Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1606

สรุปบท ตอนที่ 1606 มาดสง่างามไร้คู่ต่อกร: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1606 มาดสง่างามไร้คู่ต่อกร – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 1606 มาดสง่างามไร้คู่ต่อกร ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

น้ำเสียงเผยให้เห็นความผิดหวัง

นางยืนอยู่บนกำแพงเมือง อาบไล้ด้วยเงาแสงของความมืดแห่งรัตติกาลนิรันดร์ เงาร่างเพรียวบางที่ดูสันโดษละโลกีย์ถูกสายตานับไม่ถ้วนจับจ้อง

แต่นางล้วนมองข้ามทุกอย่าง

ด้วยคนที่นางตามหานั้นไม่อยู่

เหมือนประโยคที่นางเคยพูดในปีนั้น…

‘โลกของข้าเล็กยิ่งนัก เล็กจนบรรจุเจ้าไว้ได้เพียงคนเดียว’

แต่ตอนนี้มกุฎอริยะแปดดินแดนพวกนั้นต่างไม่อาจนิ่งสงบ สีหน้าปรวนแปร

เขาหรือ

เขาเป็นใคร

แต่สิ่งที่แน่ใจได้คือหญิงสาวปริศนาและน่ากลัวคนนี้มาตามหาคน ไม่ได้มาช่วยค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ!

สำหรับพวกเจ้าคางคกและจ้าวจิ่งเซวียน ในใจต่างทอดถอนใจไปพักหนึ่ง

ผ่านไปหลายปีแล้ว นางยังเหมือนก่อนหน้านี้ไม่เคยเปลี่ยน สนใจแค่คนผู้เดียว สำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ ทุกสรรพสิ่งตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันล้วนไม่อาจดึงดูดความสนใจของนางได้แม้แต่น้อย

“แม่นาง ไม่ทราบว่าเจ้าต้องการหาใครหรือ คนในดินแดนรกร้างโบราณนี้ไม่มีใครที่ข้าไม่รู้จัก”

เซ่าเฮ่าพลันกล่าวด้วยเสียงอบอุ่น

ก่อนหน้านี้สถานการณ์กดดันคับขัน เมืองอารักษ์มรรคใกล้จะล่มสลาย พวกเขาต่างตั้งใจพลีชีพสู้ตายแล้ว

แต่การมาถึงของหญิงสาวปริศนาคนนี้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป!

กระบวนผนึกอริยมรรคเก้าชั้นที่โอบล้อมอยู่นอกเมืองในรัศมีสามพันลี้นั้น ล้วนถูกนางแหวกผ่าเป็นทางอย่างง่ายดาย

ทัพพันธมิตรแปดดินแดนที่ยิ่งใหญ่ไพศาลยังไม่อาจขวางทางนาง กลางฟ้าดินเหลือเพียงเส้นทางเลือดชโลมสายหนึ่ง ภูเขาศพทะเลเลือดทับถมอยู่ในนั้น

ต่อให้เป็นมกุฎอริยะลงมือก็ถูกนางบี้ตายด้วยนิ้วเดียว ไม่มีแม้แต่พลังจะดิ้นรน!

นี่เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ขณะเดียวกันการมาถึงของนางก็ทำให้สนามรบที่กว้างใหญ่นั้นตกอยู่ในสภาพติดขัด บรรยากาศเงียบสงัดอย่างแปลกประหลาด

ทำให้ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณมีโอกาสพักหายใจไปโดยปริยาย!

เมื่อได้ยินคำพูดของเซ่าเฮ่า พวกรั่วอู่ เซี่ยวชางเทียน เยี่ยเฉินต่างใคร่รู้ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ใช่แล้ว นางคนเดียวก้าวเดินมาในความมืดแห่งรัตติกาลนิรันดร์เพื่อหาใคร

ณ ที่นั้นเงียบสงัดไปทั้งแถบ นางที่เงาร่างอาบไล้ด้วยรัตติกาลนิรันดร์ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ใส่ใจใครอื่นคล้ายไม่รับรู้อะไร

นางยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปบนเวิ้งฟ้าเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง

สุดท้ายนางก็หันหลังกลับ ก้าวเท้าออกจากกำแพงเมืองไป

เหมือนดั่งว่าเมื่อไม่พบคนที่นางตามหา สิ่งมีชีวิตในเมืองนี้ ทุกอย่างในใต้หล้าล้วนไม่มีสิ่งใดสำคัญแล้ว

พวกเซ่าเฮ่าต่างเคร่งเครียดขึ้นมา

ผู้แข็งแกร่งทุกคนในทัพพันธมิตรแปดดินแดนกลับฮึกเหิม หญิงสาวที่แข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อนี้ไม่ได้มาช่วยค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณดังคาด

“หลีกไป เปิดทางให้แม่นางคนนี้!”

ชายชุดทองที่นัยน์ตาเฉียบคมนั้นตวาดลั่น ออกคำสั่งลงมา

ใครต่างก็มองออกว่ามีผู้หญิงคนนี้อยู่ ก็เหมือนมีตัวตนที่ไร้คู่ต่อกรคนหนึ่ง น่าพรั่นพรึงและน่ากลัวเกินไป

หากทำให้นางรีบจากไปได้ นั่นคงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!

เพียงพริบตา ผู้แข็งแกร่งของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณไม่น้อยหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง

แม้แต่จ้าวจิ่งเซวียนก็นั่งไม่ติด อดกล่าวไม่ได้ “ซย่าจื้อ ข้ารู้ว่าเจ้ามาหาหลินสวิน แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่”

หลินสวิน!

เพียงสองคำราวกับมีเวทมนตร์ประหลาด ทำให้นางที่เดิมหันหลังจะจากไปพลันหยุดฝีเท้าอยู่ตรงนั้น

แค่การเคลื่อนไหวที่หยุดยืนอยู่เท่านั้น กลับทำให้ผู้แข็งแกร่งทุกคนของทัพพันธมิตรแปดดินแดนเคร่งเครียดขึ้นมา สีหน้าแปรเปลี่ยนครั้งใหญ่

ผู้หญิงคนนี้มาหาหลินสวินหรือ

ปัจจุบันในสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ ใครเล่าจะไม่รู้จักชื่อของหลินสวิน

เพียงแต่ใครต่างก็คิดไม่ถึง ว่าหญิงสาวที่ลึกลับและน่ากลัวเช่นนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับหลินสวิน!

ด้วยช่วงสองปีก่อนไม่มีใครรับรู้ถึงการมีอยู่ของหญิงสาวปริศนาคนนี้อย่างสิ้นเชิง ราวกับว่านางปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

แต่เวลานี้ในที่สุดพวกเซ่าเฮ่าก็รู้แจ้ง ว่าที่แท้… นางก็มาหาหลินสวิน!

เพียงพริบตาในใจพวกเขาต่างซัดโหม ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าข้างกายหลินสวินยังมีหญิงสาวที่แข็งแกร่งถึงขั้นน่าเหลือเชื่อคนนี้อยู่ด้วย

“ข้ารู้”

ซย่าจื้อไม่หันกลับมา

นางมาครั้งนี้ด้วยจับกลิ่นอายทั้งหมดของหลินสวินได้นานแล้ว น่าเสียดายที่มันเป็นแค่กลิ่นอายเท่านั้น

ตัวเขาไม่ได้อยู่ที่นี่

ดังนั้นนางจึงคิดจะจากไป

“แต่สิ่งที่เจ้าไม่รู้คือเมืองนี้เป็นสิ่งที่หลินสวินทุ่มเทกายใจทั้งหมดสร้างไว้ ในเมืองนี้มีสหายมากมายของเขาอยู่ หากเมืองนี้ล่มสลาย เมื่อเขากลับมา เจ้าคิดว่าเขาจะใช้ชีวิตต่อไปได้ไหม”

จ้าวจิ่งเซวียนสูดหายใจลึก กล่าวจริงจัง

“อีกอย่าง เจ้าดูทุกคนที่อยู่นอกเมืองนี้ พวกเขาเป็นศัตรูแปดดินแดน สำหรับเจ้าอาจไม่สำคัญอะไร แต่สองปีมานี้พวกเขาคิดจะฆ่าหลินสวินไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ทั้งมองหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจด้วย”

ตอนนี้ก็มีแต่ซย่าจื้อที่กอบกู้สถานการณ์ตรงหน้าได้ จ้าวจิ่งเซวียนก็ได้แต่ทำทุกทางเพื่อรั้งซย่าจื้อไว้

นางรู้จักซย่าจื้อดี เด็กสาวที่ความเป็นมาลึกลับคนนี้ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสนใจเรื่องทุกอย่าง นอกจากหลินสวิน!

ซย่าจื้อเงียบไป

แต่ทัพพันธมิตรแปดดินแดนกลับสีหน้าปรวนแปร ลอบอุทานว่าแย่แน่!

“ซย่าจื้อ เจ้าดูสิ!”

ซย่าจื้อยกทวนกระดูกขาวในมือขึ้น การเคลื่อนไหวที่ไม่สะดุดตาสายหนึ่งกลับชักนำพลังความมืดแห่งรัตติกาลนิรันดร์ที่ปกคลุมอยู่กลางฟ้าดินมารวมกัน

นางก้าวไปข้างหน้า รัตติกาลนิรันดร์ไล่หลัง การโจมตีทั้งหมดที่พุ่งมาจากทั่วสารทิศประหนึ่งเงาอากาศที่สะกิดนิดเดียวก็พ่าย ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็แตกระเบิดดังสนั่น หายไปกลางอากาศ

ชิ้ง!

เงาร่างนางพลันพุ่งวาบไปข้างหน้า ทวนกระดูกขาวครวญเสียงต่ำเยียบเย็น ราวกับเสียงพึมพำของมัจจุราชที่เสียดลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ

มกุฎอริยะคนหนึ่งถูกแทงโดยตรง ร่างกายของเขาถูกแยกส่วนชั่วพริบตาในความมืดแห่งรัตติกาลนิรันดร์ ก่อนหายวับไป

“นี่…”

“น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

พวกชายชุดทองขนพองสยองเกล้า ดวงตาแทบถลน

ก่อนหน้านี้ซย่าจื้อคนเดียวเดินมาจากจุดที่ห่างออกไป ทุกหนแห่งที่พาดผ่านเปิดทางนองเลือดและความตาย ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยใช้อาวุธ

เดิมนี่ก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อแล้ว

แต่ตอนนี้ยามซย่าจื้อที่กุมทวนกระดูกขาวออกโจมตี มกุฎอริยะพวกนั้นจึงพบว่า พวกเขาประเมินความน่ากลัวของหญิงสาวปริศนาคนนี้ต่ำเกินไปแล้ว!

ฟุ่บ!

ไม่นานมกุฎอริยะอีกคนก็ถูกแทง เลือดสาดพรมกลางอากาศ

ก็เห็นซย่าจื้อก้าวไปกลางอากาศ เปิดฉากเข่นฆ่าราวกับนายเหนือหัวแห่งรัตติกาลนิรันดร์ ไม่พูดมาก ไม่ลังเล ท่าทีราบเรียบนิ่งสงบจนทำให้ผู้คนหวาดกลัว

ทวนกระดูกขาวนั้นอบอวลด้วยประกายดาราใสเย็น ล่องลอยอยู่ในรัตติกาลนิรันดร์ ไร้สรรพสิ่งทลายลงได้ ทิศทางที่ปลายทวนพาดผ่านต้องมีมกุฎอริยะถูกฆ่า!

แค่พริบตาเดียวเท่านั้นก็มีมกุฎอริยะห้าคนตายอนาถ ล้วนถึงสิ้นชีพด้วยการโจมตีเดียว เพียงถูกจับจ้องก็ไม่อาจหลบหนี และไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน

ห่างออกไปทัพพันธมิตรแปดดินแดนหนาวเยือกในใจราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง ขวัญหนีดีฝ่อ

บนกำแพงเมือง พวกเซ่าเฮ่าและจ้าวจิ่งเซวียนก็สูดหายใจเย็นเยียบ แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

เดิมทีสำหรับพวกเขา พลังต่อสู้ของหลินสวินล้วนเรียกได้ว่าพลิกฟ้าแล้ว ไม่อาจใช้เหตุผลทั่วไปมาประเมิน แต่เปรียบเทียบกับเขาแล้ว ซย่าจื้อย่อมพลิกฟ้าและน่ากลัวกว่ามากอย่างไม่ต้องสงสัย

การเคลื่อนไหวของนางเรียบง่ายและหมดจด แต่กลับไร้เทียมทาน สังหารมกุฎอริยะราวฉีกภาพวาด มีท่าทีเด็ดขาดสยบทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์!

ตั้งแต่ต้นจนจบไร้ศัตรูต่อกร!

“ใครก็ได้มานี่เร็วเข้า ขวางนางไว้!”

ชายชุดทองดวงตาแดงก่ำแทบถลน

ความแข็งแกร่งของซย่าจื้อทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว ไม่อาจไม่เรียกระดมพลมกุฎอริยะทั้งหมดในสนามรบมาจู่โจมพร้อมกัน

ฟุ่บๆๆ!

มกุฎอริยะแปดดินแดนคนอื่นๆ ที่เดิมบุกเมืองอยู่ทั่วสารทิศต่างรู้ว่าท่าไม่ดี รีบมารวมตัวกัน

เพียงพริบตาหน้ากำแพงเมืองอารักษ์มรรคที่ซย่าจื้อยืนอยู่กลางอากาศ เหมือนกลายเป็นตาพายุของทั้งสนามรบทันที!

…………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์