Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1542

ชายเกราะทองนามว่าทั่วหุนกู่ มาจากเผ่าอสนีปีกดำของดินแดนโบราณอสูรดาว ตัวเขาเองก็เป็นมกุฎอริยะคนหนึ่ง

จังหวะที่ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าที เขาไม่ลังเลสักนิด ตั้งท่าจะบีบปีกส่งสารในมือให้แหลกละเอียด

สวบ!

แต่ที่ทำให้เขาตกใจคือ เงาร่างศัตรูยังไม่ทันมาถึง ปราณกระบี่สายหนึ่งก็เฉือนสังหารแหวกอากาศมาแล้ว เจตกระบี่อันกร้าวแกร่งไร้เทียมทานนั้น ผ่าห้วงอากาศออกเป็นสองท่อน!

แข็งแกร่งนัก!

ในใจทั่วหุนกู่ไหวสะท้าน ไม่อาจสนใจบีบปีกส่งสารแม้แต่น้อย ต้องเคลื่อนย้ายหลบหลีโดยพลัน เบี่ยงหลบไปด้านข้าง

ตูม!

ในตำแหน่งที่เขายืนอยู่ตอนแรกถูกปราณกระบี่ผ่าแหวกออกเป็นแอ่งน้ำยาวพันจั้งสายหนึ่ง ปราณกระบี่คละคลุ้ง โขดหินใกล้เคียงล้วนแตกกระจุย

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ดินแดนรกร้างโบราณถึงกับปรากฏมกุฎอริยะเช่นนี้

แววตาทั่วหุนกู่มีประกายแสงวาบผ่าน ตกใจไม่หาย พลังของกระบี่เมื่อครู่ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายกรีดกระดูกอย่างหนึ่ง

เพียงแต่ไม่รอให้เขาคิดมากความ กลางห้วงอากาศปราณกระบี่สายแล้วสายเล่าหวีดร้อง เคลื่อนขวางตัดสลับ ผาดโผนดุจประกายอสนีแน่นขนัด บั่นสังหารมาเยือน

กระบี่แต่ละสายล้วนมีอานุภาพพิฆาตภูผาธารา ชะล้างจักรวาล!

ในที่สุดทั่วหุนกู่ก็หน้าเปลี่ยนสี ตัดสินใจเผ่นหนีโดยไม่ลังเลสักนิด

อีกฝ่ายไม่เพียงมีมกุฎอริยะสองคน หนำซ้ำพลังต่อสู้ยังน่ากลัวอย่างที่สุด ทำให้เขาไม่กล้าปะทะซึ่งหน้าสักนิด

“ตาย!”

แต่ทันทีที่ทั่วหุนกู่หันตัว เสียงราบเรียบสายหนึ่งก็ดังก้องอยู่ข้างโสต

วู้ม!

สิ่งที่ตามมาพร้อมกันยังมีดาบหักที่เจิดจ้าดุจธาราสายหนึ่ง ลำพังแค่กลิ่นอายอริยมรรคที่ไหลรินออกมาจากคมดาบ ก็ไพศาลดุจสมุทร เรืองรองไร้ที่สิ้นสุด

“นี่…”

ทั่วหุนกู่ตกใจจนหนังหัวชาหนึบ ส่งเสียงคำรามลั่นสุดแรง โคจรพลังทั่วร่างถึงขีดสุด ก็เห็นบนเกราะทองที่ปกคลุมร่างกายเขาพลันปรากฏลายมรรคประกายสายฟ้าชั้นแล้วชั้นเล่าออกมา แน่นขนัดเจิดจ้า

และในมือขวาของเขา กลับถือกระถางสมบัติสีเลือดใบหนึ่ง กระแทกไปทางดาบหักอย่างจัง

ปึง!

อึดใจเดียว กระถางสมบัติสีเลือดก็ถูกฟันกระเด็น

นี่ทำให้ริมฝีปากทั่วหุนกู่กระอักเลือด ไม่กล้าเชื่อ เขาก็เป็นมกุฎอริยะเช่นเดียวกัน แต่ภายใต้การเข่นฆ่าระดับนี้ ถึงกับมีความรู้สึกประหนึ่งเล็กจ้อยไร้แรงต้านทาน!

นี่เป็นไปได้อย่างไร

เจ้าหมอนั่นโผล่มาจากไหนกันแน่

ไม่รอให้ทั่วหุนกู่ตอบสนอง หลังจากซัดกระถางสมบัติสีเลือดกระเด็น พลังของดาบหักไม่ลดน้อย ฟันฉันลงไปอย่างแรง กระแทกเข้ากับลายอสนีเกราะทองนั่น

ปึงๆๆ!

เสียงกระแทกที่สะเทือนโสตจวนจะหูหนวกกึกก้องประหนึ่งฟ้าคำราม และทั่วหุนกู่ก็เหมือนถูกอสนีบาต ร่างกายถูกซัดสะเทือนซวนเซถอยกรูด

ทุกครั้งที่ถอยหนึ่งก้าว สีหน้าก็ซีดลงหนึ่งส่วน ลายอสนีเกราะทองที่อยู่เบื้องหน้าเขาก็เริ่มแตกออก…

จนกระทั่งตอนที่ยืนอยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้ง เสียงระเบิดสนั่นดังตูมคราหนึ่ง เกราะทองที่ป้องกันอยู่เบื้องหน้าร่างกายเขาคล้ายหมดสภาพก็ไม่ปาน แตกออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นละอองแสงสาดพรมทั่วฟ้า

พรูด!

ทั่วหุนกู่อดกระอักเลือดคำโตออกมาอีกครั้งไม่ได้ ร่างกายล้วนกระตุกเกร็งรุนแรงเพราะความเจ็บปวด

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

พลังของการโจมตีนี้แม้สุดท้ายจะถูกสลายไปได้ แต่กลับซัดกระถางสมบัติของเขาลอยกระเด็น ทำลายเกราะทองของเขา ยิ่งทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส!

และในเวลานี้ทั่วหุนกู่เพิ่งจะมองเห็นลักษณะของคนที่ลงมือได้ถนัดตา

เงาร่างสูงโปร่ง อาภรณ์สีขาวพระจันทร์ หน้าตาหล่อเหล่า ผมสีดำปลิวไสวดูไร้หลุดพ้นดั่งเซียนจุติลงมา แต่อานุภาพของเขากลับเย้ยฟ้าประหนึ่งเทพมาร

“เจ้านี่ คงไม่ใช่ว่าเป็น…”

ชั่วอึดใจทั่วหุนกู่พลันฉุกคิดเรื่องใหญ่ที่สะเทือนสมรภูมิเก้าดินแดนเมื่อไม่นานมานี้ ตัวต้นเรื่องของเรื่องใหญ่ที่ว่านั่น คือมกุฎอริยะดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่งที่ชื่อหลินสวิน

เคยบุกสังหารสามหมื่นลี้เพียงลำพัง พลิกม้วนคลื่นลมในโลกมารโลหิต!

ซ้ำยังเคยปิดเมืองแห่งหนึ่งด้วยตัวคนเดียว!

สวบ!

ความคิดนี้เพิ่งแวบผ่านสมองของทั่วหุนกู่ การโจมตีของหลินสวินก็มาเยือนแล้ว

พร้อมๆ กับเสียงคำรามชัดก้องที่สะท้อนกระหึ่ม ดาบหักดุจมายา ใช้อานุภาพดุดันไร้ทัดเทียมบั่นหัวของทั่วหุนกู่จนลอยคว้างกลางอากาศ

ก่อนสิ้นใจ บนสีหน้ายังคงเจือความตระหนกตกใจอยู่

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าเหตุใดทั้งที่อยู่ระดับเดียวกัน ทว่าพลังต่อสู้ของอีกฝ่ายกลับน่าสะพรึงเช่นนี้

ยิ่งไม่เข้าใจว่าตนที่เปรียบเสมือนนายเหนือหัวในสมรภูมิเก้าดินแดนแห่งนี้ ถึงกับไม่อาจต้านการโจมตีเดียวเช่นนี้…

ปึง!

ครู่ต่อมาศีรษะของทั่วหุนกู่ก็แตกระเบิด พลังจิตล้วนถูกป่นแหลก

เพียงแต่เสี้ยวสุดท้ายก่อนสิ้นใจศพไร้หัวของเขาได้บีบปีกส่งสารที่กำแน่นอยู่ในมือ จากนั้นรุ้งเทพสายหนึ่งก็ส่งเสียงแสบหูออกมา พุ่งทะยานชั้นฟ้า

“นี่คือสมบัติส่งสาร เจ้าหมอนี่กำลังเตือนพวกพ้องของเขา! ดูจากจุดนี้ ในอาณาเขตแถวนี้จะต้องมีมกุฎอริยะมากกว่าหนึ่งคนแน่!”

เงาร่างของรั่วอู่โรยมาอยู่กลางลาน เนตรดาราปรากฏความเคร่งขรึม

สวบ!

หลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง เก็บเลือดและศพของคนผู้นี้เอาไว้

ขณะเดียวกันเขาเอาเศษเสี้ยววิญญาณที่หลงเหลือของทั่วหุนกู่ส่วนหนึ่งมอบให้กับเสี่ยวอิ๋น กล่าวว่า “ตรวจสอบที เจ้าหมอนี่รู้เรื่องของเจ้าคางคกกับอาหลู่หรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์