แปดมุมของเจดีย์สมบัติเรียบง่ายเปี่ยมล้น ทั้งหลังกลับแผ่ประกายทองเทพดั่งเนื้อหยก ศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจประเมิน
ลอยอยู่กลางอากาศประหนึ่งสามารถกำราบอดีตปัจจุบัน!
“มหามรรคไร้…”
เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์นัยน์ตาหดรัดลง ด้วยพลังของเขาสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน ว่าบนพื้นผิวของเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดประทับอักษรมรรคบรรทัดหนึ่ง
ทุกขีดทุกเส้นราวกับมหามรรคตามธรรมชาติรวมตัว
เพียงแต่ในนั้นมีอักษรมรรคหลายตัวขาดหายไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้
ทว่าเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์กลับดูออกแล้ว หรือพูดอีกอย่างว่า เขาจำที่มาของเจดีย์นี้ได้แล้ว!
“เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด เจ้าคือเจ้าเฒ่าที่ไม่ใช่พระไม่ใช่มรรค ไม่ใช่ปราชญ์ไม่ใช่มาร นั่งบนพยับเมฆเก้าฟ้า ถือแส้หางม้ามหามรรค ครอบครองเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด!”
ในเสียงแฝงความตะลึง
ในสมองของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ปรากฏความทรงจำที่ผนึกด้วยฝุ่น
เมื่อนานมาแล้วเขาค้นหาทั่วโลก ข้ามผ่านแดนดาราอันไร้จำกัด เพียงเพื่อหาคู่ต่อสู้ที่สามารถยืนหยัดต่อสู้ด้วยได้เท่านั้น
จำได้ว่านั่นเป็นสถานที่ที่อยู่ในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในจตุโบราณสถานบรรพกาล เขาเคยต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิที่เร้นกายอยู่ในนั้น
หลังจากนั้นผู้แข็งระดับจักรพรรดิคนนี้แม้จะพ่ายแพ้ในมือเขา กลับพูดพร้อมรอยยิ้มว่า ‘ในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้หากผู้อาวุโสคนนั้นลงมือ เจ้าจะต้องแพ้อย่างแน่นอน!’
ตอนนั้นเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย เขาเริ่มเสาะหา เพียงแต่ค้นหาทั่วแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผ่านอันตรายไม่รู้เท่าไหร่ สุดท้ายเขาก็คว้าน้ำเหลว
ตอนที่เขาคิดว่า ‘ผู้อาวุโส’ ที่ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิคนนั้นพูดถึงไม่มีจริง
กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู
‘ทุกสิ่งที่เจ้าทำก่อนหน้านี้ล้วนอยู่ในสายตาข้า แต่เจ้ากลับมองไม่เห็นว่าข้าอยู่ที่ไหน ยังจะพูดถึงการประลองอะไร ต่อให้ประลอง เจ้าก็ไม่มีทางชนะ’
ประโยคเดยียวทำเอาเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ในตอนนั้นตัวแข็งทื่อ ราวกับได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักหน่วงที่สุด!
จนกระทั่งก่อนออกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดเขาก็เหลือบมองแวบหนึ่ง และเห็นเงาร่างหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าชั้นฟั้นฟ้า ในมือถือแส้หางม้า ควบคุมเจดีย์สมบัติ พลังอำนาจไม่อาจประเมินได้
และเพียงแวบเดียวเท่านั้น เงาร่างนี่ก็หายไปไร้ร่องรอย
ทว่าประสบการณ์ครั้งนี้กลับทำให้เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ยากจะลืมไปทั้งชีวิต เขาเคยอนุมานเงาร่างนั้นนับครั้งไม่ถ้วน ทว่าสุดท้ายกลับคว้าน้ำเหลว
หลังจากผ่านไปนานมาก ตอนที่เขากลายเป็นคนที่แทบจะไร้ศัตรูในใต้หล้าแล้ว ในที่สุดจึงเข้าใจ ว่าเงาร่างที่เห็นตอนนั้นมีมรรควิถีที่น่ากลัวเพียงใด
ทว่าเขาในตอนนั้นมุ่งมั่นในการทะลวงสู่เส้นทางดารานิรันดร์ แสวงหามหาศุภโชค ‘อมตะนิรันดร์’ ที่แท้จริง จึงคร้านจะสนใจเรื่องอื่นแล้ว
ด้วยความมุ่งมาดของเขา ในอนาคตหากเจอเงาร่างนั้นอีกครั้งจะต้องทำการประลอง ต่อสู้ให้รู้แพ้ชนะกับเขาแน่!
น่าเสียดายที่การเดินทางในเส้นทางดารานิรันดร์ครั้งนั้น เขาพ่ายแพ้แล้ว…
เรื่องการวัดฝีมือก็ไม่เคยพูดถึงอีก
ทว่าเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์กลับคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากผ่านกาลเวลาอันไร้สิ้นสุด ดันได้เจอเจดีย์นี่อีกครั้งบนร่างของทายาทของตน!
ชั่วขณะหนึ่งเขาอึ้งงันอยู่กับที่ ในใจเกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
รอคอยมาอย่างเนิ่นนาน เดิมคิดว่าจะได้โอกาสที่ทำให้ตนสามารถบุกสังหารขึ้นเส้นทางดารานิรันดร์อีกครั้ง
ท้ายที่สุดสิ่งที่รอคอยมาได้ กลับกลายเป็นทายาทที่มีสายเลือดของตนไหลเวียนอยู่!
นี่เดิมก็เหมือนศุภโชคกลั่นแกล้งคน ราวกับได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ทำให้คนระดับเขาเสียการควบคุม ยากจะบังคับตัวเองได้
ทว่าสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว เพื่อบรรลุสิ่งที่ต้องการ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว
แต่ใครจะคิดว่ากลับเจอมรดกมรรคคาถาของคนที่เคยสร้างความกระทบกระเทือนให้ตนหนักหน่วงที่สุด บนร่างทายาทของตน
นี่เป็นเหมือนกฎกรรมที่ถูกกำหนดไว้ ทำให้เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์เองยังอดประหลาดใจไม่ได้ หรือนี่เป็นการแก้แค้น
เพราะตนเคยเปิดทวารดวงดาวมาแล้ว จึงไม่ยอมให้ตนผงาดอีกครั้งหรือ
“ไม่จำยอมและไม่ยินยอม ยึดติดจนคลุ้มคลั่ง สหายยุทธ์ การสนองของกฎกรรมทำอะไรเจ้าไม่ได้ เป็นตัวเจ้าเอง… ที่ทำร้ายตัวเอง”
เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดมีแสงประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน ส่งเสียงเวิ้งว้างเลือนรางดุจสายลมเย็นออกมา
“เหลวไหล!”
เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์คำรามอย่างเดือดดาล ตาแทบถลน “ข้ายึดมั่นในการแสวงมรรค สวรรค์สารเลวนี่กลับไม่ยอมให้ข้าเข้าสู่เส้นทางดารานิรันดร์อีกครั้ง จะเป็นเพราะข้าคิดไม่ปล่อยวางได้อย่างไร”
โครม!
เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเปล่งแสง สาดแสงมรรคที่ร้อนแรงไร้ขอบเขต กว้างใหญ่และหนาหนักกำราบลงมา
เสียงปึงดังขึ้นคราหนึ่ง เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ถูกกำราบโดยตรง คุกเข่ากับพื้น
บุคคลพลิกฟ้าที่เคยกำราบทั่วโลก หวังเพียงความพ่ายแพ้ ตอนนี้กลับต้านไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียวของเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด!
แม้เขาจะไม่ใช่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ในตอนนั้นแล้ว เป็นเพียงแค่ประทับเจตจำนงที่ยึดติดจนบ้าคลั่งเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น ทว่าเมื่อไม่นานมานี้กลับเคยโจมตีจนหญิงลึกลับถอยทัพกลับไปด้วยการสะบัดแขนเสื้อครั้งเดียว
จากเรื่องนี้สามารถเห็นได้ว่าพลังของเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด ไม่ใช่สิ่งที่เจตจำนงเสี้ยวหนึ่งอย่างเขาจะสามารถต้านทานได้
“เจ้าจะทำอะไร?!”
เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ตะเบ็งเสียงเดือดดาล หมายจะลุกขึ้นต่อสู้ ทว่าร่างกายกลับถูกแสงมรรคที่ไพศาลสายแล้วสายเล่ากำราบอย่างมั่นคง
ยิ่งไปกว่านั้นพอแสงมรรคพรั่งพรู ร่างของเขาก็กำลังถูกสลายทีละนิด!
“ความยึดมั่นเสี้ยวหนึ่ง ดื้อดึงอย่างที่สุด หากถูกตัวเจ้าเองในตอนนั้นเห็นเข้า เกรงว่าไม่ต้องให้ข้าลงมือ เจ้าคงถูกกำจัดไปนานแล้ว”
ภายในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด เสียงที่สงบแต่เลือนรางนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์