เวลานี้ในที่สุดหลินสวินก็โกรธแล้ว!
บางทีอาจเป็นเพราะตั้งแต่ต้น เขาเลื่อมใสผู้แข็งแกร่งทุกคนที่ประจำการอยู่ในสนามรบแนวหน้าเป็นอย่างยิ่ง หลังจากเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ขึ้นจึงเดือดดาลด้วยความผิดหวัง
เพราะบุตรนรกและนักพรตชิวมาด้วยท่าทีเหิมเกริม พอพูดไม่เข้าหูก็หมายจะสังหารตน
เพราะการตายของนักพรตชิว อันดับหนึ่งของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิอย่างกู่เหลียงฉวี่จึงมาเยือน มองตนเป็นคนผิด
เพราะใบหิมะน้ำแข็งใบเดียว ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นเกิดความละโมบจับจ้องตาเป็นมัน ไม่สนใจผิดถูก หันปลายหอกใส่ตน
เพราะว่าตนเป็นคนรุ่นหลัง คำที่กล่าวออกมาจึงไม่มีใครเชื่อ!
เพราะ…
หลินสวินคร้านจะทำความเข้าใจอีก ต่อให้เอาใจเขามาใส่ใจเราก็ไม่อยากจะให้ความเคารพอีกต่อไปแล้ว!
มีสิทธิ์อะไร
พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาโอ้อวดบารมีคุณงามความดี คุยโตว่าตนทุ่มแรงกายแรงใจเพื่อดินแดนรกร้างโบราณไปตั้งเท่าไร จึงอาศัยสิ่งนี้มากระทำการตามอำเภอใจได้แล้วหรือ
ช่างน่าขันจริงๆ!
“นักพรตชิวข้าเป็นคนฆ่าเอง”
ทันใดนั้นหญิงสาวชุดกระโปรงแดงเอ่ยปาก นัยน์ตาของนางกวาดมองทั่วลาน ใบหน้างามมีความหยิ่งทะนงเย็นชาดุจหิมะ น้ำเสียงก็ไม่อบอุ่นเหมือนตอนที่คุยกับหลินสวิน ดูเยียบเย็นจนเสียดกระดูก
“ประจำการอยู่ที่นี่มาเจ็ดพันกว่าปี ฆ่ากึ่งจักรพรรดิไปได้แค่หกสิบเอ็ดคน ช่างเป็นตัวไร้ประโยชน์จริงๆ ตายไปก็ไม่น่าเสียดายสักนิด”
ประโยคเดียวเจือแววดูหมิ่นอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
พวกกู่เหลียงฉวี่สีหน้าพลันเปลี่ยนไป อึมครึมคร่ำเคร่ง
นักพรตชิวเป็นถึงยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่กลับถูกมองเป็นสวะให้อับอาย นี่จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร
แต่พวกซุ่นจี้กลับเข้าใจได้ในทันที ที่แท้หญิงสาวกระโปรงแดงที่เยียบเย็นสันโดษ บุคลิกหยิ่งทะนงคนนี้ ก็คือดอกกระบี่ที่แปลกประหลาดต้นนั้น!
“ยังมีเจ้าสองคนที่อยู่บนพื้นนี่ แม้แต่การโจมตีเดียวของข้ายังรับไม่ได้ ต่อให้ถูกเหยียดหยามก็ถือว่าสมควร”
คำพูดของหญิงสาวกระโปรงแดงไม่มีเกรงใจสักนิด แม้จะตัวคนเดียว แต่กลับมีความหยิ่งทะนงมากพอจะเหยียดหยันปวงสวรรค์ มองข้ามเหล่าผู้กล้า
คำพูดเดียวทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยทั้งตกตะลึงทั้งเดือดดาล
แน่นอนว่าพวกเขาก็เดาฐานะของหญิงกระโปรงแดงออก ต่างหวาดกลัวอยู่ในใจ หากไม่ใช่เพราะเช่นนี้พวกเขาคงลงมือไปนานแล้ว
“เจ้าจะหนุนหลังเจ้าหนุ่มนี่หรือ” กู่เหลียงฉวี่กล่าวด้วยสีหน้าเยียบเย็น
เขาก็รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ ต้องเป็นหนึ่งในพวกน่ากลัวที่ถูกผนึกอยู่ในใบหิมะน้ำแข็งนั่นแน่ นี่ทำให้เขาไม่อาจนิ่งสงบยิ่งกว่าเดิม
ใบหิมะน้ำแข็งนั่นมหัศจรรย์เช่นนี้จริงหรือ
“หนุนหลัง?”
หญิงสาวกระโปรงแดงกล่าวลวกๆ “ไม่ ข้าแค่ทำตามคำสั่ง หากไม่เป็นเช่นนั้นข้าคงคร้านจะพูดมากความ ทำให้ข้ารำคาญก็โดนฆ่าทิ้งไปแล้ว”
สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยมุมปากกระตุกวูบ จริงดังคาด ใครยึดกุมใบหิมะน้ำแข็งนั่นไว้ได้ ก็จะทำให้พวกน่ากลัวที่ถูกผนึกอยู่ในนั้นทำตามคำสั่งได้!
นี่ทำให้พวกเขาทั้งอิจฉาน้ำลายหก ทั้งแปลกใจหวาดกลัว
กู่เหลียงฉวี่เงียบไปเล็กน้อย เหลือบสายตามองไปยังหลินสวิน “ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง รอข้ายืนยันข่าวของการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนแล้วจะพิจารณายกโทษให้เจ้า แต่เงื่อนไขแรกคือเจ้าต้องส่งใบไม้ในมือนั่นมาก่อน!”
หลินสวินเผยแววเย้ยหยัน โกรธจัดจนกลายเป็นยิ้ม “ว่ากันตามจริงก็แค่จะแย่งสมบัติเท่านั้น มายกโทษให้ข้า เจ้าคู่ควรรึ”
ไอสังหารในดวงตาของกู่เหลียงฉวี่สาดประกายทันใด สีหน้าอำมหิต “กำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้มีผู้แข็งแกร่งประจำการอยู่ไม่รู้เท่าไร หรือเจ้าคิดว่าอาศัยที่พึ่งในมือแล้วก็ไม่ต้องสนอะไรเลย”
นัยของคำพูดนั้นชัดแจ้ง ต่อให้บุคคลน่ากลัวอย่างหญิงสาวกระโปรงแดงนี้ร้ายกาจแค่ไหน มีหรือจะต้านการโจมตีของกึ่งจักรพรรดินับไม่ถ้วนได้
หลินสวินกล่าวเย็นชา “อย่างน้อยข้าก็รู้ว่าในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้ เจ้ากู่เหลียงฉวี่ยังเอามือปิดฟ้าไม่ได้ ผู้แข็งแกร่งมากมายที่ประจำการอยู่ที่นี่ก็ใช่ว่าจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า ข้าว่าเจ้าอย่าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปเลย!”
ตูม!
กู่เหลียงฉวี่โกรธจัดแล้ว ผมยาวแผ่สยาย ลักษณะพลังทั่วร่างสะท้านฟ้าดิน ไอสังหารแข็งกร้าวนับไม่ถ้วนถักทอกันเหมือนดั่งคงอยู่จริง ม้วนซัดแผ่คลุมรอบตัวเขา
ทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยที่อยู่ใกล้ๆ ต่างหน้าเปลี่ยนสี พลันหยุดหายใจ
นี่ก็คืออานุภาพของอันดับหนึ่งแห่งกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ!
สายตาของกู่เหลียงฉวี่มองไปยังหญิงสาวกระโปรงแดงแล้วกล่าว “ข้าจะช่วยเจ้าฆ่าเจ้าเด็กนี่ ตั้งแต่วันนี้ไปให้เจ้าได้หลุดพ้นจากสภาพที่ถูกคนควบคุมอย่างสมบูรณ์เป็นอย่างไร”
ประโยคเดียวทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยดวงตาเป็นประกาย
หญิงสาวกระโปรงแดงถูกใบหิมะน้ำแข็งในมือของหลินสวินควบคุม ด้วยความหยิ่งทะนงและพลังที่น่ากลัวของนาง มีหรือจะยินยอม
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาต่างตื่นตะลึงและคาดไม่ถึงคือ เผชิญหน้ากับข้อเสนอเช่นนี้ หญิงสาวกระโปรงแดงกลับปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “หึ ละเมอเพ้อพก!”
เหน็บแนมและเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
กู่เหลียงฉวี่หัวใจจมดิ่งทันที ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขากดดันไม่น้อย หากไม่เป็นเช่นนั้นเขามีหรือจะห้ามใจมาถึงตอนนี้
“ฆ่าสองคนนี้ซะ”
หลินสวินพลันเอ่ยปาก สายตามองไปยังซิงเฟิงและเนี่ยถูที่อยู่บนพื้น น้ำเสียงเยียบเย็นจนไม่มีคลื่นความรู้สึกแม้แต่น้อย
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
กึ่งจักรพรรดิสองคนที่เดิมทีก็ถูกกำราบติดพื้น ตายคาที่พร้อมๆ กับความคิดที่ไหวเคลื่อนของหญิงสาวกระโปรงแดง จิตวิญญาณแหลกละเอียด พลังชีวิตหมดสิ้น
เพียงพริบตาเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นั้นต่างหน้าเปลี่ยนสี
“เจ้ากล้า!”
“เจ้าหนุ่ม เจ้ามันใจโฉดนัก!”
“ไม่อาจยกโทษให้ได้แล้ว!”
เสียงตวาดด้วยความเดือดดาลดังก้องฟ้าดิน เมฆลมเปลี่ยนสี บรรยากาศล้วนเปลี่ยนเป็นตึงเครียด เยียบเย็นหาใดเปรียบ
ใจของพวกซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อตกไปที่ตาตุ่ม คราวนี้… เท่ากับฉีกหน้ากู่เหลียงฉวี่อย่างสมบูรณ์แล้ว!
“ฆ่า!”
กู่เหลียงฉวี่หน้าเขียว น้ำเสียงราวกับลอดออกมาจากไรฟัน ไอสังหารปั่นป่วนไปทั่วฟ้าดิน
ตูม!
เขาลงมือโดยไม่ลังเลแล้ว
เมื่อเขาตบฝ่ามือหนึ่งออกมาฟ้าดินก็สั่นสะเทือน ไอสังหารแข็งกร้าวทั่วฟ้ารวมตัวกันที่กลางฝ่ามือ ตบผ่านอากาศไปทางหญิงสาวกระโปรงแดงอย่างหนักหน่วง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์