Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1583

สรุปบท ตอนที่ 1583 โฉมสะคราญพาอิ่มเอม: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1583 โฉมสะคราญพาอิ่มเอม จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1583 โฉมสะคราญพาอิ่มเอม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัว

ในเมืองอารักษ์มรรคอันใหญ่โต คนใหญ่คนโตจากเผ่าใหญ่ต่างๆ มารวมตัวล้อมอยู่หน้าตำหนักที่เดิมเป็นของเจี้ยนชิงเฉิน

ทุกคนต่างเดือดดาล!

ยามข่าวการตายของเจี้ยนชิงเฉินแพร่กลับมา ทั้งค่ายทัพโบราณต้าหลัวก็เหมือนผึ้งแตกรัง ไม่มีใครทำใจเชื่อเรื่องนี้ได้

ดังนั้นพวกเขาจึงมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย ต้องการคำอธิบายจากฉินเซียวเซิงที่คุมอำนาจในค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวในปัจจุบันแทบจะทันที!

ภายในตำหนัก ฉินเซียวเซิงสีหน้าคล้ำเขียว จิตสังหารน่าหวาดหวั่นแผ่ออกมาทั่วกาย

ปึง!

โต๊ะตั่งเบื้องหน้าเขาระเบิดกระจุยดังลั่น

ฉินเซียวเซิงเก็บกลั้นจิตสังหารในใจไว้ไม่อยู่แล้ว คำรามขึ้นว่า “พวกสวะ สืบหามานานขนาดนี้ดันสืบไม่ได้ว่าเรื่องนี้เป็นหลินสวินคนนั้นทำ! ตอนนี้เป็นอย่างไร ทั้งใต้หล้ายังรู้เร็วกว่าพวกเราว่าฆาตกรเป็นใคร!”

ในตำหนักยังมีบุคคลขอบเขตมกุฎอยู่บ้าง เป็นบริวารรู้ใจของฉินเซียวเซิง พวกเขารู้ความจริงชัดแจ้ง เดิมนึกว่าจะปิดบังข่าวการตายของเจี้ยนชิงเฉินเช่นนี้ไปได้ตลอด

จะคิดได้อย่างไรว่าผู้ร้ายอย่างหลินสวินกลับแจ้นออกมาเองเสียแล้ว!

ตอนนี้ทั้งค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวต่างตกอยู่ในความสั่นสะเทือน โกลาหลกันไปหมด

“ผู้อาวุโสฉิน ด้านนอกยังมีคนจำนวนมากรอคอยท่าทีของท่านอยู่ขอรับ”

มีคนเอ่ยเสียงค่อย

ฉินเซียวเซิงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ฝืนเก็บกลั้นความโกรธในใจเอาไว้แล้วลุกขึ้นยืน เดินออกไปนอกตำหนักด้วยสีหน้าแน่วแน่

เรื่องนี้ไม่อาจปกปิดได้แล้ว ยิ่งผัดออกไปนานก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ของค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวยิ่งโกลาหล

ต้องตัดสินใจแล้ว

ฉินเซียวเซิงคิดถ้อยคำไว้แล้ว เจ้าหลินสวินไม่ได้ยอมรับว่าเป็นคนลงมือหรอกหรือ เช่นนั้นก็รอรับความแค้นกับไฟโทสะจากทั้งค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวเถอะ!

……

วันนี้ในดินแดนโบราณต้าหลัวมีข่าวกระจายออกมา ยืนยันข่าวการตายของเจี้ยนชิงเฉิน ทันใดนั้นดินแดนใหญ่ต่างๆ ก็สะเทือนกันหมด!

“บุคคลแห่งยุคอย่างเจี้ยนชิงเฉิน… ถึงกับตายแล้วจริงๆ!”

“การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนในอดีตไม่เคยมีเรื่องอย่างบุคคลระดับผู้นำเสียชีวิตมาก่อน คิดไม่ถึงว่าคราวนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝัน”

“ฆ่าเจี้ยนชิงเฉินโดยไม่มีใครรู้ใครเห็น หลินสวินคนนี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว ไอ้หมอนี่เรียกได้ว่าเป็นศัตรูยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของแปดดินแดนไปแล้ว!”

เสียงที่ปนเปไปด้วยความตื่นตะลึง ประหลาดใจและหวาดหวั่นดังขึ้นในค่ายทัพดินแดนต่างๆ

วันนี้ชื่อของหลินสวินก็เหมือนมหาคีรีหนักอึ้งหาใดเทียบลูกหนึ่ง ทับอยู่บนอกของผู้แข็งแกร่งทุกคนในแปดดินแดน

พลานุภาพมหาศาลของเขากดทับไปทั้งสมรภูมิเก้าดินแดน ไม่เป็นรองผู้ใดในยุค!

……

‘ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ก็น่ารับปากเซวี่ยชิงอีไป…’

ในค่ายทัพดินแดนโบราณขุมอุดร คุนเซ่าอวี่นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่

เมื่อได้รู้ข่าวว่าพวกเซวี่ยชิงอีพ่ายแพ้ย่อยยับและเจี้ยนชิงเฉินตายไป เขาไม่ได้มีความสุขที่ผู้อื่นรับเคราะห์ เพียงรู้สึกเศร้ากับความตายของพวกเดียวกัน

ในส่วนลึกของจิตใจ ถ้าบอกว่าไม่เสียใจคงเป็นเรื่องโกหก

……

“ดูท่าเซวี่ยชิงอีจะพูดถูก ข้าประเมินหลินสวินต่ำไปแล้ว เพียงแต่ใครจะไปคิดได้ว่าดินแดนรกร้างโบราณจะถึงกับมีคนร้ายกาจเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้น”

ค่ายทัพดินแดนโบราณจิ่วหลี ชืออู๋ซู่สีหน้าแปรผันไม่หยุด ครู่ใหญ่ก็ถอนหายใจยาวอย่างอดไม่ได้

เขารู้ว่ายามแดนลับสนามแม่แหล็กมาเยือน หากรับคำแนะนำของเซวี่ยชิงอี ด้วยการร่วมมือกันของบุคคลระดับผู้นำทั้งแปดดินแดนต้องฆ่าหลินสวินได้แน่

ที่น่าเสียดายก็คือพลาดโอกาสงามเช่นนี้ไปแล้ว

……

‘ต่อแต่นี้ไป ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณจะต้องกวาดล้างขุมอำนาจ ผงาดขึ้นอย่างแข็งกร้าว ที่ต้องกลัวเป็นพิเศษก็คือหลินสวินนี่!’

ดินแดนโบราณเพลิงสวรรค์ เลี่ยเฉียนดวงตาเปล่งประกายลุกโชน เขารับรู้ได้ว่าสถานการณ์ทั้งสมรภูมิเก้าดินแดนเปลี่ยนไปแล้ว

หากไม่สังหารหลินสวิน ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณจะไม่อาจถูกเหยียบย่ำทำลายได้อีก!

‘ไม่แน่บางที สมรภูมิเซียนเหินอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว…’

เลี่ยเฉียนกำมือแน่นอยู่เงียบๆ

……

“ไอ้โง่ไร้สมองฝูงหนึ่ง! หากไม่ใช่เพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะร่วมกันเคลื่อนไหว นิ่งเฉยดูดาย จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร ตอนนี้เป็นอย่างไร ค่ายทัพใหญ่สามค่ายอย่างดินแดนโบราณมารโลหิตของข้า ดินแดนโบราณหม่อนบูรพา และดินแดนโบราณอสูรดาวบาดเจ็บล้มตายกันหมด ส่วนดินแดนรกร้างโบราณของอีกฝ่ายกลับถือโอกาสนี้ผงาดขึ้น!”

“ตอนนี้ต่อให้สารเลวอย่างเลี่ยเฉียนกับชืออู๋ซู่จะเสียใจ… ก็สายไปแล้ว!”

โลกมารโลหิต ในห้องโถงใหญ่ชั้นเก้าของหอชัยชนะ เซวี่ยชิงอีผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าเหี้ยมเกรียม ส่งเสียงดังลั่นดุจอสนีบาต สีหน้าเต็มไปด้วยความแค้นที่ไม่ปิดบังสักนิด

ความพ่ายแพ้ย่อยยับคราวนี้ ดินแดนโบราณมารโลหิตของเขาเสียหายรุนแรงยับเยินมากที่สุด!

ไม่เพียงมีมกุฎอริยะหลายสิบคนกับอริยะแท้สี่ร้อยกว่าคนประสบเคราะห์ แม้แต่ต้นกล้าชั้นดีที่หวังจะบรรลุมกุฎอริยะบางส่วนยังถูกสังหารจนหมด

และถ้ารวมกับการบาดเจ็บล้มตายที่หลินสวินได้ทำไว้ตอนก่อเรื่องในโลกมารโลหิต… ไม่อาจประเมินได้ว่าเสียหายมากมายปานไหน

เอ่ยอย่างไม่เกินจริงว่าในค่ายทัพแปดดินแดนตอนนี้ กำลังพลของค่ายทัพดินแดนโบราณมารโลหิตถูกตัดกำลังให้อ่อนแอลงเกินครึ่ง รากฐานเสียหายหนัก!

นี่จะไม่ให้เซวี่ยชิงอีแค้นได้อย่างไร

“นายน้อย คุนเซ่าอวี่แห่งดินแดนโบราณขุมอุดรส่งข่าวมาว่าต้องการร่วมมือกับท่าน ลงมือสังหารหลินสวินยามสมรภูมิเซียนเหินมาเยือนด้วยกัน”

ชายชราคนหนึ่งรีบร้อนมาส่งข่าว

เขาสีหน้าเรียบเฉย ประกายกระจ่างผุดผ่องพลิ้วลอยไปทั้งร่าง ท้ายทอยปรากฏรูปจำลองอริยมรรควงหนึ่ง รุ้งเทพโอบล้อม แสงเหินดุจพิรุณ ฉายส่องห้วงอากาศราวกับหุบเหวแห่งหนึ่ง

ส่วนภายในร่างกายของเขา พลังต้นกำเนิดอริยะที่พลุ่งพล่านแปรสภาพเป็นมหาสมุทรสีทองอร่าม ห้อตะบึงในสี่รยางค์ร้อยกระดูก เปล่งประกายโชติช่วงดุจดั่งอาทิตย์แรงกล้าไม่เสื่อมคลาย

พร้อมๆ กับการกลืนกินของ ‘ถ้ำผสาน’ พลังต้นกำเนิดอริยะเหล่านี้ก็ยิ่งบริสุทธิ์และกล้าแข็งมากขึ้นไปด้วย

ทันใดนั้นภายในถ้ำผสาน ‘ภูเขามรรคต้นกำเนิด’ ผุดขึ้นจากพื้นแล้วเติบใหญ่ขึ้นไม่หยุด!

แม้ยังมีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเขาลูกน้อยกลายเป็นยอดเขาลูกหนึ่ง!

ภูเขามรรคต้นกำเนิดก็คือที่อยู่ของรากฐานอริยมรรค บนนั้นมีมรรควิถีกับพลังต้นกำเนิดทั้งร่างรวมตัวกัน ภูเขามรรคต้นกำเนิดยิ่งแข็งแกร่งและสูงตระหง่านเท่าไร ก็หมายความว่ารากฐานอริยมรรคของผู้ฝึกปราณยิ่งมั่นคงและทรงพลังขึ้นเท่านั้น

และภูเขามรรคต้นกำเนิดของหลินสวินในตอนนี้ก็พลันแปรสภาพ ปรากฏบรรยากาศเทียมฟ้าบังดิน ท่วงทำนองอัศจรรย์แกร่งกล้าหาใดเทียบ!

ตูม!

ชั่วพริบตานี้บนตัวหลินสวินก็มีคลื่นน่าตื่นตะลึงพุ่งทะลุเมฆาขึ้นมา ฝ่าชั้นเมฆให้กระจายออกไป น้ำทะเลปั่นป่วน ห้วงอากาศสั่นไหว

พลังวิญญาณในพื้นที่สามพันลี้จากสี่ด้านแปดทิศถูกดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง แทรกเข้าไปในตัวหลินสวินเพียงผู้เดียว

ฉับพลันรอบกายหลินสวินก็มีละอองแสงปลิวว่อน รุ้งเทพไหลเวียน กลิ่นอายคลื่นอริยมรรคที่กระจายออกมาแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนไม่รู้เท่าไร!

“ระดับอริยะแท้ขั้นกลาง!”

น้ำทะเลสีดำปั่นป่วน เผยให้เห็นเงาร่างอรชรขาวเปล่งปลั่งราวหิมะร่างหนึ่งดุจดั่งเทพธิดากำลังอาบกายอยู่ ลำคอนางยาวระหง ไหล่ที่โผล่ออกมาขาววิจิตร น้ำทะเลสีดำซัดสาดถั่งโถม ทำให้หน้าอกอิ่มทั้งสองข้างเบื้องหน้าพอมองเห็นรำไร

เพียงแต่จ้าวจิ่งเซวียนกลับเหมือนไม่รู้สึก แววตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้างามกระจ่างเหนือธรรมดาของนาง ดวงตาจ้องเขม็งที่หลินสวินซึ่งอยู่ไกลออกไป

หากนางจำไม่ผิด ราวหนึ่งปีก่อนหลินสวินถึงเพิ่งเหยียบย่างเข้าสู่ระดับมกุฎอริยะ ตอนนี้เขาถึงกับเลื่อนขั้นอีกแล้วหรือ

หนทางเสาะแสวงในอริยมรรคยากกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก ออกเดินแต่ละก้าวจำเป็นต้องสิ้นเปลืองเวลา กำลังวังชาและวาสนาไปไม่รู้เท่าไร!

สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับอริยะบางคน ปิดด่านคร่าวๆ ครั้งหนึ่งยังใช้เวลาเป็นพันเป็นร้อยปี แต่ต่อให้ทำเช่นนี้ระดับพลังปราณก็อาจไม่สูงขึ้น

แต่หลินสวินกลับทะลวงขั้นอีกครั้งในหนึ่งปี!

‘ยังเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ…’

จ้าวจิ่งเซวียนลอบพึมพำ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและเปรมปรีดิ์ เนตรงามเคลื่อนมอง อบอุ่นอ่อนโยนดั่งวารี

จู่ๆ นางก็ตัวแข็งทื่อ สังเกตได้ว่าสายตาเร่าร้อนหนึ่งมองมาที่ร่างตน แล้วจึงรับรู้ได้ว่าตอนนี้ตนสวมชุดเพียงชั้นเดียวลอยอยู่ในน้ำ เผยออกมาทั้งที่ควรเห็นและไม่ควร…

ดังคาด ก็เห็นว่าหลินสวินยืนยิ้มอยู่กลางอากาศ สายตากำลังพินิจนางอยู่โต้งๆ

จ้าวจิ่งเซวียนหน้าแดงร้อนผ่าวอย่างยิ่ง เงาร่างดำลงไปในก้นทะเลอย่างรวดเร็วประหนึ่งนางมังกรท่องสมุทร ก่อให้เกิดลมคลื่นเพราะเขินอาย

ด้านหลินสวินหัวเราะร่าขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ขวัญตาดั่งธรรมะ โฉมสะคราญพาอิ่มเอม

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์