สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1556 บารมีแห่งยอดสังหาร – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 1556 บารมีแห่งยอดสังหาร ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ในค่ายกลใหญ่แปดพิทักษ์
รั่วอู่และเซ่าเฮ่าต่างสะท้านสะเทือนใจ หมัดนี้ของหลินสวินแม่นยำเฉียบขาด เมื่อโจมตีก็สังหารสิ้น พลังระดับนี้ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจ
ส่วนผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ของดินแดนรกร้างโบราณ เวลานี้ล้วนงุนงง กลืนน้ำลายดังเอือก
หมัดเดียว!
ระเบิดสังหารมกุฎอริยะ?
นี่ช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว!
ในสายตาพวกเขา มกุฎอริยะก็เหมือนนายเหนือหัว สามารถสังหารอริยะแท้คนใดก็ได้
แต่ภายใต้น้ำมือหลินสวิน… เหตุใดถึงไม่เอาไหนเช่นนี้
นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพลังต่อสู้ที่แท้จริงของหลินสวินกับตาตัวเอง
พลังกระบวนค่ายกลสี่ยอดแปดพิทักษ์ก่อนหน้านี้ ถึงอย่างไรก็เป็นกระบวนผนึกลายมรรค พลังที่หยิบยืมคือมหาพลังฟ้าดิน เป็นคนละเรื่องกับพลังต่อสู้ของเจ้าตัวอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ แรกเริ่มเดิมทีตอนที่อยู่ในป่าหลอมจิต
หลินสวินยังไม่ได้หยั่งถึงเคล็ด ‘ไตรมรรครวมเป็นหนึ่ง หนึ่งเดียวสัมบูรณ์’ ก็สามารถพลิกสภาพการต่อสู้ภายใต้การล้อมสังหารของมกุฎอริยะเจ็ดคนอย่างพวกเลี่ยเซวี่ยซิว และกวาดล้างเหล่าศัตรูได้แล้ว
นับประสาอะไรกับเวลานี้
ไตรมรรครวมเป็นหนึ่ง ทำให้พลังต่อสู้ของหลินสวินเหยียบย่างระดับสูงสุดเหนือจิตนาการในระดับมกุฎอริยะนานแล้ว!
ในค่ายกลสังหารยอดนภา มกุฎอริยะอย่างพวกคุนป้าชิวต่างตกใจ หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่
จู่ๆ หลินสวินก็พุ่งเข้ามาปุบปับ ฆ่าพวกพ้องคนหนึ่งของพวกเขา ทำเอาพวกเขาต่างผิดคาดและหวาดหวั่น ภาพเหตุการณ์นองเลือดนั้นสะเทือนจิตใจผู้คนเกินไป
แต่จากนั้นพวกเขาก็ฉายแววดีใจออกนอกหน้า ขณะที่หวั่นใจว่าจะหมดหนทางสังหารเจ้าสวะคนนี้แล้ว เขาถึงกลับกล้าโผล่เข้ามาในค่ายกล!
‘ทุกคนอย่าชะล่าใจ เจ้าหมอนี่เคยฆ่ามกุฎอริยะมากมายในโลกมารโลหิต พลังต่อสู้ของเขาเกินกว่าธรรมดา หากลงมือจะต้องลงมือเต็มกำลัง!’
มีคนที่เยือกเย็นสุดขีดสื่อจิตเอ่ยเตือนสติ
พวกคุนป้าชิวดวงตาลุกโชน พวกเขาย่อมรู้วีรกรรมที่ผ่านมาของหลินสวินอยู่แล้ว ในเวลาเช่นนี้ย่อมไม่ประมาทเลินเล่อใดๆ
“หากคิดว่าอาศัยข้อได้เปรียบที่มีคนมากกว่าแล้วจะเปลี่ยนสถานการณ์จนตรอกนี้ได้ เช่นนั้นก็คิดผิดมหันต์แล้ว”
นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็น เอ่ยปากเสียงเรียบ
ค่ายกลสังหารยอดนภานี้อยู่ในการควบคุมของเขา อานุภาพของมันย่อมไม่มีทางส่งอิทธิพลมาถึงตัวเขาได้
ตรงกันข้าม อย่าเห็นว่าพวกคุนป้าชิวมีกำลังคนมาก แต่ไม่มีเวลาใดเลยที่ไม่ประสบกับการบุกฆ่าและโจมตีของค่ายกลใหญ่ เกิดประสิทธิภาพกำราบสยบไร้รูปอย่างหนึ่ง
กล่าวได้ว่าในค่ายกลนี้ หลินสวินครองความได้เปรียบไว้หมด!
“ฆ่า!”
คุนป้าชิวตวาดลั่น ไม่พูดพร่ำทำเพลง และไม่มีเวลาพูดเหลวไหลสักนิด ยิ่งเวลานานเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์ของพวกเขา
ในฐานะมกุฎอริยะที่คร่ำหวอดในการต่อสู้ พวกเขาย่อมแจ้งใจว่าในค่ายกลสังหารเช่นนี้ข้อได้เปรียบของหลินสวินมีมากปานใด
และพลังต่อสู้ของตัวหลินสวินเองก็ไม่อาจดูเบาได้แม้แต่น้อย!
ตูม!
ชั่วขณะเดียวระหว่างที่มกุฎอริยะสามสิบกว่าคนต้านพลังค่ายกลใหญ่ ก็แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปโจมตีใส่หลินสวินอย่างรุนแรง
ไม่มีใครยั้งมือ ก็เห็นสมบัติอริยะแหวกอากาศ วิชามรรคกู่ก้อง ในโลกธารดาราแถบนี้เต็มไปด้วยปรากฏการณ์สั่นสะเทือน โกลาหล และการทำลายล้าง
โดยทั่วไปไม่ว่าผู้แข็งแกร่งที่เหยียบย่างระดับอริยะคนใดก็ตาม ต่างให้ความสำคัญกับการบำเพ็ญไตรมรรค
แต่สำหรับมกุฎอริยะจากดินแดนอื่นเหล่านี้แล้ว ตั้งแต่ยังไม่บรรลุอริยะก็มีพวกร้ายกาจที่ฝึกฝนไตรมรรคแล้ว
เพราะในดินแดนอื่นไม่ได้มีอุปสรรคของ ‘เคราะห์มรรคตัดขาด’
แต่แม้จะเป็นดินแดนอื่นๆ การที่สามารถเหยียบย่างจุดสูงสุดแห่งไตรมรรคตอนที่บรรลุอริยะได้ก็ยังมีน้อยยิ่งกว่าน้อย แทบจะมีเพียงหยิบมือเดียว
และพวกคุนป้าชิวล้วนไม่ใช่คนจำพวกนี้ ทว่าพวกเขาก็ฝึกฝนมรรคาสายอื่นควบด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่ายังไม่เหยียบย่างจุดสูงสุดเท่านั้น
ดังนั้นต่อให้เวลานี้ต้องต้านพลังค่ายกลใหญ่ไปพลาง ลงมือโจมตีไปพลาง แค่พลังต่อสู้ของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งสุดขีด ไม่ใช่อริยะแท้ทั่วไปจะเทียบชั้นได้
ที่น่าเสียดายคือ แม้ว่าพวกเขาจะลงมือสุดกำลังแต่ก็ยังยากจะทำให้หลินสวินรู้สึกถึงภัยคุกคาม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้
ตูม!
การต่อสู้ดุเดือดปะทุขึ้น ในค่ายกลสังหารยอดนภา ฝ่ามือหลินสวินปรากฏกระบี่เทพสีแดงสดที่เหมือนหลอมขึ้นจากหยาดเลือดเล่มหนึ่ง
เมื่อกระบี่เล่มนี้โฉบพุ่ง ตัวกระบี่ที่กว้างสองนิ้วมือปรากฏธารเลือดอยู่รำไร ในสายธารมีศพมารเทพลอยผลุบโผล่ ซากศพเก่าแก่จมฝัง เป็นภาพชวนสยดสยองเสมือนสามารถกลบฝังสรรพสิ่ง
ปึง!
ทวนใหญ่สีเงินเล่มหนึ่งถูกตัดหักตรงๆ ง่ายดายเหมือนกระบี่เฉือนเต้าหู้
ท่ามกลางเสียงร้องอุทานตกใจ ปราณกระบี่สีเลือดบาดตาไหลเวียน ตัดหัวมกุฎอริยะคนที่ถือทวนใหญ่สีเงินนั้น
“กระบี่ยอดสังหาร!”
ทันใดนั้นมีสัตว์ประหลาดเฒ่าคำรามลั่น เผยแววกริ่งเกรงหาใดเปรียบ
หลินสวินอดรู้สึกแปลกใจน้อยๆ ไม่ได้ ศัตรูจากเจ็ดดินแดนคนนี้ก็รู้จักกระบี่ยอดสังหารด้วยหรือ
ในดินแดนรกร้างโบราณมีตำนานลึกลับเรื่องหนึ่งเล่าขานสืบต่อกันมา ในช่วงแรกเริ่มบรรพกาล เคยมีสำนักแห่งหนึ่งนามว่าลัทธิเทพขุมโลหิต
ในสำนักนี้มีอาวุธอำมหิตสะท้านโลกอยู่สองชิ้น ชิ้นหนึ่งนามว่ายอดสังหาร กำเนิดในแม่น้ำขุมโลหิต
อีกชิ้นนามว่าอเวจี ถือกำเนิดในนรกขุมโลหิต
สมบัติสองชิ้นนี้ล้วนเป็นศาสตราจิตฟ้าประทาน ฆ่าคนไม่เปื้อนผลกรรม ทำให้อริยะในโลกหล้าต่างกริ่งเกรงสุดขั้ว
กระบี่โลหิตในมือหลินสวินก็คืออาวุธอำมหิต ‘ยอดสังหาร’ เป็นทรัพย์หลังศึกที่ได้มาจากมือบุตรนรก
ในกระบี่เล่มนี้ถูกผนึกอานุภาพไว้แน่นหนา หากไม่เป็นเช่นนี้ ตอนแรกในแดนมกุฎบุตรนรกคงใช้กระบี่เล่มนี้ไม่ได้
และหลังจากหลินสวินบรรลุมกุฎอริยะแล้ว ถึงสามารถสลายผนึกในกระบี่ได้ เผยอานุภาพที่แท้จริงของมันออกมา!
“จักรพรรดิกระบี่ธารนรกเป็นอะไรกับเจ้า”
และยามนี้ กระบี่ยอดสังหารก็ปรากฏตัวอีกครั้ง!
“ฆ่า!”
สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้หลินสวินคล้ายไม่รับรู้ สีหน้าเขาเยียบเย็น นัยน์ตาดำดุจสายฟ้า ถือกระบี่รุกสังหาร เคลื่อนไปมาในค่ายกลใหญ่ อานุภาพองอาจเหนือโลก สง่าผ่าเผย
ในเวลาต่อมามกุฎอริยะคนแล้วคนเล่าร่วงหล่นตามๆ กัน…
ในค่ายกลแปดพิทักษ์ พวกรั่วอู่ เซ่าเฮ่ายังถือว่าสงบนิ่ง ด้วยรู้ว่ากระบี่ในมือหลินสวินนั้นได้มาจากมือบุตรนรกในปีนั้น
แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนอื่นๆ หลินสวินในเวลานี้ก็คือมารกระบี่สะท้านโลกที่ดำรงชีพอยู่ด้วยการสังหารชัดๆ!
ทุกที่ที่ปราณกระบี่นองเลือดเคลื่อนผ่าน ฟันเฉือนอริยะ ซดเลือดอริยะ ดุกร้าวคับฟ้า
“เจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่ามารกระบี่อยู่อีกไหม…”
เซี่ยวซางเทียนอดเสมองเยี่ยเฉินปราดหนึ่งไม่ได้
มุมปากเยี่ยเฉินกระตุก “ก็แค่ฉายาเท่านั้น ยกให้หลินสวินจะเป็นไรไป”
“นั่นเป็นถึงมกุฎอริยะสามสิบกว่าคนเชียว! แต่กลับถูกหลินสวินสังหารร่วงทีละคนเหมือไก่ดินเผาสุนัขกระเบื้อง มีใครบอกข้าได้บ้างว่านี่คือภาพลวงตาใช่หรือไม่”
หญิงสาวคนหนึ่งร้องเสียงหลงด้วยสีหน้ามึนตื้อ
“ไม่ใช่!”
คนไม่น้อยต่างพากันระเบิดหัวเราะลั่นขึ้นมา สีหน้าก็เปี่ยมแววตื่นเต้นฮึกเหิมเช่นกัน
ภาพทั้งหมดที่ได้เห็นเบื้องหน้าไม่เหมือนจริงราวกับความฝันฉากหนึ่ง เปี่ยมด้วยความน่าเหลือเชื่อ ทำเอาผู้คนสะทกสะท้าน
แต่ใครต่างก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน!
กองทัพใหญ่เจ็ดดินแดนยกทัพมาอย่างเกรียงไกร ไม่พูดพล่ามก็หมายจะเหยียบที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง ฆ่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณอย่างพวกเขาให้เกลี้ยง
แต่ตอนนี้คนพวกนั้นถูกขังในค่ายกลใหญ่ ถูกฆ่าจนพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าแล้วไม่ใช่หรือ
“พวกเราคอยดูอยู่ที่นี่ ออกจะไม่ดีอยู่บ้างหรือไม่”
มีคนอดพูดขึ้นมาไม่ได้
ชั่วขณะนั้นทุกคนต่างทอดถอนใจ สิ่งสำคัญคือ การต่อสู้ระดับนี้ใครจะสามารถช่วยหลินสวินได้บ้าง
ใช่ว่าไม่อยาก แต่ทำไม่ได้ต่างหาก!
ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่พวกมกุฎอริยะอย่างรั่วอู่และเซ่าเฮ่ายังได้แต่ยืนมองอยู่ไกลๆ เลย
ในค่ายกลสังหารยอดนภา
กลับเป็นบรรยากาศสิ้นหวังหวังนองเลือด เวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งเค่อด้วยซ้ำ ก็มีพวกชั้นยอดกว่าครึ่งถูกสังหารอย่างต่อเนื่อง เลือดสาดทั่วลาน
พวกคุนป้าชิวที่เหลืออยู่ก็ถูกฆ่าอย่างสยดสยอง ฆ่าจนหมดหวัง!
………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์