Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1559

สรุปบท ตอนที่ 1559 แผนการของเซวี่ยชิงอี: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1559 แผนการของเซวี่ยชิงอี – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1559 แผนการของเซวี่ยชิงอี จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ผู้ที่ได้รู้ข่าวตั้งแต่จังหวะแรกไม่ได้มีเพียงค่ายทัพดินแดนโบราณขุมอุดร

ค่ายทัพอื่นๆ อย่างดินแดนโบราณยอดหยิน ดินแดนโบราณเพลิงสวรรค์ ดินแดนโบราณจิ่วหลี ดินแดนโบราณต้าหลัว ดินแดนโบราณหม่อนบูรพาก็ทยอยรู้ข่าวอย่างต่อเนื่อง

“พวกสวะไร้ค่า!”

โลกจิ่วหลี ตอนที่ชืออู๋ซู่รู้ข่าว เขากำลังปิดด่าน โกรธจนควันออกเจ็ดทวาร ไอสังหารเดือดปะทุ ทำเอาคนใหญ่คนโตมากมายเงียบกริบปานจักจั่นหน้าหนาว

“ขายหน้าครั้งใหญ่นัก…”

โลกยอดหยิน จู๋อิ้งคงสีหน้าอึมครึม เนิ่นนานกว่าจะพ่นลมหายใจหนักหน่วงออกมาเฮือกหนึ่ง

“หลินสวินนี่ถึงกับเป็นถึงนักสลักลายมรรคที่ฝีมือยอดเยี่ยมคนหนึ่งด้วย ช่างเหนือความคาดหมายของผู้คนซะจริงๆ!”

โลกต้าหลัว เจี้ยนชิงเฉินสีหน้าสงบนิ่งเฉกเช่นที่ผ่านมา

แต่ตอนเสียงเขาสิ้นสุด คนใหญ่คนโตทุกคนในที่นั้นล้วนเหมือนนั่งบนพรมเข็ม ราวกับหนามทิ่มหลัง ภายในใจระส่ำระสายไม่มั่นคง

“ตัวคนเดียวก็โค่นทัพใหญ่เจ็ดดินแดนของพวกเราได้หรือ ใช้ได้อยู่นี่!”

โลกอสูรดาว เสียงสือพั่วไห่เย็นชา เตะโต๊ะเบื้องหน้าพลิกคว่ำในคราเดียว ข้าวของเกลื่อนพื้น

นอกจากนี้เลี่ยเฉียนจากดินแดนโบราณเพลิงสวรรค์ ฮว่าหงเซียวจากดินแดนโบราณหม่อนบูรพา ไม่มีใครไม่โกรธจัดเพราะข่าวนี้

ดินแดนที่ถูกพวกเขามองว่าแร้นแค้น เสื่อมถอย เปราะบาง ยามนี้เพียงเพราะมีบุคคลอย่างหลินสวินโผล่ขึ้นมาคนหนึ่ง ก็ทำให้การบุกโจมตีของเจ็ดดินแดนใหญ่ของพวกเขาต้องพ่ายแพ้ยับเยิน ทัพใหญ่สูญสิ้น นี่ก็คือความอัปยศครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนชัดๆ!

ชั่วขณะหนึ่งเจ็ดค่ายทัพต่างสะท้านสะเทือน เกิดความฮือฮาปั่นป่วนเพราะข่าวนี้ไม่รู้เท่าไหร่

“หลินสวินนี่น่ากลัวขนาดนั้นจริงๆ หรือ ตัวคนเดียวก็สังหารมกุฎอริยะเจ็ดสิบคน ทัพใหญ่สองแสนกว่าคนก็ดับสิ้นจนหมด?”

ปฏิกิริยาแรกของคนมากมายก็คือ เป็นไปไม่ได้!

“ในดินแดนรกร้างโบราณ มีพวกกร้าวแกร่งเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างไร”

และมีคนตกใจแกมสงสัยไม่หยุด

“พ่ายแพ้ย่อบยับระดับนี้ ทำพวกเราเสียหน้ากันหมดชัดๆ แค้นนี้ต้องชดใช้ด้วยเลือด!”

คนจำนวนมากกว่ากลับเดือดดาลต่อเรื่องนี้ รู้สึกอัปยศอย่างยากจะบรรยาย

เมื่อก่อนพวกเขาพากันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลินสวินคือของใคร

และตอนที่โลกมารโลหิตประสบการโจมตีรุนแรง อริยะมากมายบาดเจ็บล้มตาย แม้แต่เมืองอารักษ์มรรคยังถูกคนผู้เดียวปิดล้อม หลินสวิน ชื่อนี้ถึงได้อยู่ในสายตาพวกเขาอย่างแท้จริง

แต่ก็แค่นี้เท่านั้น

สำหรับผู้แข็งแกร่งต่างดินแดนเหล่านั้น แม้ดินแดนรกร้างโบราณจะมีพวกร้ายกาจอย่างหลินสวินโผล่มาก็ยากจะเปลี่ยนสภาพการณ์ใดๆ ได้ ยังคงห่างชั้นไม่มีคุณสมบัติต้านทานพวกเขาอยู่ดี

แต่ใครก็ไม่อาจคาดถึง ว่าแค่เพราะหลินสวินเพียงคนเดียว ดินแดนรกร้างโบราณกลับต้านการบุกโจมตีของทัพใหญ่เจ็ดดินแดนเอาไว้ได้!

เขาคนเดียวก็กวาดล้างทัพใหญ่เจ็ดดินแดน พลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายชนะ!

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปชัดๆ ทำเอาผู้แข็งแกร่งต่างดินแดนเหล่านั้นล้วนหน้าเปลี่ยนสี รู้สึกใจไหวสั่น และรู้สึกอัปยศหาใดเปรียบ

ประกายคมของหลินสวินเด่นชัดเกินไป

ตั้งแต่เขามีชื่อในสมรภูมิเก้าดินแดน ก็เคลื่อนขวางต่อสู้ ไร้พ่ายทุกศึก

ไม่ว่าจะเป็นในโลกมารโลหิต ก็บุกสังหารสามหมื่นลี้ตลอดทาง ปิดล้อมเมืองด้วยตัวคนเดียว หรือจะเป็นในส่วนลึกของทะเลทรายที่สังหารเหล่ามกุฎอริยะ ช่วยชีวิตเซ่าเฮ่าจากคราวเคราะห์

หรือจะเป็นครั้งนี้ที่ใช้พลังแห่งตนพลิกเมฆคว่ำฝน สยบทัพใหญ่เจ็ดดินแดน ผลงานการต่อสู้นองเลือดที่เขาสร้างครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่ให้ผู้คนสะท้านไหวขวัญหนีได้อย่างไร

“หลินสวินนั่นแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่”

นี่คือข้อสงสัยภายในใจของผู้แข็งแกร่งต่างดินแดนมากมาย

“คิดฆ่าเจ้านั่น คาดว่ามีแต่ให้พวกสะท้านโลกอย่างแปดยอดนภาครามลงมือเท่านั้นแล้ว”

และมีคนวิเคราะห์อย่างใจเย็น

หลินสวินสังหารทัพใหญ่เจ็ดดินแดนครั้งนี้ ดูเหมือนพลังต่อสู้ไร้เทียบเทียม ความเป็นจริงกลับหยิบยืมพลังผนึกอริยมรรค มีแผนการเล่ห์กลประกอบอยู่มาก

พลังต่อสู้ที่แท้จริงของตัวเขา แม้จะแข็งแกร่งยิ่ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะประกาศตนว่าไร้ทัดเทียมในสมรภูมิเก้าดินแดนแห่งนี้!

“น่าชังนัก แพะสองขาดินแดนรกร้างโบราณที่เชือดสังหารได้ทุกเมื่อพวกนั้น ตอนนี้มีหลินสวินนี่เป็นที่พึ่งต้องได้ใจกันมาก คิดว่ามีคุณสมบัติมาท้าทายอำนาจพวกเราได้แล้วแน่ๆ”

คนมากมายต่างลอบกัดฟัน

“เฮอะ! นั่นเพราะพวกเขาไม่รู้จักความหวาดกลัว แค่หลินสวินคนเดียวก็คิดจะพลิกฟ้าหรือ เพ้อพก!”

“คอยดูเถอะ ความอัปยศครั้งนี้จะต้องเอาคืนเป็นสิบเท่าร้อยเท่าให้ได้! แพะสองขาอย่างไรก็เป็นแพะสองขา ยากจะเปลี่ยนแปลงฐานะ!”

เสียงดาลเดือดและเคียดแค้นดังขึ้นในค่ายทัพต่างๆ ไม่จบไม่สิ้น

แต่ไม่ว่าใครต่างไม่อาจปฏิเสธว่าหลินสวินแข็งแกร่งมาก เป็นพวกร้ายกาจที่สามารถทำให้พวกเขาให้หันมอง ถึงขั้นรู้สึกกริ่งเกรงคนหนึ่ง!

……

โลกมารโลหิต

เมืองอารักษ์มรรค ภายในหอชัยชนะ

สภาวะจิตของเหล่าคนใหญ่คนโตดินแดนโบราณมารโลหิตในเวลานี้แปลกประหลาดยิ่ง มีความรู้สึกเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก และรู้สึกละอายไม่สงบอย่างหนึ่งด้วย

เซวี่ยชิงอีขบคิดอยู่นานก่อนเอ่ยปากเนิบช้า

ครั้งนี้พลังที่หลินสวินสำแดงออกมาทำให้เขาเองก็ได้กลิ่นภัยคุกคามร้ายแรง โยนความเห็นแก่ตัวทิ้งไปไม่เอ่ยถึง การที่สามารถสังหารหลินสวินได้โดยเร็ว นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

ในความคิดเซวี่ยชิงอี ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณยังคงไม่ควรค่าแก่การให้ความสำคัญ มีแต่หลินสวินที่เป็นเสี้ยนหนามตำใจชิ้นใหญ่

ขอเพียงสามารถสังหารหลินสวินได้ ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณย่อมแตกสลายย่อยยับ ไม่เหลือภัยคุกคามให้พูดถึงอีกต่อไป!

น่าเสียดาย เซวี่ยชิงอีเองก็รู้ดีว่า การสังหารพวกร้ายกาจอย่างหลินสวินหาใช่เรื่องง่ายดาย

“หากค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณคิดจะต่อต้านพวกเราแปดดินแดน สิ่งที่ขาดมากที่สุดคืออะไร”

จู่ๆ เซวี่ยชิงอีก็เอ่ยขึ้น

ไม่รอให้ทุกคนเอ่ยปากเขาก็กล่าวต่อเองว่า “ก็คือจำนวนมกุฎอริยะ! อาศัยหลินสวินคนเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ เว้นแต่จะมีมกุฎอริยมากขึ้น พวกเขาถึงจะมีรากฐานพลังพอให้มาท้าทายอำนาจพวกเราได้”

กล่าวถึงตรงนี้เซวี่ยชิงอีอดยิ้มไม่ได้

“หากข้าเป็นหลินสวิน ในช่วงต่อจากนี้ต้องคิดหาวิธีโดยเร็วช่วยผู้แข็งแกร่งที่มีคุณสมบัติบรรลุมกุฎอริยะในค่ายทัพ ไขว่คว้าโอกาสบรรลุมกุฎอริยะอย่างแน่นอน!”

“และโอกาสของมกุฎอริยะ… ก็มีแต่ในแดนลับสนามแม่เหล็กที่จะมาเยือนอีกครึ่งปีให้หลังเท่านั้น ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณของเขาย่อมไม่อาจพลาด”

นัยน์ตาสีแดงฉานของเขาเจิดจ้าดุจดวงอาทิตย์ น่าสะพรึงหาใดเปรียบ “หากจะวางแผนฆ่าหลินสวิน นี่ก็คือโอกาสงามที่สุด!”

ทว่ากล่าวถึงตรงนี้เซวี่ยชิงอีก็ส่ายหน้าเบาๆ อีกครั้ง “แต่โอกาสเช่นนี้สุ่มเสี่ยงเกินไป หากแปดดินแดนร่วมแรงร่วมใจกันก็น่าจะสังหารเจ้าหลินสวินนี่ได้ แต่ถ้าหากปล่อยให้มันหนีรอด ผลที่ตามมาย่อมเป็นภัยครั้งใหญ่แน่นอน”

“ดังนั้นวิธีที่เหมาะที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่แดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน ให้เตรียมกำลังพลชั้นยอดของแปดดินแดนเข้าสู่แดนลับสนามแม่เหล็กพร้อมกัน สังหารคนที่มีคุณสมบัติบรรลุมกุฎอริยะของดินแดนรกร้างโบราณให้หมด!”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับกำจัดรากฐานพลังของดินแดนรกร้างโบราณที่จะใช้ต่อต้านพวกเราแปดดินแดน ถึงตอนนั้นอาศัยแค่มกุฎอริยะไม่กี่คนอย่างพวกหลินสวิน ย่อมไม่อาจเปลี่ยนแปลงสภาพพ่ายแพ้ได้อย่างแน่นอน”

เซวี่ยชิงอีเหยียดตัวเต็มความสูง สายตากวาดมองทุกคนแล้วกล่าวว่า

“จำไว้ ในช่วงนี้ก่อนที่แดนลับสนามแม่เหล็กจะมาเยือน ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณหน้าไหนโผล่มาในโลกมารโลหิต ให้ฆ่าทั้งหมด!”

“ไม่ว่าในอาณาเขตของพวกเราจะมีพวกมกุฎอมตะเคราะห์ด่านเก้าของดินแดนรกร้างโบราณโผล่มาหรือไม่ ยอมฆ่าผิดตัวนับพันดีกว่าปล่อยให้เล็ดลอดไปสักคน!”

“อีกอย่าง ใช้ชื่อของข้ากระจายข่าวนี้ไปยังเจ็ดดินแดนอื่น บอกว่าการจะทำลายดินแดนรกร้างโบราณ ต้องกำจัดบุคคลขอบเขตมกุฎแต่ยังไม่บรรลุอริยะพวกนั้นให้ได้ก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้พลังต่อสู้ของหลินสวินจะไร้เทียมทาน แต่ปรบมือคนเดียวยากจะเกิดเสียงดัง เมื่อเป็นเช่นนี้ดินแดนรกร้างโบราณต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”

“หากพวกผู้นำเจ็ดดินแดนไม่โง่ ก็น่าจะรู้ดีว่าต่อไปต้องปรับวิธีเคลื่อนไหวแบบไหน แน่นอน สุดท้ายพวกเขาจะฟังคำชี้แนะของข้าหรือไม่ ย่อมไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

กล่าวจบเขาก็เดินมือไพล่หลังออกจากโถงใหญ่ เงาร่างสูงองอาจมาดมั่น

การต่อสู้ที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เขาเซวี่ยชิงอี ช้าเร็วก็ต้องล้างความอัปยศที่ประสบมาทั้งหมดให้จงได้!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์