ไม่ทันไรเจ้าคางคกก็เดินลงมาจากแท่นมรรค และเหมือนเมามายเช่นเดียวกัน ทำหน้าหวานตาเยิ้ม สติพร่าเลือนจมภวังค์
ครู่ใหญ่กว่าเขาจะกล่าวอ้อยอิ่ง ท่าทางคล้ายมึนเมา “โชควาสนามหามรรคช่าง… วิเศษเกินบรรยาย สุดจะเปรียบเปรยจริงๆ ด้วย”
“ไหนข้าลองบ้าง”
อาหลู่อดไม่อยู่นานแล้ว เดินหน้าเริดขึ้นไป
ไม่ทันไรอาหลู่ก็ตัวเซกลับมา ทำปากจุ๊ๆ คล้ายติดใจ “ความรู้สึกนี้ก็เหมือน… เหมือนหัวใจโบยบิน กระดูกล้วนกรอบร่วน วิเศษนัก!”
หลินสวินยกยิ้มน้อยๆ สายตามองทางจ้าวจิ่งเซวียน “เจ้าเองก็ไปลองดูด้วยสิ”
จ้าวจิ่งเซวียนพยักหน้า เหินไปเหยียบบนแท่นมรรคและหย่อนตัวนั่งลง
“พี่ใหญ่ พวกเราจะไปแก้แค้นเมื่อไหร่”
เจ้าคางคกอาศัยจังหวะนี้เอ่ยถามหน้าระรื่น “ปีนั้นศัตรูที่รังแกพวกเราพี่น้องไม่ใช่น้อยๆ ตอนนี้ก็ถึงเวลาเอาคืนครั้งใหญ่แล้ว”
“เจ้าคางคกพูดถูก” อาหลู่พยักหน้าหงึกๆ
หลินสวินกลับส่ายหน้า กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่ได้ พวกเจ้ารอข้ากลับมาก่อน ค่อยคุยเรื่องแก้แค้นกันทีหลัง”
เหตุใดเขาถึงไม่อยากไปแก้แค้นในทันที
ควรรู้ว่าวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสาร ตอนนี้ยังถูกจองจำอยู่ในรังของเผ่าอีกาทองนั่น!
นอกจากนี้ปีนั้นก่อนเข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดนก็มีพวกเฒ่าชราไม่น้อยลอบลงมือในเงามืด หมายจะสังหารเขา ตัดภัยร้ายในอนาคต
อย่าง ‘ฝ่าหลิน’ จากอารามกษิติครรภ์ หรืออาวุโสเฒ่าคนหนึ่งของสำนักกระบี่เทียมฟ้า หรืออย่างเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ชื่อ ‘เซียวเหยา’ จากแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์
คนพวกนี้กังวลว่าหลังจากเขาเข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดนแล้วจะกลายเป็นเสี้ยนหนามตำใจชิ้นใหญ่ จึงพากันลงมืออย่างโหดเหี้ยม
แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้ดั่งใจหวัง ถูกเฒ่ากระบี่เมาที่ขี่ลาเขียว ไว้เครากระบี่คนนั้น รวมถึงผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสอย่างพวกเยวี่ยอู๋เทียน หญิงแต่งงานแล้วที่โฉมงามผมขาว เยี่ยจิ่วเซียว เซี่ยวปู้กุย เหวยฉางอวิ๋นขัดขวาง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นไปตามการจัดวางของท่านเซิ่น
จากที่ท่านเซิ่นว่า นี่ก็คือความเคียดแค้น หากศัตรูเหล่านั้นไม่ถือโอกาสนี้จัดการหลินสวิน ต่อไปก็ย่อมมีโอกาสไม่มากเท่าไหร่แล้ว
เพราะหลินสวินในตอนนั้น เป็นพวกที่เกือบไร้ศัตรูในระดับต่ำกว่าอริยะ
เขามีรากฐานแข็งแกร่ง พรสวรรค์โดดเด่น ตัวคนเดียวก็สามารถส่งผลกระทบต่อคลื่นลมในใต้หล้า สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับราชันในดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้นสิ้นหวัง
ตัวคนเดียวเช่นนี้ หลังจากเข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดน ตราบใดที่ไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันย่อมสามารถบรรลุมกุฎอริยะได้แน่นอน!
และเมื่อหลินสวินกลับจากสมรภูมิเก้าดินแดน ก็จะถึงคราวที่พวกสำนักโบราณเหล่านั้นกินไม่อิ่มนอนไม่หลับแล้ว!
ดังนั้นในตอนแรกศัตรูที่อาฆาตแค้นหลินสวินพวกนั้นจึงพากันลงมือโหดเหี้ยม ไม่สนทุกสิ่ง หมายจะโจมตีสังหารหลินสวินให้ได้
น่าเสียดาย สุดท้ายพวกเขาก็ล้มเหลว
และตอนนี้หลินสวินพกอานุภาพล้นฟ้า ใช้สถานะอันดับหนึ่งในสมรภูมิเก้าดินแดนหวนคืนสู่ดินแดนรกร้างโบราณอีกครั้ง!
บัญชีเก่าเหล่านั้นย่อมปล่อยไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“พี่ใหญ่คิดจะมุ่งหน้าไปหอฤทธิ์เทพคนเดียวหรือ”
เจ้าคางคกตะลึงงัน
หลินสวินพยักหน้า ไม่ได้อธิบายอะไร
เพราะเป้าหมายสุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้ ความจริงแล้วอยู่ที่สนามรบแนวหน้าของดินแดนรกร้างโบราณต่างหาก นั่นเป็นโลกของผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิกรำศึกกัน!
หากพาพวกเจ้าคางคกไปด้วย มันอันตรายเกินไป
เวลานี้จ้าวจิ่งเซวียนก็กลับมาแล้ว บังเอิญได้ยินประโยคนี้เข้าจึงอดกล่าวไม่ได้ “แม้แต่ข้าก็ไม่พาไปหรือ”
หลินสวินอ้ำอึ้ง กล่าวว่า “เจ้ากับพวกเจ้าคางคกและอาหลู่รอข้ากลับมาก็พอแล้ว”
กล่าวพลางไม่รอให้จ้าวจิ่งเซวียนเอ่ยปาก เงาร่างเขาก็ขยับพุ่งไปทางแท่นมรรคนั่น หย่อนตัวนั่งขัดสมาธิ
จ้าวจิ่งเซวียน เจ้าคางคก อาหลู่สบตากัน ต่างตระหนักได้ว่าหลินสวินตัดสินใจแล้ว ใครก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อีก
ทันทีที่นั่งบน ‘แท่นมรรค’ หลินสวินก็รู้สึกแปลกพิกล จิตวิญญาณเสมือนจมดิ่งท่ามกลางกระแสพลุ่งพล่าน ล่องลอยตามสายนทีในดินแดนเร้นลับเวิ้งว้าง
นั่นคือพลังของโชควาสนามหามรรค!
แต่พอสงบจิตหยั่งรู้เข้าจริงๆ กลับไม่สามารถเข้าใจ ‘ความเร้นลับ’ ภายในนั้น คลุมเครือลึกลับมากเกินไป โกลาหลวุ่นวาย สุดแสนพรรณนา
ชะตาและโชคเป็นหนึ่งเดียวมาแต่ไหนแต่ไร และการถือกำเนิดของโชควาสนามหามรรค ก็เพียงพอจะส่งผลต่อดวงชะตาแสวงมรรคของคนผู้หนึ่งได้
การเปลี่ยนแปลงของโชควาสนา ย่อมส่งผลต่อทิศทางของรูปแบบชะตาอย่างแน่นอน
เพียงแต่ไม่ว่าใคร ต่อให้มีปราณเกรียงไกรอย่างระดับจักรพรรดิ ก็ยังยากจะสลัดโซ่ตรวนแห่งโชคชะตาได้!
กระโดดออกจากโลกปุถุชนนั้นทำได้ แต่หากคิดจะกระโดดออกจากผลกรรม บ่วงแห่งโชคชะตา กลับเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ก็เหมือนในตอนนี้ จากระดับปัจจุบันของหลินสวินก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจปริศนาแท้จริงของโชควาสนามหามรรคได้
แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางการไปไขว่คว้าพลังเร้นลับเช่นนี้ของเขา
หนำซ้ำ ความยิ่งใหญ่ของจำนวนผลงานที่เขาสั่งสมในป้ายคำสั่งรกร้างโบราณทั้งหมด ก็เพียงพอจะทำให้เขาได้รับโชควาสนามหามรรคที่เหนือจินตนาการ!
“หืม?”
ดังคาด ไม่ทันไรข้ารับใช้วิญญาณที่เฝ้าสังเกตเรื่องทั้งหมดอย่างเงียบๆ มาตลอดก็ตระหนักถึงความผิดปกติเช่นกัน อดกล่าวด้วยความตกใจไม่ได้ “เด็กนี่สะสมผลงานมาเท่าไหร่กันแน่”
ในสายตาของเขา พลังโชควาสนามหามรรคที่ไหลรวมอยู่ทั่วทั้งภูเขาเทพไร้มรณะนับแต่กาลเวลาไร้สิ้นสุดสืบมา เวลานี้กำลังไหลทะลักไปหาหลินสวินไม่ขาดสาย ประหนึ่งน้ำท่วมทะลักเขื่อน ไม่มีปลายทาง!
“เยอะมาก เยอะจนไม่อาจจินตนาการ”
พวกเจ้าคางคก อาหลู่สีหน้าแปลกพิกล
เมื่อคำนวณอย่างละเอียด ในช่วงสามปีนับตั้งแต่การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนเริ่มขึ้นจนบัดนี้ จำนวนผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่ตายด้วยน้ำมือหลินสวินก็เหมือนจำนวนเม็ดทราย ไม่สามารถนับคำนวณได้เลย!
และตอนนี้สิ่งเหล่านี้ล้วนแปลงเป็นผลงานมหาศาล กลายเป็นลูกตุ้มวัดน้ำหนักให้หลินสวินรับโชควาสนามหามรรค
“พวกเจ้าก็บอกไม่ถูกหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์