Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1531

สรุปบท ตอนที่ 1531 ปี้เจี้ยนฉยง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1531 ปี้เจี้ยนฉยง – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 1531 ปี้เจี้ยนฉยง ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ดี! ข้าไปกับเจ้าสักครั้ง”

รั่วอู่สูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง ในสายตาเผยความเด็ดเดี่ยว

การตัดสินใจนี้บ้าคลั่งมาก หากเป็นคนอื่นนางไม่มีทางเสี่ยงด้วยแน่

แต่หลินสวินกลับแตกต่าง

ในสมรภูมิเก้าดินแดน ไม่ว่าใครก็รู้ว่ากำลังของอีกแปดดินแดนได้เปรียบอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่ผู้ฝึกปราณมากมาย อิทธิพลก็มาก

ยิ่งไม่ขาดพวกผู้กล้า ธิดาเทพ บุตรเทพชั้นหนึ่ง

สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีมกุฎอริยะควบคุมดูแล!

จุดนี้เป็นสิ่งที่ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณไม่สามารถเทียบได้

ดังนั้นตั้งแต่เปิดสมรภูมิเก้าดินแดนจนถึงตอนนี้เพิ่งจะไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่ในโลกมารโลหิตแห่งนี้กลับมีผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณถูกฆ่าไม่รู้เท่าไหร่แล้ว!

เพราะเหตุใด

ว่ากันถึงแก่นก็เพราะพลังแตกต่างกันเกินไป

แต่รั่วอู่เองก็รู้ดีว่า ในสมรภูมิเก้าดินแดนแห่งนี้ถูกกฎระเบียบฟ้าดินจำกัด อริยะแท้ก็คือพลังสูงสุด!

และหลินสวิน ตอนนี้เป็นบุคคลยอดเยี่ยมซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่บรรลุมกุฎอริยะแล้ว ถึงขั้นครอบครองความองอาจที่ไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน

ขอเพียงแค่มีเขาอยู่ ในการเข่นฆ่าที่โหดร้ายและนองเลือดของสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ ดินแดนรกร้างโบราณก็จะมีความหวังที่จะพลิกสถานการณ์ ล้างความอับอายในอดีต!

ที่หลินสวินตัดสินใจบุกไปค่ายทัพใหญ่ดินแดนโบราณมารโลหิตครั้งนี้อาจจะดูบ้าคลั่งมาก

แต่คิดอย่างใจเย็นแล้ว ด้วยพลังที่หลินสวินมีตอนนี้ ทอดสายตามองไปในโลกมารโลหิต คนที่สามารถกำราบเขาได้มีเสียกี่คน

“ไป!”

คนทั้งกลุ่มออกเดินทางโดยไม่เสียเวลาอีกต่อไป

ตอนแรกที่ถูกเคลื่อนย้ายมาถึงโลกมารโลหิต หลินสวินก็รู้แล้วว่าเมืองอารักษ์มรรคตั้งอยู่ในทิศเหนือของป่าหลอมจิต มีระยะทางประมาณสามหมื่นลี้

……

กลางฟ้าดินอันกว้างใหญ่ไพศาล

ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตกลุ่มหนึ่งกำลังลาดตระเวนหาเหยื่อ

“ตั้งแต่ใต้เท้าเซวี่ยชิงอีออกคำสั่งจนตอนนี้ก็เกือบสามเดือนแล้ว ในโลกมารโลหิตของเรา เหยื่อทุกคนที่พบล้วนถูกฆ่าหมดแล้ว”

“ใช่ ตอนนี้อยากหาหญิงสักคนสองคนมาเล่นสักหน่อยยังหาไม่เจอเลย”

“ฮะๆ ได้ยินว่าผู้หญิงดินแดนรกร้างโบราณที่มีพลังปราณระดับอริยะส่วนหนึ่ง ขอแค่รูปร่างหน้าตาพอใช้ได้ล้วนถูกส่งไปที่เมืองอารักษ์มรรคอย่างลับๆ แล้ว เพื่อให้ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นย่ำยีตามใจชอบ ความรู้สึกนั้น… จุ๊ๆ”

ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตเหล่านี้ต่างพูดคุยกัน

“เอ๊ะ พวกเจ้าดู!”

จู่ๆ ก็มีคนกล่าวพลางชี้บนท้องฟ้า

ทุกคนเงยหน้าขึ้น ก็เห็นรุ้งเทพสว่างไสวมากมายกรีดผ่านบนท้องฟ้า

“นี่คือสัญญาณขอความช่วยเหลือ! เพียงแต่… เหตุใดจึงมากขนาดนี้ ป่าหลอมจิตนั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ทุกคนต่างตกใจยกใหญ่

นี่เป็นถึงอาณาเขตดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเขา แต่ตอนนี้กลับมีสัญญาณขอความช่วยเหลือมากมายขนาดนี้ถูกส่งออกมา จะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่!

ไม่นานพวกเขาก็ได้รู้ข่าวจากสัญญาณขอความช่วยเหลือ

“เสียงครวญอริยะร่วงหล่นเจ็ดครั้ง เหมือนว่าใต้เท้าเล่อเซวี่ยซิวและมกุฎอริยะอื่นๆ ทั้งเจ็ดคนจะประสบเคราะห์!”

“ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณหลินสวินและรั่วอู่ที่ถูกใต้เท้าเซวี่ยชิงอีออกคำสั่งว่าต้องสังหารให้ได้ ฝ่าออกจากป่าหลอมจิตแล้ว!”

ตอนที่รู้เรื่องพวกนี้ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นหนาวเยือกไปทั้งตัว

ช่วงที่ผ่านมานี้แม้แต่ในโลกมารโลหิต ชื่อของหลินสวินและรั่วอู่ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้

เพราะคนหนึ่งเป็นระดับผู้นำในหมู่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตมกุฎ อีกคนเป็นบุคคลน่ากลัวที่ก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะแล้ว

พูดได้ว่าชายหญิงคู่นี้ก็คือแกนหลักสำคัญของฝั่งค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ

และเพื่อสังหารสองคนนี้ ในหลายเดือนมานี้โลกมารโลหิตเคลื่อนกำลังไม่รู้เท่าไหร่ไปร่วมมือเคลื่อนไหวกับอริยะทั้งเจ็ดอย่างพวกเล่อเซวี่ยซิว สร้างความโกลาหลไปทั่ว

ใครก็ไม่คิดว่าชายหญิงคู่นี้ยังจะมีโอกาสรอดชีวิต

แต่ตอนนี้กลับมีข่าวน่าตกใจขนาดนี้แพร่ออกมา!

“นี่… เป็นไปได้อย่างไร”

ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไม่สามารถสงบได้ ต่างไม่กล้าเชื่อจริงๆ

และในเวลาเดียวกัน

ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของโลกมารโลหิต ต่างก็สังเกตเห็นสัญญาณขอความช่วยเหลือมากมายเหล่านั้นที่กลายเป็นรุ้งเทพ ปรากฏกลางท้องฟ้า

“พวกใต้ท้าเล่อเซวี่ยซิวประสบเคราะห์แล้วหรือ นี่เป็นไปไม่ได้!”

“ชายหญิงชาติสุนัขคู่นั้นดันรอดชีวิตมาได้และเข่นฆ่าฝ่าออกจากป่าหลอมจิตแล้ว? นี่ข่าวปลอมกระมัง”

“เร็ว! เคลื่อนกำลังไปสืบหน่อย!”

ชัวขณะเดียวเสียงฮือฮาและเสียงตกใจไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น ทั้งโลกมารโลหิตเกิดคลื่นโกลาหลระลอกใหญทันใด

เมืองอารักษ์มรรค

ในเมืองอันเกรียงไกรที่สร้างจากเลือดและโครงกระดูก มีหอสูงที่มีความสูงถึงหนึ่งพันแปดร้อยจั้งตั้งตระหง่านอยู่

ทั้งหอนี้ก่อขึ้นจากกระดูกขาวมากมาย ดูน่ากลัวอย่างที่สุด นามว่า ‘หอชัยชนะ’ อันมีนัยถึงประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่ม

ขระเดียวกันที่นี่ก็คือสถานที่สำคัญ ซึ่งมีเพียงเซวี่ยชิงอีและกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนโบราณมารโลหิตเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าไป

“ผู้อาวุโสหก เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

ยิ่งไปกว่านั้นพื้นต่างๆ ในแถบเส้นขอบเขตของโลกมารโลหิตยังมีทัพใหญ่ของดินแดนโบราณมารโลหิตประจำการอยู่

ตรงนั้นก็มีมกุฎอริยะมากมายควบคุมสถานการณ์อยู่เช่นกัน!

พูดได้ว่าในโลกมารโลหิตแห่งนี้ ปี้เจี้ยนฉยงไม่คิดว่า ในสมรภูมิเก้าดินแดนจะมีศัตรูคนใดกล้าวิ่งมากำเริบเสิบสานในรังของพวกเขา

สิ่งที่ปี้เจี้ยนฉยงใคร่ครวญตอนนี้คือ พวกเล่อเซวี่ยซิวตายแล้วหรือยัง หากตายไปจริงๆ แล้วตายอย่างไร

คำถามนี้สำคัญมาก!

ถึงอย่างไรมกุฎอริยะร่วงหล่นพร้อมกันเจ็ดคน แม้ไม่สามารถทำให้ดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ก็นับว่าเป็นแรงจู่โจมที่ไม่น้อยเลย

ควรรู้ว่าหลังจากกำจัดกำลงพลของดินแดนรกร้างโบราณแล้ว ระหว่างแปดดินแดนซึ่งรวมถึงดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเขาจะดำเนินการต่อสู้อันโหดร้ายนองเลือด

ตอนนั้นถึงจะเป็นเวลาที่ต้องสู้สุดพลัง

ตอนนี้สมรภูมิเก้าดินแดนเพิ่งจะเปิดได้ไม่ถึงครึ่งปี ดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเขาก็มีมกุฎอริยะร่วงหล่นเจ็ดคนแล้ว นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี

ในขณะที่ปี้เจี้ยนฉยงใคร่ครวญคำถามนี้ ก็แยกการตายของพวกเล่อเซวี่ยซิวออกจากหลินสวินและรั่วอู่ตามจิตใต้สำนึก

เพราะสำหรับเขา ชายหญิงคู่นี้ต่อให้เก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้

บวกกับข่าวที่เผยแพร่มาเมื่อครู่นี้ก็สั้นเกินไป ทำให้เขาไม่มีทางนึกถึง ว่าหลินสวินที่ถูกพวกเขามองข้ามบรรลุอริยะไปนานแล้ว!

แต่ไม่นานอริยะเผ่าผึ้งมารลายดำที่รับคำสั่งออกไปก็กลับมาอย่างเร่งรีบ ครั้งนี้สีหน้าของเขาดูแปลกประหลาดมาก ท่าทางเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็หยุดไป

“ทำไมเจ้ากลับมาอีกแล้ว”

ปี้เจี้ยนฉยงขมวดคิ้ว

“ด้านหน้าส่งข่าวมา บอกว่า… บอกว่า…”

สีหน้าของอริยะคนนี้ยิ่งดูแปลกประหลาด

“ว่าอะไร”

ปี้เจี้ยนฉยงไม่พอใจมาก เป็นถึงอริยะ เหตุใดจึงท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ช่างเสียมาดจริงๆ

อริยะคนนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ในข่าวบอกว่า หลินสวินกับรั่วอู่นั่นกำลังบุกสังหารมาทางเมืองอารักษ์มรรคของพวกเราด้วยกัน!”

“หืม…”

ปี้เจี้ยนฉยงสีหน้าแปลกประหลาดอย่างที่สุดขึ้นมาทันที จากนั้นหลุดขำออกมา “พวกเขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ หรือไม่ก็สมองมีปัญหา?”

อริยะคนนั้นเองก็ประหลาดใจมาก ยิ้มกล่าวว่า “บางทีอาจจะบ้าไปแล้วจริงๆ”

ปี้เจี้ยนฉยงคิดๆ แล้วตื่นเต้นขึ้นมา “เช่นนี้ก็ไม่เลว กำลังเป็นห่วงอยู่เลยว่าพวกเขาจะหนีไปทันที ตอนนี้ในเมื่อส่งตัวเองมาถึงที่ เช่นนั้นก็ฉวยโอกาสนี้ส่งพวกเขาลงนรกโดยตรง!”

อริยะคนนั้นพยักหน้า “ข้าเองก็คิดเช่นนี้ แต่ถึงอย่างไรรั่วอู่นั่นก็เป็นมกุฎอริยะ จะต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสักหน่อยหรือไม่”

ปี้เจี้ยนฉยงขานรับว่าอืมคำหนึ่งแล้วกล่าว “เผยแพร่คำสั่งข้า ให้มกุฎอริยะเผ่าเหยี่ยวมารเหิน เผ่างูมารทองคำลงมือ บอกไปว่าการตายของเล่อเซวี่ยซิวและเสอไท่สิงเกี่ยวข้องกับชายหญิงคู่นี้ ตอนนี้ข้าให้โอกาสพวกเขาได้แก้แค้นด้วยตัวเอง!”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์