ชิ้ง!
ยามกระบวนค่ายกลปริแตกออกจากกัน เสียงใสเร้าระทึกของกระบี่ดังก้องขึ้น
เงาร่างผึ่งผายของเซ่าเฮ่าพุ่งตัวจากกำแพงเมืองก้าวไปบนอากาศ ทั่วร่างแผ่อานุภาพร้ายกาจ ผมยาวแผ่สยาย
“ทะยาน!”
เมื่อเสียงตวาดดังขึ้น กระบี่เทพพุ่งทะยานหมุนวนเป็นวงกลมทันใด ห้วงอากาศพันจั้งมีม่านกระบี่เกลี้ยงกลมสายหนึ่งปรากฏ แสงม่วงอบอวล กฎเกณฑ์ร้อยถักเข้าด้วยกัน
ตูม!
การโจมตีมากมายที่ทะลักเข้ามาล้วนถูกม่านกระบี่สีม่วงขวางกั้น ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไรก็ไม่อาจสั่นคลอน
“ฟัน!”
เซ่าเฮ่าตวาดลั่น ปราณกระบี่สีม่วงสายหนึ่งตัดผ่านอากาศ โลดแล่นไปสามพันจั้ง อานุภาพเหมือนตรวนเหล็กเกราะกำบังพุ่งพิฆาตออกไป
ห่างออกไปศัตรูต่างดินแดนกลุ่มหนึ่งที่บุกเข้ามาด้วยสีหน้าฮึกเหิม ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ร่างระเบิดดังสนั่น ถูกปราณกระบี่สีม่วงจ้าตานั้นแหวกเปิดเป็นทางโลหิตยาวเส้นหนึ่งอย่างแข็งกร้าว!
หนึ่งการโจมตี สังหารร้อยศัตรู!
พวกจ้าวจิ่งเซวียน รั่วอู่เห็นดังนี้ก็อดตะลึงไม่ได้
ไม่จำเป็นต้องสงสัย ในค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณนี้นอกจากหลินสวินแล้ว พลังต่อสู้ที่เซ่าเฮ่ามีนั้นจัดได้ว่าแข็งแกร่งที่สุด!
เพียงแต่ศัตรูนอกเมืองมีมากเกินไป แน่นขนัดเหมือนกระแสน้ำหลากปกคลุมฟ้าดิน สูญเสียไปหลักร้อยก็เหมือนปาหินกระดอนน้ำ สร้างคลื่นกระทบอะไรไม่ได้
ตรงกันข้ามเมื่อเห็นกระบวนค่ายกลป้องกันพังทลาย ศัตรูพวกนั้นแต่ละคนเหมือนแกล้วกล้าไม่กลัวตาย พุ่งโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ตูม ครืน!
ห้วงอากาศสั่นสะเทือน ฟ้าดินมืดสลัว ไอสังหารโหมกระหน่ำปกคลุมฟ้าดิน
หน้าต่างบานหนึ่งหากทะลวงเป็นรูโหว่ ลมหนาวพายุฝนภายนอกก็จะซัดเข้ามาทางช่องว่างนั้น
สถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนกัน ในหมู่ศัตรูไม่ขาดแคลนมกุฎอริยะที่สายตาเฉียบคม ตั้งแต่พริบตาแรกก็แทบจะระดมพลทัพใหญ่ในสนามรบทั้งหมดพุ่งมาที่กำแพงเมืองทันที
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
เสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน ราวกับเทพมารนับไม่ถ้วนแผดคำรามกระหึ่มใต้หล้า เงาร่างของผู้แข็งแกร่งมากมายพุ่งแหวกมาทางกำแพงเมืองเหมือนฝนแสงรุ้งเทพหนาแน่น
พริบตานี้ไม่ใช่แค่เซ่าเฮ่า แม้แต่มกุฎอริยะอย่างรั่วอู่ จ้าวจิ่งเซวียน เจ้าคางคก อาหลู่ เซี่ยวชางเทียน เยี่ยเฉิน หมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอก็ออกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญ
มกุฎอริยะนับสิบคนควบคุมบัญชาด้วยกัน อานุภาพนั้นจะน่ากลัวเพียงใด
การโจมตีนอกเมืองยังมาไม่ถึง ก็ถูกทุกคนร่วมมือกันซัดกระจาย
ผู้แข็งแกร่งที่บุกเข้ามาพวกนั้นล้วนตายอนาถในการฆ่าฟันอย่างดุเดือดของมกุฎอริยะทั้งหมด
เพียงพริบตานอกกำแพงเมืองก็มีฝนโลหิตราวน้ำตก ศพระเบิดต่อเนื่องเหมือนกองประทัดที่อยู่รวมกัน กลายเป็นภาพน่าสยอง
เพียงแต่สถานการณ์เช่นนี้สืบเนื่องได้ไม่นาน ในทัพใหญ่ของศัตรูก็มีเงาร่างมากมายที่อานุภาพร้ายกาจพุ่งออกมาสังหาร
มีทั้งชายและหญิง มีคนแก่และเด็ก กลิ่นอายล้วนแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง เป็นมกุฎอริยะกลุ่มหนึ่ง!
“เมืองนี้ต้องพ่าย พวกเจ้ายังจะดิ้นรนก็ไม่ต่างอะไรกับเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ไม่ประมาณตนเอง!”
มีคนแค่นเสียงเย็นชา
“หากมีหลินสวินนั่นอยู่ พวกข้าอาจจะหวาดกลัวอยู่สามส่วน แต่อาศัยคนอย่างพวกเจ้าไม่อาจสร้างแรงคุกคามใดๆ ได้”
มีคนปรามาส
“ข้างกายข้าขาดบ่าวรับใช้สองสามคนอยู่พอดี แม่นางสองคนนั่นข้าจอง!”
ชายชราชุดหรูคนหนึ่งกวาดสายตามองรั่วอู่และจ้าวจิ่งเซวียน เผยแววตาเร่าร้อนออกมา
เพียงพริบตามกุฎอริยะหลายสิบคนก็รวมตัวอยู่หน้าเมือง ยืนอยู่กลางอากาศ ขับเคลื่อนพลังมุ่งเป้าไปที่พวกเซ่าเฮ่า
ในจุดที่ห่างออกไป ทัพพันธมิตรแปดดินแดนที่เดิมจู่โจมเข้ามาก็หยุดเดิน ไม่เคลื่อนไหวอีก
ด้วยศึกใหญ่นี้อย่าว่าแต่ให้พวกเขาสอดมือ แค่เข้าไปใกล้ก็ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย
“มารดาเจ้าเถอะ อาหลู่ ไปฆ่าไอ้เฒ่าสวะนี่ซะ!”
เจ้าคางคกเดือดจัด ตะโกนเสียงดังลั่น
ตูม!
อาหลู่ถือกระบองเหล็กมหึมาอันหนึ่ง พุ่งทะยานออกจากกำแพงเมืองไปตรงๆ!
ตัวเขาราวกับเทพเถื่อนดึกดำบรรพ์องค์หนึ่ง แผ่กลิ่นอายคลั่งระห่ำดิบเถื่อนเหมือนสมัยบรรพกาล พุ่งสังหารไปทางชายชราชุดหรูที่พูดจาจาบจ้วงจ้าวจิ่งเซวียนนั่น
เคร้ง!
ชายชราชุดหรูยกมือเรียกกระบี่บินเล่มหนึ่งออกมา แต่ชั่วพริบตาก็ถูกกระบองเหล็กฟาดกระเด็น ส่งเสียงปะทะเสียดหู
สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนครั้งใหญ่ สูดหายใจเย็นเยียบ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าคนเถื่อนนี่ไม่เพียงแต่ใจกล้าพุ่งออกมานอกเมือง พลังต่อสู้ยังแข็งแกร่งเช่นนี้ด้วย
ยามชายชราชุดหรูคิดจะหลบก็ไม่ทันแล้ว ได้แต่ฝืนเข้าปะทะ
ปึง!
กระบองหนึ่งวาดกวาด ร่างของชายชรานั่นถูกซัดลอยออกไปโดยตรงเหมือนกระสอบทรายแตก กระดูกทั่วร่างหักไปไม่รู้กี่ท่อนในพริบตา ส่งเสียงสนั่นลั่นดังกรอบแกรบ
เมื่อพุ่งกระเด็นออกไปนอกระยะหลายร้อยจั้งจึงหยุดลง แต่ก็ถูกโจมตีอย่างหนัก กระอักเลือดคำโตไม่หยุด
หนึ่งกระบองสะเทือนใต้หล้า!
มกุฎอริยะของค่ายทัพแปดดินแดนพวกนั้นต่างหน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด
“บุกเข้าไปพร้อมกัน ฆ่า!”
พวกเขาลงมือโดยไม่ลังเล เรียกสมบัติ สำแดงวิชามรรค ออกโจมตีเต็มกำลัง
ตูม!
ในที่นั้นฟ้าดินอลหม่าน แสงมรรคแผ่พุ่ง
“ลงมือ!”
“ฆ่า!”
พวกเซ่าเฮ่า รั่วอู่ จ้าวจิ่งเซวียนก็ลงมือ การต่อสู้ชุลมุนระหว่างมกุฎอริยะปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์ในยามนี้
ภาพเหตุการณ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นเข้าไปร่วมได้อย่างสิ้นเชิง น่ากลัวเกินไปแล้ว
ในบริเวณอื่นทัพพันธมิตรแปดดินแดนไม่หยุดเพียงแค่นี้ กำลังบุกโจมตีกระบวนค่ายกลป้องกันเมืองที่โงนเงนใกล้พังนั้นอย่างต่อเนื่อง
ในเมือง ผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณต่างเครียดกังวลถึงขีดสุด นั่งนอนไม่เป็นสุข
พวกเขาไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่ง ทั้งไม่มีทางหนีตาย ด้วยนอกเมืองถูกปิดล้อมนานแล้ว จึงได้แต่ฝากความหวังทุกอย่างไว้กับเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเซ่าเฮ่าและรั่วอู่
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาสิ้นหวังคือ พร้อมๆ กับเวลาที่ล่วงเลย พลังของกระบวนค่ายกลที่ปกคลุมอยู่รอบเมืองอารักษ์มรรคก็กำลังพังทลายลงด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง!
ตูม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์