริงสิ ต่อไปเจ้ามีแผนอะไรหรือ”
รั่วอู่ช้อนเนตรดาราขึ้นเอ่ยถาม
ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ ยามไม่ได้ต่อสู้กลิ่นอายราบเรียบบริสุทธิ์ ราวเทพเซียนที่ปลีกตัวแยกจากโลก ไม่ให้ความรู้สึกบีบคั้นแก่ผู้คน แต่มักทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาอยู่ใกล้แค่ตรงหน้า ทว่ากลับเหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้า
หลินสวินเอามือไพล่หลัง นัยน์ตาดำสุขุมเยียบเย็น ทอดมองส่วนลึกของป่าหลอมจิต “ช่วงก่อนหน้านี้ข้าได้แต่ถูกไล่ล่าสังหาร ต้องเก็บกลั้นอดทน เก็บตัวอยู่ในแดนลับวังใต้ดินไม่ออกมา แต่ถ้าเป็นตอนนี้ย่อมต้องโจมตีกลับ ความอัปยศที่ประสบพบเจอทั้งหมดต้องเอาคืนทีละอย่าง”
รั่วอู่พยักหน้า นางพอจะเดาถึงผลลัพธ์ข้อนี้ได้ แต่กลับไม่กล้าฟันธง กล่าวว่า “นี่เป็นถึงโลกมารโลหิต รวมกองกำลังของหนึ่งดินแดน มกุฎอริยะเหมือนอย่างเล่อเซวี่ยซิวจะต้องมีมากแน่นอน เจ้า… ตั้งใจจะสังหารถึงเมื่อไหร่ถึงเลือกจะจากไป”
“เจ้าคิดว่า หากข้าบุกเข้าไปรังของพวกเขาจะเป็นอย่างไร”
หลินสวินย้อนถาม
ประโยคเดียวทำเอารั่วอู่สะดุ้งโหยง เนตรดาราเบิกกว้าง ทุบหัวจนแตกนางก็คิดไม่ถึงเด็ดขาดว่าหลินสวินจะใจกล้าขนาดนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์