Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1625

“ภายหน้า พวกเราต้องเปลี่ยนท่าทีที่ปฏิบัติต่อหลินสวินแล้ว…”

และมีสำนักโบราณมากมายรับรู้ได้ว่า หลินสวินในตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนโดยสิ้นเชิงแล้ว

เขาคือนายเหนือหัวแห่งระดับมกุฎราชัน เป็น ‘อันดับหนึ่งในสมรภูมิเก้าดินแดน’ ที่ทั้งเก้าดินแดนต้องยอมรับไปแล้ว!

มองไปทั้งดินแดนรกร้างโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันก็มีคนผู้นี้เพียงคนเดียว!

“ตัวคนเดียว เป็นดั่งหนึ่งสำนัก!”

เฒ่าชราระดับอริยะบางคนสะท้อนใจ

หลินสวินในตอนนี้อาจจะอยู่เพียงชั้นอริยะแท้ของระดับอริยะ แต่ความสำเร็จในอนาคตจะต้องเหนือล้ำผู้มีระดับอริยะทุกคนในตอนนี้อย่างแน่นนอน!

เพียงคำว่า ‘มกุฎ’ ก็เพียงพอที่จะทำให้อริยะแท้ในดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้นก้มหัวให้ได้!

“เมื่อก่อนตอนเด็กคนนี้ถูกมองว่าเป็นตำนานในยุคปัจจุบัน ข้ายังเย้ยหยันอยู่เลย แต่ตอนนี้… ไม่ยอมรับคงไม่ได้แล้ว!”

“ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ดินแดนรกร้างโบราณในภายภาคหน้าจะกลายเป็นโลกของมกุฎรุ่นเยาว์เหล่านั้น และหลินสวินคนนี้ต้องเป็นผู้นำอย่างไร้ข้อกังขา”

การสนทนาทำนองนี้ยังเกิดขึ้นต่อไป ตามกาลเวลาที่ผันผ่าน ทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณต่างก็รู้ผลงานในสมรภูมิเก้าดินแดนของหลินสวิน

ชั่วขณะเดียว ไม่ว่าที่ใดในใต้หล้าต่างก็ไหวหวั่น ล้วนกล่าวถึงชื่อ ‘หลินสวิน’!

……

หอฤทธิ์เทพ

ท่านเมี่ยวเสวียนหัวเราะร่า เสียงหัวเราะก้องดังถึงชั้นเมฆ พึงพอใจอย่างบอกไม่ถูก

ในตอนนี้จิตใจที่เขม็งเครียดของเขานั้นก็ผ่อนคลายลงโดยสมบูรณ์ในที่สุด ตัวเขาโล่งสบาย ตื่นเต้นและปรีดาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“เจ้าหลินสวินตัวดี เป็นอันดับหนึ่งของสมรภูมิเก้าดินแดนได้จริงๆ!”

“ศิษย์พี่ ท่านพูดถูก ความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสมรภูมิเก้าดินแดนขึ้นอยู่กับเด็กคนนี้เพียงคนเดียว และบัดนี้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นจริงแล้ว”

ท่านเมี่ยวเสวียนให้ความรู้สึกสง่างาม สุภาพอ่อนโยนเสมอ แต่ตอนนี้เขากลับท่าทางโอหัง หัวเราะร่าไม่ว่างเว้น

จนท้ายที่สุดถึงกับเอากาสุรากาหนึ่งออกมาดื่มอย่างหนักหน่วง ร้องเสียงดังว่า “เด็กๆ เอาพู่กันกระดาษออกมา!”

เด็กรับใช้คนหนึ่งก้าวออกมาด้วยความเคารพนบนอบทันที นำพู่กันวสันตสารทกับหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์มามอบให้

ท่านเมี่ยวเสวียนนั่งบนที่นั่ง ยกพู่กันขึ้นโบกสะบัด

‘สามปีผันผ่าน การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนปิดฉากลง หลินสวินคนนี้อาศัยพลังของตนคนเดียว สะบั้นจักรวาล กดข่มแปดดินแดน…’

ตัวอักษรแต่ละบรรทัดพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่องบนหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์อันหนาหนักยิ่งใหญ่ ราวกับรอยประทับมหามรรครอยแล้วรอยเล่า

‘ชัยชนะนี้ บุกเบิกประวัติศาสตร์ของดินแดนรกร้างโบราณ ชำระความแค้นที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน อาศัยเพียงผลงานนี้ หลินสวินก็จะมีเกียรติคุณชั่วนิรันดร์ จารึกไว้ในหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์แห่งดินแดนรกร้างโบราณไปชั่วกาล…’

แต่ละบรรทัดแต่ละประโยคต่างเกิดขึ้นจากใจ ถูกท่านเมี่ยวเสวียนเขียนไว้บนหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์อย่างลื่นไหล

จวบจนท้ายที่สุด ท่านเมี่ยวเสวียนแทบจะใช้พลังทั้งหมดที่มี จบท้ายด้วยวลีว่า ‘คุณูปการพันสมัย เกรียงไกรนักหลินสวิน’!

เขียนจบ ท่านเมี่ยวเสวียนก็เงยหน้าขึ้นดื่มอย่างหนัก หัวเราะร่าเปรมปรีดิ์

……

บนภูเขาเทพไร้มรณะ ในขณะที่ทั้งดินแดนรกร้างโบราณสะเทือนเลื่อนลั่น

พวกหลินสวิน จ้าวจิ่งเซวียน เจ้าคางคก อาหลู่และเจ้านกดำกำลังแลกเปลี่ยน ‘โชควาสนาฟ้าประทาน’

เมื่อสามปีก่อน พวกเขาเข้าไปในสมรภูมิเก้าดินแดนจากที่นี่

ตามคำพูดของข้ารับใช้วิญญาณของภูเขาเทพไร้มรณะ ป้ายคำสั่งรกร้างโบราณที่ผู้แข็งแกร่งแต่ละคนพกไว้ มีประโยชน์สะสมผลงานการสังหารศัตรูไว้ด้วย ยิ่งฆ่าศัตรูได้มากเท่าไร ผลงานที่สะสมก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

และผลงานพวกนั้นก็สามารถแลกเป็นโชควาสนาฟ้าประทานได้

ภูเขาเทพไร้มรณะก็คือหนึ่งใน ‘แดนมงคล’ ที่รวบรวมโชควาสนามหามรรคฟ้าดินเอาไว้ ปกคลุมด้วยโชควาสนามหามรรคที่แท้จริง

สมัยเข้าร่วมการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ หลินสวินก็เคยได้สัมผัสประโยชน์ของ ‘โชควาสนามหามรรค’ มาก่อน มีประโยชน์ที่ไม่อาจประมาณได้ต่อการฝึกปราณ

โอกาสเช่นนี้ย่อมไม่อาจเสียไปได้

“คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะถึงกับสามารถทำเรื่องที่คนในอดีตทำไม่ได้ นำพาดินแดนรกร้างโบราณให้ได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนได้ในที่สุด”

ข้ารับใช้วิญญาณทอดถอนใจ

เขาจำแลงมาจากกฎระเบียบของภูเขาเทพไร้มรณะ ไม่มีคลื่นอารมณ์ความรู้สึก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าชัยชนะครั้งใหญ่คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่สะท้านฟ้าสะเทือนดินปานไหน

หลังจากทอดถอนใจ ข้ารับใช้วิญญาณก็ชี้ไปที่ยอดเขาของภูเขาเทพไร้มรณะแล้วพูดว่า “ที่นั่นมี ‘แท่นมรรค’ อยู่แท่นหนึ่ง นั่งสมาธิบนนั้นก็จะใช้ป้ายคำสั่งรกร้างโบราณในมือแลกกับโชควาสนามหามรรคที่สอดคล้องกันได้ ใครในพวกเจ้าจะทำก่อน”

เสียงพูดยังไม่ทันเงียบลง เสียงฟึ่บก็ดังขึ้น เจ้านกดำพุ่งขึ้นไปทันที ร้องว่า “ข้าไปก่อนล่ะ!”

“หน้าไม่อาย!” เจ้าคางคกกับอาหลู่ต่างพากันมองด้วยแววตาโกรธเคือง

เจ้านกดำกลับไม่สนใจสักนิด นั่งยองอยู่บนแท่นมรรค

ชั่วพริบตา กลิ่นอายระลอกคลื่นมหามรรคที่ราวกับไร้รูปตลบอบอวลออกมาจากบนภูเขาเทพไร้มรณะ

มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน ว่าบนแท่นมรรคนั้นมีประกายแสงฝนมงคลงดงามนับร้อยนับพันสายปลิวลอยออกมา ปกคลุมเจ้านกดำเอาไว้ข้างใน

‘นี่ก็คือโชควาสนามหามรรคหรือ’

หลินสวินอดไหวหวั่นไม่ได้ โชควาสนา ล้วนลึกลับพิศวง ไม่อาจทำความเข้าใจได้มาแต่ไหนแต่ไร

แต่ตอนนี้พลังโชควาสนามหามรรคเหล่านั้นกลับกลายเป็นประกายแสงฝนมงคลสายแล้วสายเล่า โปร่งแสงแวววาว ลวงตาดั่งเป็นแสงแห่งเซียนทะยาน

เมื่อสัมผัสรับรู้โดยละเอียด กลับพบว่าจับสัมผัสอะไรไม่ได้ ดูลึกลับนัก

“ทุกคนล้วนมีโชควาสนาอยู่กับตัว ยิ่งเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่น โชควาสนาก็ยิ่งแข็งแกร่ง สิ่งที่จะเก็บเกี่ยวได้บนมรรคาการฝึกปราณก็ยิ่งมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์