ห้าวัน กำแพงเมืองก็สร้างเสร็จ!
กำแพงเมืองสีทองที่ย้อมด้วยสีเลือด ก่อหลอมด้วยซากศพสูงเพียงสามสิบเก้าจั้ง ไม่ถือว่าสูงใหญ่ แต่ยังคงทำให้ผู้คนสะท้าน
กำแพงเมืองนั้นแผ่ขยายเหมือนมังกรยักษ์สีทองตัวหนึ่งขดตัวบนแผ่นดินกว้าง ปิดล้อมอาณาเขตพื้นที่ร้อยลี้เอาไว้
อิฐกำแพงใสวาวดุจกระจก เป็นระเบียบเรียบร้อยจัดวางสอดประสาน ตัวกำแพงที่ย้อมสีเลือดทอแสงทองอร่ามแฝงกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนสะท้านใจอย่างหนึ่ง
“ควบ!”
เหนือเวิ้งฟ้าสูง หลินสวินที่ไม่ได้พักผ่อนห้าวันห้าคืน กลางนัยน์ตาดำผุดประกายเจิดจ้า แขนเสื้อโบกสะบัด
ฮู้ม!
พร้อมๆ กับคลื่นผันผวนแปลกประหลาดปรากฏ ลำแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งทะยานเสียดฟ้าฉับพลัน โฉบแหวกชั้นเมฆบนเวิ้งฟ้าแหลกกระจุย
เห็นแต่กำแพงเมืองที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ จู่ๆ ก็ปรากฏลายมรรคงดงามเป็นแถบๆ ละอองแสงสาดพรม ประกายแสงไหลเวียน ลุกโชนพร่างพราว
ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทั่วทั้งค่ายชั่วคราวต่างถูกทำให้ตกใจ
เมื่อเงยหน้ามองไป กลางฟ้าดินรุ้งเทพสีทองโฉบพุ่งนับหมื่นนับพัน แกว่งไกวกลางห้วงอากาศ ควบหลอมเป็นดอกตูมมหามรรคดอกแล้วดอกเล่า มงคลศักดิ์สิทธิ์
ต่อมาเหนือเวิ้งฟ้าถึงกับปรากฏลักษณ์ประหลาดฟ้าดาราไพศาลแถบหนึ่งขึ้นมา ดวงดาวพร่างพราวมหาศาลพริบไหวอยู่ภายในนั้น เคลื่อนโคจรไม่หยุดหย่อน ลึกล้ำและกว้างใหญ่
ดาราปรากฏกลางวันแสกๆ!
ได้เห็นลักษณ์ประหลาดระดับนี้ ทุกคนต่างอึ้งค้าง กำแพงสีทองอาบชโลมภายใต้ฟ้าดาราไร้สิ้นสุด ดุจดั่งวิมานที่เหล่าเทพพักอาศัย
“แค่สร้างเมืองเท่านั้น ถึงกับเรียกลักษณ์ประหลาดฟ้าดินให้อุบัติขึ้นได้? ฝีมือเหนือธรรมดายิ่งนัก!”
เซ่าเฮ่ายังอึ้งงัน หัวใจสะท้านสะเทือน
รั่วอู่อดก้าวขึ้นไปข้างหน้าไม่ได้ ใช้ปลายนิ้วแตะบนกำแพงเมืองเบาๆ ทันใดนั้นคลื่นผนึกประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยวก็แผ่กว้างบนตัวกำแพงที่ใสวาวราวกระจก
มองอย่างละเอียด ในอิฐกำแพงมีสีแดงเรื่อย้อม เหมือนแสงประกายสีชาดเรื่อเรือง และยังมองเห็นเศษซากศพที่จมอยู่ภายในได้รางๆ ทำเอาผู้คนใจสะท้าน
“งามนัก แต่ก็น่ากลัวมากเช่นเดียวกัน…”
รั่วอู่พึมพำ ยืนอยู่หน้ากำแพงในระยะใกล้ทำให้นางรับรู้ถึงกลิ่นอายบีบคั้นที่แฝงอยู่ ควบรวมไม่เปิดเผยอย่างหนึ่ง
นี่เป็นการเชื่อมผสานอย่างสมบูรณ์ของกระบวนผนึกอริยมรรคกับกำแพงเมือง หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน!
ในค่าย บรรดาผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณได้สติจากความสะท้านสะเทือน กดความฮึกเหิมในใจไม่อยู่อีกต่อไป ระเบิดเสียงโห่ร้องยินดีทะลุฟ้าออกมา
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเขาค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ มีเมืองอารักษ์มรรคแห่งใหม่อีกครั้งแล้ว เมืองที่แผ่ลักษณ์เรืองรอง วันที่สร้างเมืองก็ชักนำให้เกิดลักษณ์ประหลาดฟ้าดิน!
และทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหลินสวินมอบให้!
เหนือเวิ้งฟ้าสูง หว่างคิ้วหลินสวินฉายแววเหนื่อยล้ายากปกปิด
ห้าวันก่อนเขาใช้พลังขอวตนคนเดียวกักขังสังหารทัพใหญ่เจ็ดดินแดน หลังจากนั้นก็ไม่ได้หยุดพักแต่อย่างใด ใช้เวลาไปห้าวันกว่าจะสร้างเมืองนี้ได้สำเร็จ ทำให้แรงกายแรงใจของเขาล้วนหดหายไปมากโข
แต่ในเวลานี้ตอนที่ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีของทุกคน ได้เห็นเมืองใต้เท้าที่ปลดปล่อยลักษณ์งดงามเรืองรองออกมา หลินสวินก็ระบายยิ้ม ในใจเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ
นี่คือเมืองของเขา!
และเป็นปราการที่บังแดดบังฝนของผู้แข็งแกร่งโลกรกร้างโบราณทั้งหมด!
แต่จากนั้นหลินสวินก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง หยิบสมบัติอริยะออกมาหลายชิ้น ในสมบัติอริยะทุกชิ้นล้วนกักขังผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนจำนวนมากเอาไว้
ไม่มีการรีรอแต่อย่างใด และไม่มีความเห็นใจใดๆ เมื่อหลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง สมบัติอริยะทุกชิ้นเหล่านี้ต่างถูกฝัง จมลงไปในกำแพงเมือง
จากนั้นธารเลือดหลากสายก็หลั่งไหลออกมาจากสมบัติอริยะ เปียกชุ่มส่วนลึกของแผ่นดิน จวบจนสุดท้ายกระดูกขาวนับไม่ถ้วนโผล่ออกมา ต่อเติมพื้นดินทุกแห่งหนทั่วกำแพงเมือง
ทัพใหญ่เจ็ดดินแดนนับแสนที่ถูกขังในตอนแรก ถูกสังเวยชีวิตในวันนี้ที่เมืองอารักษ์มรรคสร้างเสร็จโดยไม่มีข้อยกเว้น!
เหนือเวิ้งฟ้าเสียงครวญอริยะร่วงหล่นดังขึ้นอีกครั้ง มีสีเลือดดั่งกระแสน้ำแผ่ขยาย
เพราะในศัตรูที่ถูกสังเวย ไม่ขาดพวกระดับอริยะแท้!
สังหารชีวิตนับแสนในคราเดียว อยู่โลกภายนอกเรื่องนี้ต้องถูกมองเป็นการฆาตรกรรม ฆ่าคนเหมือนแมลงวัน แบกรับคำด่าทอว่าโหดเหี้ยมอำมหิต เลือดเย็นไร้ปรานี
แต่หลินสวินไม่สนใจ จิตใจยิ่งไม่ไหวหวั่นแม้แต่เสี้ยวเดียว
เมืองอารักษ์มรรคของศัตรู ก็สร้างมาจากเลือดและซากศพของเหล่าเมธีในดินแดนรกร้างโบราณทั้งนั้น
เขาหลินสวินก็แค่ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น
ยังคงเป็นประโยคนั้น อุดมการณ์ยิ่งใหญ่นิจนิรันดร์ คงอยู่ในการเข่นฆ่าศัตรู ยอมให้ศัตรูกัดฟันแค้น แต่ไม่ยอมให้ไร้คนแช่งนามข้า!
ไม่นานรั่วอู่และเซ่าเฮ่าก็เดาเรื่องนี้ออกเช่นกัน ต่างสบสายตากัน ในใจผุดความรู้สึกสะทกสะท้านขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ในค่าย เหล่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณก็เข้าใจขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ละคนต่างเลือดลมสูบฉีด ฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก
“ฆ่าได้ดี!”
“ฆ่าได้สะใจนัก!”
“ยอดบุรุษต้องอย่างนี้!”
เสียงตะโกนลั่นดังก้องชั้นฟ้า สะเทือนสี่ทิศ
ภายใต้เสียงตะโกนแซ่ซ้อง หลินสวินโรยตัวสู่พื้นอย่างแผ่วเบา พูดกับเซ่าเฮ่าและรั่วอู่ว่า “ข้าต้องพักผ่อนสักหน่อย เรื่องที่เหลือคงได้แต่ให้พวกเจ้าสองคนเป็นธุระให้ก่อนแล้ว”
“รีบไปเถิด”
เซ่าเฮ่าและรั่วอู่เร่งเร้าพลางยิ้ม
หลินสวินพยักหน้า
เขาเหนื่อยเกินไปจริงๆ ต้องการพักผ่อนปรับสภาพอย่างเต็มที่สักรอบ
“ต่อไปก็ควรแบ่งเขตพื้นที่ในเมือง สร้างอาคารเพื่อรองรับผู้บำเพ็ญทุกคนมาพักอาศัย จริงสิ เรื่องแรกคือต้องสร้างคฤหาสน์ให้หลินสวินก่อนหลังหนึ่ง”
เซ่าเฮ่ากล่าวพึมพำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์