Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1546

เสียงร้องอนาถโหยหวนก้องสะท้อนกลางฟ้าดิน กลิ่นคาวเลือดแสบจมูกเจืออยู่ในสายลมอันหนาวเหน็บ ยังคงเข้มข้นไม่จางหาย

บนฟากฟ้า แสงเลือดแสบตาแถบหนึ่งคละคลุ้ง และมีเสียงครวญแห่งอริยะร่วงหล่นกำลังกึกก้อง

ยามการต่อสู้ปิดฉาก มีเพียงมกุฎอริยะสี่คนเผ่นหนีทัน เอาชีวิตรอดมาได้อย่างโชคช่วย แต่ก็ตกใจจนเสียขวัญ ตื่นกลัวเหมือนสุนัขไร้บ้าน

หาใช่หลินสวินไม่มีปัญญาไล่ล่าสังหาร แต่เพราะต้องเสียเวลาและแรงกำลัง

สำหรับเขาแล้ว ภารกิจเร่งด่วนคือความปลอดภัยของพวกเซ่าเฮ่า เจ้าคางคก อาหลู่ หาใช่ไล่ล่าสังหารศัตรูตลอดทาง

แม้จะเป็นเช่นนี้ ตอนที่มองเห็นเงาร่างของเขาวกกลับ ทุกคนรวมถึงรั่วอู่ล้วนเงยหน้าขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างทอดสายตามองไป

อาภรณ์สีขาวพระจันทร์ ผมดำพลิ้วไสว เงาร่างสูงโปร่งก้าวย่างกลางห้วงอากาศ ปราศจากมลทิน บุคลิกหลุดพ้นโลกีย์ดุจเทพเซียน

นี่ก็คือหลินสวิน!

เป็นเทพมารหลินที่พวกเขารู้จักดี

แต่ใครจะกล้าจินตนาการว่าชายหนุ่มที่ดูเหมือนนิ่งสงบดุจสายน้ำเช่นนี้ ยามเมื่อสำแดงฝีมือ กลับคมกริบสะท้านโลกประหนึ่งเทพมาร

เวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งเค่อ มีมกุฎอริยะสิบสี่คนถูกฆ่าต่อเนื่อง เหลือเพียงสี่คนที่โชคช่วยหนีไปได้!

โดยเฉพาะกระบี่เดียวที่สะท้านโลกสายนั้น ชั่วพริบตาก็บั่นศีรษะอริยะห้าคน ท่วงท่าสง่างามระดับนั้น ช่างเหมือนเซียนกระบี่มาเยือนโลกในตำนานชัดๆ

และตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่เคยบาดเจ็บ ตัวคนเดียวก็สยบเหล่าศัตรู ผงาดกร้าวไร้ทัดเทียม!

เวลานี้มองดูหลินสวินเดินมา ไม่ว่าจะเป็นรั่วอู่ เซ่าเฮ่า หรือเจ้าคางคก อาหลู่ หรือบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณคนอื่นๆ ถึงกับมีความรู้สึกเหมือนเห็นเทพมาเยือนอย่างหนึ่ง

ครู่ใหญ่กว่าเซ่าเฮ่าจะได้สติขึ้นมา กล่าวทอดถอนใจ “ในระดับนี้ ข้าไม่มีความรู้สึกนึกเสียใจอะไรให้พูดถึงแล้ว”

รั่วอู่เข้าใจโดยปริยาย กล่าวยิ้มๆ ว่า “การแข่งขันมหามรรคไม่ต้องรีบร้อน ขอเพียงมีชีวิตอยู่ วันหน้ายังมีโอกาสอีกถมเถ”

ก่อนหน้านี้เซ่าเฮ่าเคยพูดว่า ความเสียใจอันยิ่งใหญ่ที่สุดคือไม่เคยวัดฝีมือกับหลินสวินสักครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่าเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนความคิดแล้ว

“พี่ใหญ่!”

“ข้ารู้อยู่แล้ว พี่ใหญ่ไม่มาก็แล้วไป เมื่อมาก็เพียงพอจะใช้พลังตัวคนเดียวสยบจักรวาล กำราบศัตรูทั้งปวง!”

อาหลู่และเจ้าคางคกตื่นเต้นจนถลาไปข้างหน้า ต้อนรับหลินสวิน

หลินสวินในเวลานี้ก็สงบใจลงได้อย่างสิ้นเชิง ยิ้มพลางต่อยหมัดใส่ทั้งคู่ กล่าวว่า “ไม่เป็นไรก็ดี ครั้งนี้พวกเจ้ารอดมาได้ ต้องขอบคุณพี่เซ่าเฮ่าที่ช่วยเหลืออย่างยิ่ง”

กล่าวพลางสองมือเขาประสานหมัด โค้งคารวะเอ่ยขอบคุณอย่างจริงจัง “พี่เซ่าเฮ่า ครั้งนี้ขอบคุณยิ่งแล้ว!”

เซ่าเฮ่ายิ้มผ่าเผย กล่าวว่า “ขอบคุณอะไร อยากขอบคุณจริงๆ ก็ควรจะขอบคุณที่เจ้ามาทันเวลา ช่วยชีวิตทุกคนพ้นจากวิกฤต”

“ข้าล่ะ? ไม่มีใครอยากมาขอบคุณข้าบ้างหรือ เช่นนี้บั่นทอนความภาคภูมิใจกันเกินไปแล้ว”

เนตรดาราของรั่วอู่เบิกกว้าง กล่าวค่อนขอด

เซ่าเฮ่าและหลินสวินสบตากันปราดหนึ่ง ล้วนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เห็นเช่นนี้รั่วอู่ก็หัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่เช่นกัน เจือท่วงท่างามสง่าอย่างบอกไม่ถูก

คำบางคำไม่จำเป็นต้องพูดชัดเจนเกินไปสักนิด ต่างฝ่ายต่างเข้าใจ รู้กันก็พอแล้ว

ห่างออกไปบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณทั้งกลุ่มเดินเข้ามา พากันกล่าวขอบคุณเซ่าเฮ่า หลินสวิน และรั่วอู่ทั้งสามคน

หลินสวินเองก็มองเห็นสหายที่คุ้นเคยอย่างเยวี่ยเจี้ยนหมิง เซียวชิงเหอแล้ว ในใจยิ่งรู้สึกโชคดีขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้ถือว่ามาได้ทันเวลา

หาไม่ เขาล้วนไม่กล้าจินตนาการถึงผลที่จะตามมาของการต่อสู้ครั้งนี้

สนทนากันคร่าวๆ หลินสวินและรั่วอู่ร่วมกันลงมือ เก็บกวาดสนามรบ รวบรวมศพ เลือดเนื้อ สมบัติเหล่านั้น คราวนี้จึงพาคนทั้งขบวนออกไปจากทะเลทรายเวิ้งว้างแถบนี้

นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีสำหรับการรำลึกอดีต

ระหว่างทางยามได้รู้จุดประสงค์ที่หลินสวินและรั่วอู่มุ่งหน้ามาโลกรกร้างโบราณ เซ่าเฮ่าอดปรบมือหัวเราะเสียงดังขึ้นมาไม่ได้ กล่าวยิ้มๆ ว่า “ที่แท้พวกเจ้าก็ตั้งใจจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นใหม่ ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เรื่องนี้รวมข้าเข้าไปด้วยคน”

“พวกเราก็ร่วมด้วย”

บุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณคนอื่นๆ ก็พากันเอ่ยปาก

คนมากพลังเยอะ หลินสวินย่อมเข้าใจหลักการข้อนี้ดี

ที่สำคัญที่สุดคือ สาเหตุที่เขาสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นใหม่ เดิมก็เพื่อทำให้เป็นสถานที่ที่สามารถต้านลมบังฝนให้แก่ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณอยู่แล้ว

มีพวกเซ่าเฮ่าเข้ามาร่วมด้วย ย่อมดีอย่างยิ่ง

จากนั้นหลินสวินเรียกยานขนส่งอวกาศ บรรทุกทุกคนเดินทางมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ซากเมืองอารักษ์มรรคตั้งอยู่

โลกรกร้างโบราณมีอันตรายอยู่ทุกที่ และมีเงาร่างศัตรูจากแปดดินแดนให้เห็นทุกแห่งหน

แต่หลินสวินคร้านจะสนใจแล้ว ทุกเรื่องราวมีระดับความสำคัญ รอให้จัดแจงความปลอดภัยให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว ภายหน้ายังมีโอกาสฆ่าศัตรูอีกถมเถ

เพียงแต่ที่น่าขันคือ ระหว่างทางยังบังเอิญพบกับควันหลงส่วนหนึ่ง ศัตรูจากแปดดินแดนบางส่วนไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ดี หมายจะลงมือกับยานขนส่งอวกาศ ไอสังหารเดือดพล่าน

ผลลัพธ์แค่คิดก็รู้ ไม่ต้องให้หลินสวินลงมือสักนิด รั่วอู่คนเดียวก็สลายเรื่องทั้งหมดได้สบาย

“จนกระทั่งตอนนี้พวกเจ้าไม่เคยติดต่อกับจิ่งเซวียนและเจ้านกดำได้เลยหรือ”

“ใช่แล้ว”

ในห้องโดยสาร เมื่อได้ยินคำตอบของเจ้าคางคกและอาหลู่ หลินสวินก็อดมุ่นคิ้วไม่ได้ ในใจค่อนข้างเป็นกังวล

อันตรายและความโหดร้ายของสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ ตอนนี้หลินสวินเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว นี่ทำให้เขาไม่อาจไม่เป็นกังวลความปลอดภัยของจ้าวจิ่งเซวียนได้

ส่วนนกทมิฬกลับไม่ได้ทำให้หลินสวินหวั่นใจขนาดนั้น เจ้านกหัวขโมยที่เจ้าเล่ห์ตัวนี้ บางทีพลังต่อสู้อาจไม่เด่นชัด แต่ถ้าพูดถึงความสามารถในการหนี ขนาดหลินสวินยังต้องชื่นชม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์