Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1585

ท่ามกลางละอองแสงปลิวว่อน ทันใดนั้นมีเงาร่างหนึ่งถลาออกมาจากทางเข้าแดนลับสนามแม่เหล็ก ร่างกายเจิดจรัสไปหมด

“ข้าแจ้งมรรคเป็นอริยะ อสนีวาโยโกรธา หมู่มัจฉาโหดเหี้ยม ชาวโลกทั้งหลาย ใครจะรับรู้ความล้ำเลิศของข้าได้”

คนผู้นั้นแต่งกายชุดเขียวทั้งตัว ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีทองเจิดจ้า ทั้งยังพูดจาโอ้อวดหลงตัวเองเช่นนี้ ไม่ใช่เจ้าคางคกแล้วจะเป็นใคร

เสียงหัวเราะร่าอาจหาญเปิดเผยเสียงหนึ่งดังขึ้นตามมาติดๆ “สหายยุทธ์จิน เหตุใดจึงชิงมาก่อนก้าวหนึ่ง ไม่สู้แล้วหรือ”

ก็เห็นว่าเซี่ยวชางเทียนก้าวเท้าออกมา ผมยาวปลิวไสว ดวงตาเรียวราวสายฟ้า

“หึ คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!”

แทบจะในเวลาเดียวกัน เจตกระบี่ทะลวงเมฆาที่ดุดันหาใดเทียบปรากฏขึ้นในที่นั้น มารกระบี่เย่เฉินที่ผมสีม่วงทั้งหัวปลิวไสวสะพายกระบี่ออกมา เงาร่างจองหอง

ตูม!

แต่ไม่นานนักก็มีพลังบ้าคลั่งที่แผ่กลิ่นอายโบราณรเวิ้งว้างออกมาปรากฏขึ้น อาหลู่ที่เงาร่างสูงใหญ่ดั่งหอคอยเหล็กยกกระบองเหล็กเล่มหนึ่งพุ่งออกมา

เขาฉีกยิ้ม ฟันขาวสะอาดราวหิมะ ท่าทางหยาบกระด้าง “มาๆๆ ใครไม่พอใจมาตีกับข้าได้ตามสบาย!”

ปึง!

แต่พอเสียงพูดอาหลู่เพิ่งเงียบลง เงาร่างเขาก็ซวนเซ ร้องเสียงดังเจ็บปวดว่า “โอ๊ย เสี่ยวอิ๋นจื่อ เจ้ามาลอบโจมตีข้าทำบ้าอะไร!”

เงาร่างของเสี่ยวอิ๋นเคลื่อนออกมาจากร่างเขา ชุดสีขาวโพลน แขนทั้งสองข้างกอดอก ใบหน้าเล็กที่หล่อเหลาหาใดเทียบเต็มไปด้วยความโอหังและเย็นชา “เจ้าไม่ได้อยากสู้กันหรอกหรือ ข้าเพียงแต่สงเคราะห์ไอ้โง่ตัวใหญ่อย่างเจ้าเท่านั้นเอง”

“กล้าสู้อีกรอบไหมล่ะ”

อาหลู่ร้องเสียงดังท้าทาย

“เอาจริงหรือ”

เสี่ยวอิ๋นเลิกคิ้ว กิริยาท่าทางเช่นนี้เหมือนกับหลินสวินเจ้านายของเขาอย่างกับแกะ

ยามเอ่ยวาจา ผีเสื้อสีดำสนิทอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแรกกำเนิดตัวหนึ่งโรยตัวลงบนไหล่ของเสี่ยวอิ๋นอย่างแผ่วเบา

พอมองเห็นผีเสื้อตัวนี้ อาหลู่ก็หุบปากทันควัน เขาไม่กลัวเสี่ยวอิ๋น แต่ถ้าเป็นเสี่ยวอิ๋นกับเสี่ยวเทียนอยู่ด้วยกัน… ทำให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้าได้

ควรรู้ว่าในแดนลับสนามแม่เหล็ก เจ้าสองคนนี้ร่วมมือกันก็เหมือนดาวพิฆาตคู่หนึ่งแท้ๆ เหิมเกริมไม่หวั่นกลัว ทำเอาผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไรหนีหัวซุกหัวซุน

“พวกเจ้าตีกันตามสบาย ข้าไม่อยากผสมโรง”

ละอองแสงคล้ายรุ้งทอสายหนึ่งไหลเวียน เผยเงาร่างของจี้ซิงเหยาที่บุคลิกสง่างาม บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว

ข้างกายนาง ลั่วเจียยืนอย่างน่ามองอยู่ นุ่มนวลดั่งกล้วยไม้ สง่างามเด่นล้ำ

“ฮ่าๆๆ ทุกท่านน่าสนใจดีจัง พวกเรามาแลกเปลี่ยนวิชากันดีไหม”

เสียงหัวเราะร่าอันอ่อนโยนดังขึ้น พวกหมีเหิงเจินกับเย่หมัวเฮอกรูกันออกมา

ชั่วขณะเดียวบริเวณทะเลแถบนี้ก็มีเงาร่างมากมายยืนอยู่กลางอากาศ ท่วงทำนองมรรคศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนรอบกาย แต่ละคนพลานุภาพเหลือคณา

ดุจดั่งหมู่ดาวเปล่งประกายบนเวิ้งฟ้า ส่องสว่างไปทั้งทะเลนี้!

เห็นภาพเช่นนี้หลินสวินยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกภาคภูมิในใจเกิดขึ้นมาเอง ก้าวออกมาข้างหน้าเอ่ยว่า “หากทุกท่านต้องการแลกเปลี่ยนวิชา ก็รวมข้าไปด้วยคนหนึ่งจะเป็นอย่างไร”

“ไม่เอา!”

ทุกคนแทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน คิดยังไม่คิดก็ปฏิเสธไปแล้ว

ล้อเล่นอะไรกัน แลกเปลี่ยนวิชากับเจ้าเทพมารหลิน จะต่างอะไรกับรนหาที่ตาย

หลินสวินถูกปฏิเสธจนทำตัวไม่ถูก ออกจะจนใจอย่างห้ามไม่อยู่ “แค่แลกเปลี่ยนวิชาเท่านั้นเอง ทำไมต้องตื่นเต้นกันแบบนี้ด้วย”

ทุกคนยังส่ายหัวดังเดิม

มีเพียงอาหลู่ที่กระตือรือร้นอยากลองดู ร้องขึ้นมาว่า “พี่ใหญ่ ไม่งั้นพวกเรามาเล่นกันไหม”

ไม่ทันรอให้หลินสวินเอ่ยปาก เสี่ยวอิ๋นกับเสี่ยวเทียนก็ปรากฏตัวหน้าอาหลู่ อาหลู่อัดอั้นนัก เอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “ช่างเถอะ ไม่เล่นแล้ว!”

ทุกคนต่างหัวเราะเสียงดังอย่างห้ามไม่อยู่

ไม่นานนักก็มีบุคคลขอบเขตมกุฎเดินออกมาจากแดนลับสนามแม่เหล็ก เพียงเห็นว่าสีหน้าออกจะเศร้าซึมไม่มากก็น้อย

ในกลุ่มนั้นก็มีเพื่อนที่หลินสวินผูกมิตรไว้อย่างเยวี่ยเจี้ยนหมิง เซียวชิงเหอ

หลินสวินมองออกแทบจะในปราดเดียวว่าพวกเขาไม่ได้บรรลุมกุฎอริยะ ก็ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้

แม้ในแดนลับสนามแม่เหล็กจะมีวาสนาใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะช่วงชิงมาได้ นี่ก็คือความจริง

ยังดีที่ในสมรภูมิเก้าดินแดนไม่ขาดโอกาสบรรลุมกุฎอริยะ ไม่มีแดนลับสนามแม่เหล็กแล้ว ภายหน้าก็ยังมีวาสนาอื่นมาเยือนอีก

ด้วยการสอบถาม หลินสวินจึงรู้ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่เข้าไปในแดนลับสนามแม่เหล็กคราวนี้ มีทั้งสิ้นยี่สิบเก้าคนที่บรรลุมกุฎอริยะ

นี่เป็นความสำเร็จที่น่าตกใจแล้ว

อย่างใน ‘แดนลับนรกโลกันตร์’ คราวก่อน สุดท้ายก็มีผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนเพียงสิบเจ็ดคนคว้าโอกาสนี้บรรลุระดับมกุฎอริยะ

“พี่ใหญ่ เข้าไปในแดนสนามแม่เหล็กคราวนี้ สาเหตุที่ข้ากับพวกเจ้าคางคกบรรลุมกุฎอริยะได้ ข้อแรกก็เพราะศักยภาพของพวกเราแข็งแกร่งพอ แต่ก็เป็นเพราะสหายยุทธ์คนอื่นตั้งใจหลีกทางให้ด้วย”

เจ้าคางคกพลันสื่อจิตเสียงเบาว่า ‘พวกเขารู้กันหมดว่าพวกเราสนิทชิดเชื้อกับเจ้า และคราวนี้ที่เข้าไปในแดนลับสนามแม่เหล็กได้ก็หนีไม่พ้นความช่วยเหลือของเจ้า ดังนั้นในการประชันในแดนลับสนามแม่เหล็ก ถึงไม่ได้ทำให้พวกเราพบกับอุปสรรคขนาดนั้น จึงแจ้งมรรคได้อย่างราบรื่น’

หลินสวินชะงักไป ในใจปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เอ่ยว่า ‘วางใจเถอะ ภายหน้าข้าจะช่วยพวกเขาช่วงชิงโอกาสมากยิ่งขึ้น’

เจ้าคางคกพยักหน้า

ก็ในวันนั้นเอง ทุกคนออกจากทะเลผาดำกลับไปที่เมืองอารักษ์มรรค!

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์