Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1578

สรุปบท ตอนที่ 1578 พลังกดดันสามยอด: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1578 พลังกดดันสามยอด จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1578 พลังกดดันสามยอด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ศรเดียว!

สังหารเจ็ดคน บาดเจ็บหนักสิบหกคน ที่เหลืออีกหกคนบาดเจ็บเล็กน้อย ภาพอันนองเลือดระดับนี้ทำเอาทั้งที่นั้นตื่นตะลึง สีหน้าเปลี่ยนกันถ้วนทั่ว

กระบวนค่ายกลสลายไปแล้ว เดิมทีความสูญเสียก็หนักหน่วงพอแล้ว ไม่คิดว่าศรนี้ของหลินสวินจะฟาดใส่กลางศีรษะพวกเขาอีกที!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือพลังทำลายล้างที่ศรนี้สำแดงออกมา ทำให้พวกเซวี่ยชิงอีขนลุกซู่ แทบไม่กล้าเชื่อ

นี่เป็นคันธนูกับศรระดับใด ถึงได้ครอบครองพลังสังหารเย้ยฟ้าเช่นนี้

วู้ม!

และในบรรยากาศที่เงียบเชียบเช่นนี้ หลินสวินยกคันธนูขึ้นอีกครั้ง วางศรนิรันดร์ที่มีประกายแสงสีฟ้าเข้มบนคันธนูสีแดงสดแล้วง้างออก

เสียงฟ้าร้องที่คุ้นเคยดังก้องขึ้นในที่นั้นอีกครั้ง

“ลงมือ!”

เซวี่ยชิงอีตะโกน

อริยะแท้ห้าร้อยกว่าคนที่รวมตัวและแปรเปลี่ยนเป็น ‘ค่ายกลศึกสวรรค์ดำเนิน’ โจมตีพร้อมกันอย่างไม่ลังเลสักนิด

ตูม!

ก็เห็นปราณกระบี่ยิ่งใหญ่ปรากฏกลางอากาศ ฟันผ่าลงมากะทันหัน คมกระบี่ชี้ไปที่หลินสวิน

ดวงตาดำของหลินสวินหดรัดลงทันที รู้สึกถึงแรงกดดันที่ปะทะเข้ามา แม้แต่ผิวหนังยังเจ็บแปลบ ในใจก็อดตะลึงไม่ได้ เป็นค่ายกลศึกที่แข็งแกร่งจริงๆ!

ทว่าแม้ในใจจะคิดเช่นนี้เขาก็ไม่หยุดการกระทำสักนิด ศรนิรันดร์ที่สั่งสมพลังเต็มเปี่ยมแล้วเปลี่ยนเป้าหมายโดยพลัน พุ่งปราดออกไปปะทะปราณกระบี่ยิ่งใหญ่ที่ผ่าฟันลงมา

ตูม!

เสียงกึกก้องปานฟ้าถล่มดินทลายดังขึ้น ศรนิรันดร์ลากเพลิงสีฟ้าเข้มที่ลุกโชนเข้าปะทะกับปราณกระบี่ยิ่งใหญ่กลางอากาศ เกิดระลอกคลื่นแผ่กระจาย ทำเอาห้วงอากาศ ผิวทะเล และพื้นดินบริเวณนั้นพังทลายล่มจม

เสียงปังดังขึ้นคราหนึ่ง สุดท้ายปราณกระบี่ไพศาลนั่นทรุดทลาย แต่ในเวลาเดียวกันศรนิรันดร์ก็ถูกขวางสะเทือนถอย

เงาร่างของหลินสวินสั่นไหว เลือดลมพลิกตลบ

“เจ้าหมอนี่ถึงกับต้านการโจมตีของค่ายกลศึกสวรรค์ดำเนินไว้ได้หรือ”

เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้น

นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจเกินไปจริงๆ ควรรู้ว่าการโจมตีที่รวมไว้ในค่ายกลศึกนี้ แม้แต่มหาอริยะยังไม่กล้าประชัน แต่หลินสวินกลับต้านไว้ได้!

หลินสวินแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ “แม้อานุภาพของค่ายกลศึกจะแข็งแกร่ง แต่แตะเพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลต่อภาพรวม ไม่ควรค่าให้กังวล”

ตอนที่พูดเขาสะบัดแขนเสื้อเก็บธนูวิญญาณไร้แก่นสาร กระบี่ยอดสังหารปรากฏออกมาอีกครั้ง จากนั้นเงาร่างเขาพริบไหว พุ่งทะยานโจมตีออกไป

เขาเห็นแล้วว่าภายในครึ่งเค่อ เหนือบริเวณผืนทะเลที่อยู่ห่างไป ทางเข้าของแดนลับสนามแม่เหล็กจะปรากฏโดยสมบูรณ์แล้ว

ซึ่งก็หมายความว่า ตอนนี้ห่างจากเวลาหนึ่งก้านธูปเพียงครึ่งเค่อแล้ว!

หลินสวินตัดสินใจทะลวงเข้าไปเต็มกำลังแล้ว

“ฆ่า!”

เห็นภาพนี้ฮว่าหงเซียวที่เย็นชาเย่อหยิ่งพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก ไอสังหารเดือดพล่านที่ข่มไว้ในส่วนลึกของหัวใจมานานปะทุอย่างสิ้นเชิง

ฉัวะ!

ในฝ่ามือเขา ดาบศึกแคบยาวและเจิดจ้าดั่งหิมะนั่นโฉบพุ่ง ฟ้าดินราวกับกระดาษ ถูกฉีกกระชากออกในคราเดียว ปราณดาบดุร้ายไร้ที่เปรียบนั่น เพียงพอให้ฟ้าดินตะลึงเทพผีร่ำไห้

ร่างของหลินสวินพริบไหว กระบี่ยอดสังหารแทงในแนวเฉียงก่อกวนหยินหยาง ปะทะปราณดาบของอีกฝ่ายดังปัง ราวกับสุริยันจันทราพุ่งชน เกิดเสียงระเบิดสะเทือนหู

ร่างของฮว่าหงเซียวชะงักไป นัยน์ตาหดรัดลง พอประมือกับหลินสวินจริงๆ เขาถึงได้รู้ว่าพลังต่อสู้ของศัตรูคนนี้น่ากลัวเพียงใด

“ฟัน!”

สือพั่วไห่โจมตีมาแล้ว เขากำทวนวงเดือนสีเงินที่ลุกโชนอย่างที่สุด ทั้งร่างอาบอยู่ในประกายดวงดาวสีเงินยวง ราวกับเทพสงครามดารา

ทวนวงเดือนฟันออกไป พลังกฎเกณฑ์อริยมรรคที่น่ากลัวพลังราวกับธารดาราท่วมทับ ปูแผ่เต็มฟ้าดิน น่ากลัวถึงขีดสุด

ชิ้ง!

ดาบหักโฉบออกจากร่างหลินสวิน เข้าประชันกับทวนวงเดือน พริบตาเดียวก็ปะทะกันหลายสิบครั้งแล้ว เพลิงศักดิ์สิทธิ์ระเบิด เสียงสะเทือนเก้าชั้นฟ้า

ส่วนหลินสวินใช้กระบี่ยอดสังหารต่อสู้อย่างดุเดือดกับฮว่าหงเซียวที่โจมตีมาอีกครั้ง

หลินสวินในตอนนั้นกร้าวแกร่งและผงาดผยองถึงขีดสุด ตัวคนเดียวต่อสู้กับบุคคลระดับผู้นำของสองดินแดน ทั้งไม่เสียเปรียบสักนิด

ภาพนี้ทำเอาทั้งที่นั้นตะลึงอีกครั้ง ราวกับเห็นเทพ!

ในสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ บุคคลแห่งยุคระดับแปดยอดนภาครามก็คือตัวแทนของพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ละคนนำค่ายทัพดินแดนหนึ่ง ชื่อเสียงกึกก้อง อานุภาพปานฟ้า

แต่ตอนนี้หลินสวินคนเดียวกลับต้านการเข่นฆ่าของบุคคลระดับผู้นำสองคนได้!

ยามผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่หลบอยู่ในกระบวนค่ายกลเห็นภาพนี้ ลูกตาแทบหลุดออกมา แต่ละคนตะลึงร้องจนเสียงหลง

ตูมโครมโครม!

ทั้งสามต่อสู้กันอย่างดุเดือด สู้จากท้องฟ้าลงมายังพื้นดิน ราวกับมังกรปะทะเสือ สุริยันประชันแสง ความรุนแรงของพลังที่สำแดงออกมา ทำเอามกุฎอริยะที่อยู่ห่างไปไม่สามารถแทรกแซงได้

ห่างออกไปดวงตาคู่งามของจ้าวจิ่งเซวียนเปล่งประกาย จ้องเงาร่างที่กล้าหาญสะท้านโลก ในใจอนุมานเงียบๆ

‘ขอเพียงโจมตีพวกเซวี่ยชิงอีสามคนสำเร็จ ทำลายค่ายกลศึกนั่น คนอื่นก็ไม่ต้องกังวลแล้ว การต่อสู้นี้ก็เท่ากับตัดสินแพ้ชนะได้แล้ว’

‘เพียงแต่ทางเข้าของแดนลับสนามแม่เหล็กกำลังจะมาเยือนแล้ว เวลากระชั้นชิดไม่น้อย…’

ตอนที่กำลังใคร่ครวญอยู่ก็เห็นเซวี่ยชิงอีที่อยู่ห่างไปส่งเสียงคำรามยาวออกมากะทันหัน เงาร่างก้าวย่างกลางอากาศพุ่งเข้าสนามรบ!

ดวงตาของจ้าวจิ่งเซวียนจ้องเขม็งทันที

“หลินสวิน ใกล้ถึงเวลาแล้ว เจ้ายังไม่ยอมแพ้อีกหรือ”

ท่ามกลางเสียงตะคอก เซวี่ยชิงอีสะบัดแขนเสื้อ กระถางใหญ่ที่ประหนึ่งหลอมจากหินหยกสีเลือดปรากฏกลางอากาศ กำราบลงมา

นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นสมบัติอริยะที่แปลกประหลาดอย่างที่สุดชิ้นหนึ่ง ตัวกระถางประทับสัญลักษณ์เทพมารมากมาย กลิ่นอายที่แผ่ออกมาดุร้ายอย่างที่สุด

พร้อมกับการโจมตีที่ร่วงลู่ลงมานี้ ราวกับเทพมารนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา โจมตีเข้าใส่หลินสวินพร้อมกัน

“ยังเหลืออีกครึ่งเค่อ รีบร้อนอะไร รีบไปเกิดใหม่หรือ”

หลินสวินสีหน้าเย็นเยียบ โคจรวิชาทั้งหมดรอบตัว ปลดปล่อยนัยน์เร้นลับแห่งไตรมรรครวมเป็นหนึ่งออกมาอย่างไม่กักเก็บสักนิด

ตูม!

ชั่วขณะนี้กลิ่นอายรอบตัวเขายกระดับขึ้น พลังปราณ พลังกาย และจิตวิญญาณหลอมรวมเป็นเตาเดียว เปล่งแสงสว่างไสวไปทั่วทั้งตัว

ดาบนี้นามว่า ‘นรกสังหาร’ สืบทอดมายาวนาน ใครก็ตามที่ถูกดาบนี้ฟาดฟัน จิตวิญญาณจะถูกกำราบเข้าไปในคมดาบ ได้รับความทรมานปานตกนรกชั่วชีวิต โหดเหี้ยมและดุร้ายอย่างที่สุด

แต่ก้เป็นในตอนนี้ที่ฮว่าหงเซียวรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

ในดวงตาดำของหลินสวินเย็นชาลุ่มลึก ไม่เพียงไม่ลนลาน กลับเหมือนรอการมาเยือนของเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น…

จากนั้นฮว่าหงเซียวก็เห็นขวดหยกมันแพะขนาดไม่กี่ชุ่นใบหนึ่งปรากฏในฝ่ามือหลินสวิน

“นี่มัน…”

ฮว่าหงเซียวแข็งทื่อไปทั้งตัวทันที สัมผัสได้ถึงภัยคุมคามที่อันตรายถึงชีวิตตามสัญชาตญาณ

แต่เขาหนีไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงฝืนต้านเต็มกำลัง

ฉัวะ!

ในขวดมหามรรคไร้ขอบเขต ปราณกระบี่สายหนึ่งโฉบพุ่งออกไป สำแดงนัยเร้นลับแห่ง ‘ไปไร้หวน’ เฉียบคมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไร้ซึ่งพันธการใดๆ

ตูม!

ภายใต้การปะทะปานสะเทือนฟ้าดิน ฮว่าหงเซียวถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปโดยตรง แม้เขาจะต้านเต็มที่แล้วก็ยังไม่มีประโยชน์

ร่างเขาแหลกเละไม่เหลือสภาพ เนื้อเลือดปะปน สองแขนมีกระดูกขาวโผล่ออกมา โดยเฉพาะตรงหน้าอก คันฉ่องปกป้องหัวใจที่เดิมปกคลุมอยู่ตรงนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปหมด เผยให้เห็นหลุมเลือดหลุมหนึ่ง

หากไม่ใช่เพราะเขาหลบทัน การโจมตีนี้ก็สามารถพรากชีวิตเขาได้แล้ว!

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไวเกินไป ทำให้ตอนที่เซวี่ยชิงอีและสือพั่วไห่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่างก็แข็งทื่อไปทั้งตัว สูดหายใจหนาวเหน็บ หน้าถอดสีทันที

การโจมตีเดียวก็ทำให้ฮว่าหงเซียวบาดเจ็บหนักแล้วหรือ!?

หากพวกเขารู้ว่า ตอนนั้นเจี้ยนชิงเฉินเองก็บาดเจ็บสาหัสจนสิ้นชีพจากการโจมตีนี้ ก็คงไม่ประหลาดใจเช่นนี้แล้ว

ตูม!

และฉวยโอกาสนี้ หลินสวินออกลงมือแล้ว ในร่างที่สง่างามพลันปรากฏปราณกระบี่ไท่เสวียนปกคลุมฟ้าดิน แผ่กว้างไพศาล ดุจดั่งมหาสมุทรปราณกระบี่ปรากฏออกมา

ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นก็ปกคลุมมาทางสือพั่วไห่

กระบี่แสนแปดพัน!

ส่วนดาบหักของหลินสวินก็สำแดงพลังมรดก ‘ปฐม’ ‘ยอด’ ‘สังหาร’ ทั้งสามออกมา รวมกับพลังที่ไตรมรรครวมเป็นหนึ่งของหลินสวิน ฟันกระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้ออกมา

เป้าหมายคือเซวี่ยชิงอี

หลินสวินในตอนนี้ไม่มีออมมือใดๆ ปลดปล่อยถึงขีดสุด ระเบิดพลังของตนออกมาในที่นั้น

“สมควรตาย! เจ้าหมอนี่เก็บซ่อนพลังไว้ลึกล้ำมาก!”

สือพั่วไห่หน้าเปลี่ยนสีครั้งใหญ่ ต่อต้านอย่างเต็มกำลัง

อีกฝั่งเซวี่ยชิงอีเองก็นัยน์ตาหดรัด ลงมืออย่างเต็มกำลังโดยไม่อาจสนใจสิ่งอื่น เร่งเร้าพลังของตนจนถึงขีดสุด

“การต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะกันในตอนนี้!”

จ้าวจิ่งเซวียนที่อยู่ห่างไปมองออกตั้งแต่แวบแรกแล้วว่า สถานการณ์มาถึงช่วงสำคัญแล้ว

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์