Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1557

สรุปบท ตอนที่ 1557 สร้างเมือง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 1557 สร้างเมือง – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1557 สร้างเมือง ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในค่ายกลสังหารยอดนภา ธารดาราไหลเวียน ดาวใหญ่ดวงแล้วดวงเล่าบดขยี้ห้วงอากาศ ประกายแสงเรืองรองกึกก้อง เจิดจ้าบาดตา พลังเสียงชวนตกใจ

ฉัวะ!

คมกระบี่แสงเลือดบาดตาพริบไหว มกุฎอริยะถูกสังหารอีกคน หัวของเขาถูกตัดร่วง ร่างกายก็ถูกธารดาราบดแหลก กระจุยกระจายเป็นเศษเสี้ยว

และภายในลานก็เหลือมกุฎอริยะเพียงแค่หกคน!

เวลานี้คุนป้าชิวรู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง สีหน้าเขาตกใจแกมเดือดดาล บนหน้าผากมีเส้นเลือดปูดโปน เห็นได้ชัดว่ากราดเกรี้ยวหาใดเปรียบ

เวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา มกุฎอริยะสามสิบสามคนถึงกับถูกฆ่าจนเหลือแค่พวกเขาหกคน นี่มันน่าสะพรึงเกินไปแล้ว!

คิดจนสมองแตกคุนป้าชิวก็คิดไม่ออก ว่าการยกทัพมาจากแดนไกลในครั้งนี้ พวกเขาทุกคนถึงกับถูกกักขังอยู่ในกระบวนค่ายกลใหญ่

ยิ่งคิดไม่ถึงว่าความกร้าวแกร่งแห่งพลังต่อสู้ของหลินสวิน จะถึงกับแข็งแกร่งกว่าที่เล่าลือกันมาเสียอีก!

“เจ้าสวะ ข้าจะสู้กับเจ้าเดี๋ยวนี้!”

ทันใดนั้นเสียงแผดคำรามสายหนึ่งดังก้องขึ้น เต็มไปด้วยความเดือดดาลไร้สิ้นสุด

คุนป้าชิวเงยหน้าขวับ ก็เห็นพวกพ้องคนหนึ่งร่างกายราวกับลุกโชน พลีชีพพุ่งปราดเข้าไปทางหลินสวิน

นี่ถูกบีบให้เสียสติแล้วอย่างนั้นหรือ

ในใจคุนป้าชิวสะท้านสะเทือน

ฉัวะ!

ผลลัพธ์พิสูจน์ว่าทุ่มสุดชีวิตก็เปลืองแรงเปล่าเช่นกัน เมื่อคมกระบี่ยอดสังหารขยับไหว มกุฎอริยะที่พลีชีพคนนี้ก็ถูกตัดเอวขาดสะบั้น ร่างพาดขวางกลางลาน

หยาดเลือดแดงฉานบาดตาซ่านเซ็น กระตุ้นจนคุนป้าชิวสั่นเทิ้มทั่วร่าง เหลือแค่ห้าคนแล้ว!

ย้อนกลับมามองหลินสวิน อานุภาพดุจเทพมาร ถือกระบี่เลือดฆ่าอริยะ กระบี่ซดเลือดอริยะ พลังแกร่งจนน่าหวาดหวั่น

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร…”

คุนป้าชิวร้องเสียงหลง เขาไม่อาจยอมรับได้

ครั้งนี้พวกเขาเคลื่อนพลมกุฎอริยะเจ็ดสิบคน กองทัพใหญ่สองแสนกว่าคน อานุภาพแข็งแกร่งปานใด

แต่ตอนนี้ถึงกับเหมือนแพะรอโดนเชือด!

ฉัวะ!

ตอนที่สภาวะจิตคุนป้าชิวปั่นป่วนจิตต่อสู้สั่นคลอนนั้น ก็มีมกุฎอริยะถูกสังหารไปอีกคน กลางคิ้วถูกเสียบทะลุกะโหลกแตกระเบิด ก่อนสิ้นใจยังคงร้องโหยหวน

นั่นเป็นถึงมกุฎอริยะเชียว!

แต่อยู่ในมือหลินสวินกลับเหมือนผ่าผลไม้หั่นผักก็ไม่ปาน อย่าว่าแต่คุนป้าชิว ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ชมการต่อสู้ในค่ายกลใหญ่แปดพิทักษ์อยู่ไกลๆ ก็ยังปากอ้าตาค้าง สูดหายใจเฮือกไม่หยุด

หลินสวินในตอนนี้ แข็งแกร่งปานใดกันแน่

คำถามข้อนี้ก็รบกวนคุนป้าชิวเช่นกัน เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าในระดับมกุฎอริยะถึงขั้นยังมีพวกพลิกฟ้าเช่นนี้อยู่ด้วย!

ฉัวะ!

ฉัวะ!

ฉัวะ!

ในเวลาต่อมามกุฎอริยะถูกสังหารต่อเนื่อง เลือดสดกระเซ็น ส่วนกระบี่ยอดสังหารในมือหลินสวินก็ยิ่งแปลกพิสดารและแดงฉานมากขึ้นเรื่อยๆ

เสียงครวญกระบี่นั่น เหมือนกับเสียงร้องยินดีหมายจะซดดื่มเลือดชัดๆ!

และห้วงอากาศเหนือค่ายชั่วคราว บนเวิ้งฟ้าถูกปกคลุมด้วยสีเลือดหนาทึบเป็นชั้นๆ นานแล้ว มีเสียงครวญแห่งอริยะร่วงหล่นหลายสายก้องกังวาน สะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

ทำเอาผู้คนสั่นเทิ้มทั้งที่ไม่ใช่หน้าหนาว!

ชิ้ง!

ในค่ายกลใหญ่ คมกระบี่ดุจเลือด วางพาดบนลำคอคุนป้าชิว ทำให้เขาตัวสั่นไปทั้งร่าง จิตต่อสู้ที่เดิมทีไม่สั่นคลอนพังทลายอย่างสิ้นเชิง ทั่วร่างถูกความสะพรึงกลัวคลุมมิด

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกว่าเจ้าจะได้ตายอนาถมาก แต่ตอนนี้หากให้เจ้าตายไปง่ายๆ เช่นนี้ ก็ดูจะสบายเจ้าเกินไป”

นัยน์ตาดำของหลินสวินสุขุมเย็นชา มองดูคุนป้าชิว กระบี่ยอดสังหารในมือมีแม่น้ำนรกสีเลือดอันกว้างใหญ่ไพศาลไหลวน คล้ายจะเขมือบผู้คน

คุนป้าชิวหน้าเผือดสี ยังคงกัดฟันกรอด “เจ้าคิดว่าเช่นนี้ก็ชนะแล้วหรือ ตอนที่แปดยอดนภาครามตระหนักถึงภัยคุกคามของเจ้า จะต้องบุกโจมตีเต็มกำลัง สังหารแพะสองขาดินแดนรกร้างโบราณอย่างพวกเจ้าจนหมด ไม่ปล่อยให้รอดสักคนแน่!”

ฉัวะ!

กระบี่ยอดสังหารแทงออกมาปุบปับ เสียทะลุหน้าอกคุนป้าชิว เขาส่งเสียงร้องเจ็บปวด สีหน้าเผือดซีด นัยน์ตาเปี่ยมด้วยแววแค้นอาฆาต สิ้นหวัง ไม่ยินยอม

แต่หลินสวินไม่ได้ฆ่าเขาในทันที หากแต่หิ้วคอเขา ก่อนเงาร่างขยับไหวและออกจากค่ายกลสังหารยอดนภา

“ต่อไปข้าจะทำให้เจ้าเห็นเองกับตา อะไรที่เรียกว่าเลือดต้องล้างด้วยเลือด”

นัยน์ตาหลินสวินเยียบเย็น

ขณะพูดก็หิ้วคุนป้าชิวโฉบเข้าสู่ค่ายกลสังหารแดนพิฆาต

ในสมัยบรรพกาลเคยมีคำกล่าวอริยะว่า ฆ่าหนึ่งถือเป็นบาป ฆ่าหมื่นเป็นวีรบุรุษ ฆ่าเก้าล้านย่อมเป็นยอดบุรุษเหนือวีรชน!

อุดมการณ์ยิ่งใหญ่นิจนิรันดร์ คงอยู่ในการเข่นฆ่าศัตรู ยอมให้ศัตรูกัดฟันแค้น แต่ไม่ยอมให้ไร้คนแช่งนามข้า!

วันนี้ หากไม่สังหารศัตรูทั้งหมด หลินสวินไม่ยอมรามือเด็ดขาด

……

ครึ่งเค่อให้หลัง

ในค่ายกลสังหารแดนพิฆาต มกุฎอริยะโดนฆ่าทั้งหมดสิบสองคน ฝนเลือดเทกระหน่ำ

คุนป้าชิวเห็นทุกสิ่งในสายตา เดือดดาลจนกระทบใจ กระอักเลือดไม่หยุด

หลินสวินไม่หยุด พาคุนป้าชิวเข้าไปในค่ายกลสังหารทลายเทพ

เมื่อได้เห็นทุกอย่างนี้ ในค่ายกลใหญ่แปดพิทักษ์ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณอย่างพวกรั่วอู่ เซ่าเฮ่า สภาวะจิตต่างปั่นป่วน ยากจะเป็นตัวของตัวเอง

บางคนยิ่งน้ำตาร้อนผ่าวรื้นขอบตา!

ในสมรภูมิเก้าดินแดน นับตั้งแต่การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งแรกจนบัดนี้ ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณเคยยืดอกผ่าเผยเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ไม่มี!

……

เวลาหนึ่งเค่อให้หลัง

ในค่ายกลสังหารทลายเทพ อานุภาพหลินสวินดุจผ่าลำไผ่ ทำลายล้างคู่ต่อสู้สิบสามคน คมกระบี่อาบเลือด องอาจผึ่งผายไม่เคยยั้งมือใจอ่อนแต่อย่างใด

สีหน้าคุนป้าชิวด้านชาเสมือนศพเดินได้ พังทลายอย่างสิ้นเชิง

ในใจมีเพียงความคิดเดียว…

แนวโน้มสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว!

……

ครึ่งชั่วยามให้หลัง

ประโยคเดียวสะเทือนถ้วนทั่ว ทำลายบรรยากาศเงียบกริบภายในลาน

หลังจากนั้นคลื่นเสียงเหมือนหม้อเดือดพุ่งทะลุชั้นเมฆ!

“ชนะแล้ว!”

“ชนะแล้วจริงๆ!”

“การต่อสู้ครั้งนี้ของพี่ใหญ่หลิน มือเดียวปิดครอบฟ้า เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน!”

“สะใจ สะใจเหลือเกิน!”

ความรู้สึกต่างๆ นานาที่อัดอั้นอยู่ภายในใจทุกคนล้วนระบายออกทั้งหมดในเวลานี้

ไม่ว่าหญิงชาย ไม่ว่าปราณสูงต่ำ ต่างพากันโห่ร้องหัวเราะลั่น สีหน้าแต้มแววตื่นเต้น ฮึกเหิม และสะท้านสะเทือน

และมีคนอดหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้

ถูกการหยามเหยียดและความเคียดแค้นปกคลุมมานานเกินไป ถูกศัตรูเหยียบย่ำและดูหมิ่นนานเกินไป บัดนี้ในที่สุดก็มีวันได้ลืมตาอ้าปาก มีช่วงเวลาได้ปลื้มปริ่มยินดี เช่นนี้จะไม่ให้ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนไหนๆ รู้สึกซาบซึ้งได้อย่างไร

ในค่ายใหญ่พลันเดือดพล่านอย่างสิ้นเชิงในยามนี้!

เซ่าเฮ่าและรั่วอู่สบสายตากัน ต่างยิ้มขึ้นมา ในใจรู้สึกทอดถอนใจยิ่ง

และไม่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายของการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ลำพังแค่การต่อสู้คราวนี้ ก็สามารถจารึกชื่อของหลินสวินไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ กลายเป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่อาจดับทำลายของดินแดนรกร้างโบราณ!

“ดูสิเสี่ยวเทียน นี่ก็คือนายท่าน นายท่านของพวกเรา!”

สองแขนของเสี่ยวอิ๋นกอดไว้ตรงหน้าอก ใบหน้าเล็กหล่อเหลาเจือแววภาคภูมิใจเต็มเปี่ยม

บนไหล่ของเขาผีเสื้อมารแยกฟ้ากระพือปีกเบาๆ โผผินบินร่าย คล้ายกับว่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากเช่นกัน

บนห้วงอากาศหลินสวินมองเห็นทุกอย่างนี้ก็เหมือนซึมซาบไปด้วย นึกถึงสิ่งที่ทุ่มเทไปในทุกวันตลอดครึ่งปีมานี้ ภายในใจก็อดรู้สึกทอดถอนใจไม่ได้

ทั้งหมดนี้ล้วนคุ้มค่า!

แต่ว่า แค่เท่านี้ยังไม่บรรลุเป้าหมายในวันนี้ของหลินสวิน

ตูม!

เขาเงาร่างขยับไหว ยืนตระหง่านอยู่เหนือเวิ้งฟ้าสูง โบกแขนเสื้อหนึ่งครา กระบวนค่ายกลสี่ยอดแปดพิทักษ์ทั้งหมดพลันโคจรขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลานี้

มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าซากศพและเลือดที่กองอยู่ในค่ายกลใหญ่ล้วนถูกพลังผนึกควบคุม ปิดครอบอาณาเขตร้อยลี้นั้น ปกคลุมบนก้อนอิฐที่กองถมเหมือนภูเขากองแล้วกองเล่า!

“เอ๋!”

ในค่ายทุกคนอึ้งงัน สายตาทั้งหมดล้วนถูกดึงดูด

“พี่ใหญ่หลิน นี่เขาจะ…”

“สร้างเมือง! ต้องเป็นสร้างเมืองแน่ๆ!”

ทันใดนั้นทุกคนในค่ายต่างมีปฏิกิริยาขึ้นมา

หลินสวินเคยบอกไว้ตั้งแต่สามเดือนก่อนแล้วว่า จะสร้างเมืองอารักษ์มรรคให้ดินแดนรกร้างโบราณของพวกเขาในวันนี้!

ฆ่าศัตรู ก็เป็นแค่การรวบรวมวัสดุเพื่อสร้างเมืองเท่านั้น!

ชั่วขณะเดียวสายตาทั้งหมดที่มองมาทางหลินสวินล้วนลุกโชน คนมากมายต่างกลั้นหายใจ จิตจดจ่อ ลอบกำหมัดแน่น

หลังจากวันนี้ ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณของพวกเขา ในที่สุดก็จะมีเมืองอารักษ์มรรคที่สามารถบังแดดบังฝน ต้านศัตรูไว้ภายนอกใหม่อีกครั้งอย่างนั้นหรือ

ก่อนหน้านี้ พวกเขาล้วนไม่กล้าคิดแม้สักนิดด้วยซ้ำ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์