ตอนที่ 1579 สุนัขข้างถนน – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1579 สุนัขข้างถนน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
กระบี่แสนแปดพัน ทุกกระบี่ล้วนแปรเปลี่ยนเป็นไท่เสวียน!
ปราณกระบี่ทุกสายสามารถทำให้อริยะแท้ทุกคนสิ้นหวัง แล้วนับประสาอะไรกับปราณกระบี่หนึ่งแสนแปดหมื่นสายรวมกัน
สือพั่วไห่ได้ลิ้มรสการโจมตีนี้ในทันที ราวกับเรือโดดเดี่ยวที่อยู่กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล กำลังเผชิญการโหมกระหน่ำของลมพายุ และสามารถพบเจออันตรายที่จะถูกทำลายได้ทุกเมื่อ
ปังๆๆ!
ปราณกระบี่แน่นขนัดพรั่งพรู ปกคลุมสี่ด้านแปดทิศ สือพั่วไห่ต้านสุดกำลัง ทวนวงเดือนสีเงินในฝ่ามือแทบถูกซัดกระเด็น
พลังป้องกันทั้งบนล่างของเขาก็กำลังประสบการโจมตีของปราณกระบี่
เพียงชั่วพริบตาสีหน้าของเขาขาวซีดขึ้นมา อดไม่ไหวกระอักเลือดออกมา เขาพลันเรียกสมบัติมากมายออกมาคลี่คลายสถานการณ์อย่างไม่ลังเล
มีกระพรวนที่เหมือนหลอมจากหยกม่วงเป็นประกาย มีประทับใหญ่ที่สลักลายบุปผาปักษามัจฉาแมลง ต้นไม้ใบหญ้าภูเขาแม่น้ำ และมีคันฉ่องสมบัติที่มีแสงเรืองลุกโชนไหวเคลื่อน…
นี่เผยให้เห็นรากฐานพลังของบุคคลระดับผู้นำคนหนึ่งแล้ว ไม่เพียงแค่พรสวรรค์พิเศษ พลังต่อสู้ก็โดดเด่น และไม่ขาดสมบัติมหัศจรรย์และวิชามหามรรคอันแข็งแกร่งใดๆ
หลังจากเรียกสมบัติมากมายออกมาถึงได้ต้านการโจมตีปานพายุกระหน่ำของปราณกระบี่ไว้ได้ แต่ยังไม่ทันที่สือพั่วไห่จะโล่งอก
ฉัวะ!
ในฝ่ามือของหลินสวิน กระบี่ไม้ที่เก่าและเรียบง่ายเล่มหนึ่งทะยานออกมา ธรรมดาอย่างมาก มีเพียงตัวกระบี่ที่ประทับอักษร ‘บัญชา’ เต็มไปด้วยกลิ่นอายมรรคจักรพรรดิ
และเพราะอักษรนี้ ทำให้กระบี่ไม้ที่ดูเหมือนธรรมดาเล่มนี้แตกต่างไปโดยสมบูรณ์!
ตอนที่เห็นกระบี่นี้ สือพั่วไห่ตกใจจนหนังหัวชาวาบ ตะโกนว่า “กระบี่จักรพรรดิอักษรบัญชา นี่คือสมบัติไม้ตายของเจี้ยนชิงเฉิน ไปอยู่ในมือเจ้าได้อย่างไร หรือว่า…”
เขาคาดเดาได้ถึงความเป็นไปได้บางอย่าง!
และความเป็นไปได้เช่นนี้ก็ทำให้สือพั่วไห่ไม่สามารถสงบได้อย่างสิ้นเชิง
เพียงแต่ไม่รอให้เขาดิ้นรนในฝนกระบี่แน่นขนัดนั่น ริมฝีปากของหลินสวินก็พ่นคำหนึ่งออกมา
“ไป!”
กระบี่ไม้ทะยานฟ้าส่งเสียงกึกก้องออกไป
บนกระบี่อักษรบัญชาอบอวลแสงอันคลุมเครือ ราวกับเทพองค์หนึ่งฟื้นคืนชีพจากในนั้น ทำให้ห้วงอากาศยังรับไม่ไหว ระเบิดโดยตรง!
“พิโรธ!”
สือพั่วไห่จะยอมนั่งรอความตายได้อย่างไร เขาราวกับมารที่บ้าคลั่ง แม้แต่ดวงตายังแดงก่ำ ใช้วิธีปกป้องชีวิตตนอย่างไม่ลังเลสักนิด
นั่นเป็นบาตรทองม่วงใบหนึ่ง ทะลวงฟ้าขึ้นมาประชันกับกระบี่ไม้
ตูม!
แผ่นดินสะเทือนภูผาสั่นคลอน พื้นดินฝั่งนี้ล้วนถูกซัดจมลงอย่างสมบูรณ์ น้ำทะเลที่ราวกับเดือดพล่านท่วมทับ ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่มากมาย
ครู่ต่อมาก็เห็นสือพั่วไห่จมดิ่งลงโดยพลัน ร่วงตกลงในน้ำทะเลอย่างแรง เจ็ดทวารหลั่งเลือด กล้ามเนื้อทั่วร่างฉีกแตก เลือดอาบนอง
หลังจากฮว่าหงเซียว สือพั่วไห่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสตามไปอีก!
ทุกอย่างพูดเหมือนช้า ความจริงจบลงแทบจะในชั่วพริบตา เร็วจนเหลือเชื่อ
แต่อีกฝั่งเซวี่ยชิงอีเองก็ถูกโจมตีจนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก สภาพย่ำแย่อย่างที่สุด
ดาบหักราวกับมายาไม่แน่วนิ่ง และไม่อาจคาดเดาได้ ไม่สามารถถูกจับตำแหน่งได้ แต่ทุกการโจมตีที่เผยออกไป แม้ถูกเซวี่ยชิงอีสกัดกั้นไว้ได้แต่ก็ทำให้เขาถูกสะเทือนรุนแรง เอ็นกระดูกทั่วร่างชาวาบ เลือดลมพลิกตลบ ทรมานอย่างที่สุด
นี่ก็คือกระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้
ผู้ไม่เที่ยง ล่องลอยไม่นิ่ง สามารถสังหารเทพผี!
กระทั่งเห็นสือพั่วไห่บาดเจ็บหนัก เซวี่ยชิงอีเองก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัว สีหน้าตกตะลึง
กระบี่จักรพรรดิอักษรบัญชา!
เซวี่ยชิงอีจะไม่รู้ว่าเจ้าของเดิมของสมบัตินี้เป็นใคนได้อย่างไร
พอนึกถึงความเป็นไปได้ที่เจี้ยนชิงเฉินแห่งดินแดนโบราณต้าหลัวอาจจะประสบเคราะห์ไปแล้ว ก็ทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“เหลือเวลาไม่มากแล้ว จะส่งพวกเจ้าลงนรกเดี๋ยวนี้!”
หลินสวินในตอนนี้อานุภาพแข็งแกร่งถึงที่สุด พุ่งพรวดเข้าไป กระบี่ยอดสังหารทะยานขึ้น ฟันปราณกระบี่สายหนึ่งออกมาโดยพลัน
ไปไร้หวน!
สิ่งที่จักรพรรดิสงครามอู๋ยางเรียนรู้มาทั้งชีวิต ทั้งหมดล้วนเป็นกระบวนท่ากระบี่นี้ แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินใช้กระบี่ยอดสังหารสำแดงออกมา
ก็เห็นปราณกระบี่สีเลือดสายหนึ่งทะลวงอากาศ ราวกับนายเหนือหัวหมื่นกระบี่ เต็มไปด้วยพลานุภาพที่ไร้ความหวังไม่อาจเดินหน้า และไร้เทียมทาน
“ฆ่า!”
เซวี่ยชิงอีถูกดาบหักตามพัวพันแต่แรก ไม่อาจสลัดหลุด พอเห็นภาพนี้ก็บ้าคลั่งโดยสิ้นเชิง เริ่มสู้สุดชีวิต
ยันต์ที่สายฟ้าสีเลือดพันรอบถูกเขาเรียกออกมา กลิ่นอายทำลายล้างสะเทือนฟ้าดินสายหนึ่งแผ่ตามออกมา ราวกับเทพสายไฟลงมาเยือนโลกอย่างไรอย่างนั้น
นี่คือวิธีปกป้องชีวิตของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ตูม!
พริบตานั้นทั้งสองปะทะกัน คลื่นทำลายล้างแผ่พุ่งออกไปเป็นวงกว้างประหนึ่งผืนมหาสมุทร ฟ้าดินล้วนขาวโพลน ปรากฏภาพปั่นป่วนอลหม่าน
เหล่าอริยะแท้ที่รวมตัวเป็นค่ายกลศึกสวรรค์ดำเนินซึ่งอยู่ห่างไปจำต้องต้านเต็มกำลัง กว่าจะสามารถสลายคลื่นทำลายล้างอันน่ากลัวนี้ได้
ส่วนผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่หลบอยู่ในกระบวนค่ายกลก็ทรมานไม่แท้กัน เพราะกระบวนค่ายกลถูกโจมตี กำลังโคลงเคลง!
สุดท้ายเซวี่ยชิงอีกระอักเลือดถอยไปก้าวใหญ่ แม้แต่ร่ากายยังกระตุกรุนแรง ใบหน้างามขาวซีดราวกับกระดาษ
จนถึงตอนนี้ผู้นำทั้งสามต่างบาดเจ็บสาหัสแล้ว!
คนหนึ่งถูกขวดมหามรรคไร้ขอบเขตโจมตีจนยับเยิน อีกคนถูกกระบี่จักรพรรดิอักษรบัญชาเอาชนะ คนสุดท้ายถูกหลินสวินใช้กระบวนท่ากระบี่ไปไร้หวนโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส
ทั้งหมดใช้เวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น แต่พลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยออกมา รวมทั้งอานุภาพผงาดกร้าวที่กลืนกินสรรพทิศทำเอาทั้งที่นั้นสะท้านขวัญไปด้วย
นี่ยังใช่คนอยู่หรือไม่
คนนับไม่ถ้วนอกสั่นขวัญแขวน เผยสีหน้าสิ้นหวังออกมา
เริ่มแรกตอนที่ประมือกัน พวกเขาไม่เกรงกลัวเพราะมีที่พึ่ง วางกระบวนค่ายกลที่กว้างใหญ่เข้มงวด คิดเอาเองว่าการสังหารหลินสวินเป็นเรื่องง่าย
แต่ความเป็นจริงกลับตบหน้าพวกเขาอย่างแรงไปหลายที!
มกุฎอริยะสามสิบคนเข้าประจัญบานพร้อมกัน แต่กลับถูกสังหารแทบไม่เหลือสภาพ
มกุฎอริยะกว่าร้อยคนร่วมทัพออกโจมตี ทว่ายังไม่ทันเผยอานุภาพก็ถูกขังในกระบวนค่ายกลใหญ่แล้ว จนกระทั่งสุดท้ายมีเพียงยี่สิบกว่าคนที่อยู่รอด
ยิ่งไปกว่านั้นแม้สู้สุดชีวิต ต่อให้สุดท้ายจะชนะ ก็เป็นได้แค่ชัยชนะอันน่าอนาถ ไม่เพียงไม่ได้รับประโยชน์ ยังมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะทำให้ตนบาดเจ็บสาหัส ได้ไม่คุ้มเสีย
แต่ถ้าแพ้ ท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้รับประโยชน์ก็มีแต่พวกคุนเซ่าอวี่ จู๋อิ้งคง เลี่ยเฉียนและชืออู๋ซู่เท่านั้น
หากเป็นเช่นนี้ แม้ตายไปเซวี่ยชิงอีก็ไม่จำยอม!
และชั่วขณะนี้เองที่เซวี่ยชิงอีได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
ถอย!
เขาเด็ดขาดกว่าพวกฮว่าหงเซียว สือพั่วเทียน ไม่สนใจเหล่าอริยะแท้ที่รวมตัวเป็นค่ายกลศึกสวรรค์ดำเนินสักนิด
ส่วนผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่หลบอยู่ในกระบวนค่ายกล เขายิ่งไม่สนใจ ล้วนเป็นพวกที่ยังไม่บรรลุอริยะ ตายไปก็ช่างปะไร
“หลินสวิน เจอกันคราวหน้าข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
ในเสียงตะคอกเซวี่ยชิงอีด่าทอ จากนั้นเรียกมุกที่เลือดอาบเม็ดหนึ่งออกมา
ตูม!
มุกเลือดระเบิดออก พลังเทียมฟ้าท่วมท้นพื้นดิน กระแสอากาศนองเลือดอาละวาด ทำเอาหลินสวินยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ พลันสะบัดแขนเสื้อถึงจะสลายกระแสอากาศอันนองเลือดนั่นได้
ส่วนเงาร่างของเซวี่ยชิงอีหายไปอย่างไร้ร่องรอยนานแล้ว
“ฉลาดจริง”
หลินสวินถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง ไม่ได้ไล่ตามโจมตี
เพราะเวลาไม่เอื้ออำนวย สถานการณ์ก็ไม่เอื้อ มาครั้งนี้เป้าหมายสูงสุดไม่ใช่การเข่นฆ่าแต่แรกอยู่แล้ว หากแต่เป็นการคุ้มครองบรรดาบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณเข้าสู่แดนลับสนามแม่เหล็ก
และตอนนี้ ทางเข้าของแดนลับสนามแม่เหล็กกำลังจะปรากฏโดยสมบูรณ์แล้ว
สำหรับพวกเซวี่ยชิงอี… บางทีอาจจะสามารถรอดได้ในชั่วขณะ แต่ก่อนที่การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนจะสิ้นสุดลง ก็ถูกกำหนดให้หนีไม่พ้นแม้แต่คนเดียว!
ตอนนี้คนอื่นๆ ในที่นั้นต่างอึ้งงันไปหมด คิดไม่ถึงว่าเซวี่ยชิงอีจะหนีตามไปติดๆ
และยังทิ้งพวกเขาไว้โดยตรง!
คิดถึงตรงนี้อริยะแท้เหล่านั้นก็อยากสบถด่าขึ้นมา ความรู้สึกของการถูกทอดทิ้งจะดีได้อย่างไร
โดยเฉพาะเหล่าผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิต แต่ละคนล้วนราวกับสูญเสียบุพการี ในใจสิ้นหวังไปหมด
เซวี่ยชิงอีเป็นถึงผู้นำของพวกเขาเชียวนะ
แต่ตอนนี้กลับทอดทิ้งพวกเขา!
เวลานี้บรรยากาศในที่นั้นเงียบกริบ ทุกคนต่างสีหน้ามืดทะมึน อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าเรื่องน่าสุดที่สุดคือคนไร้ปณิธาณ ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้ว
บุคคลระดับผู้นำอย่างพวกเซวี่ยชิงอี สือพั่วไห่ ฮว่าหงเซียว ต่างเลือกหนีไปเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ แรงจู่โจมนี้หนักหน่วงเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“ดูท่าไม่ต้องใช้เวลาหนึ่งก้านธูป ก็สามารถตัดสินแพ้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ได้แล้ว”
หลินสวินยิ้ม ดวงตาดำราวกับสายฟ้า กวาดมองเหล่าอริยะแท้ที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นก้าวย่างไปข้างหน้า
วันนี้เขาพูดไว้แล้วว่าจะขวางศัตรูแปดดินแดนทุกคนไม่ให้เข้าแดนลับสนามแม่เหล็ก แน่นอนว่าต้องทำให้ได้อย่างที่พูด!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์