เพิ่งสิ้นเสียง พวกเจ้าคางคก อาหลู่ก็อดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้
เจ้าเฒ่าหน้าไม่อายนัก!
พอตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าทีก็ใช้อุบายอื่น พุ่งเป้าไปที่หลินสวินเพียงคนเดียว ดูคล้ายยอมถอย อันที่จริงหมายสังหารหลินสวินด้วยการเสียค่าตอบแทนที่น้อยที่สุดชัดๆ
ส่วนผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองได้ยินเช่นนั้น ดวงตาพลันทอประกายวาววับ
“หลินสวิน เจ้าตกลงหรือไม่”
อูเหิงเทียนเอ่ยถามเสียงเข้ม
ไม่รอให้หลินสวินเอ่ยปาก อาหลู่ก็อดแหกปากด่ายกใหญ่ไม่ได้ “เจ้าเฒ่า เสียทีที่เจ้าเป็นถึงหัวหน้าเผ่าอีกาทอง ไม่รู้สึกไร้ยางอายบ้างหรือ”
เจ้าคางคกเอ่ยถามตรงๆ “พี่ใหญ่ ขอเพียงเจ้าพูดประโยคเดียว พวกเราพี่น้องจะร่วมบุกฆ่าเผ่าอีกาทองพร้อมกับเจ้า ไม่จำเป็นต้องสนใจเจ้าเฒ่าสารเลวนี่สักนิด!”
พวกเซ่าเฮ่า เยี่ยเฉินล้วนพยักหน้า
“เฮอะ! บุกฆ่าหรือ พวกเจ้าจะบ้าระห่ำเกินไปหน่อยแล้ว ต่อให้เป็นระดับกึ่งจักรพรรดิ ก็ยังต้องชั่งใจถึงผลที่ตามมาของการบุกหุบเขาตะวันคล้อยของข้า”
อูเหิงเทียนสีหน้าอึมครึมเยียบเย็น “หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังพวกเจ้า คิดจริงๆ หรือว่าข้าอูเหิงเทียนจะยอมถอยให้ปานนี้”
เจ้าคางคกยังอยากพูดอะไรก็ถูกหลินสวินห้ามเอาไว้ สายตาเขาลุ่มลึก มองอูเหิงเทียนพลางกล่าว “ต่อสู้สามครั้ง แต่ละครั้งล้วนชนะ เจ้าจะเป็นฝ่ายส่งตัวผู้อาวุโสเทียนเชวียมาให้หรือ”
อูเหิงเทียนพูดอย่างไม่ลังเลสักนิด “ถูกต้อง! แต่จำเอาไว้ว่าต้องเป็นเจ้าต่อสู้คนเดียว อีกทั้งห้ามพูดถึงเรื่องเป็นตาย!”
หัวคิ้วพวกเจ้าคางคกขมวดมุ่น เฒ่าสามานย์นี่ยอมถอยให้เสียที่ไหน เห็นๆ อยู่ว่าตั้งใจวางแผนฆ่ากันชัดๆ
กลับเห็นสีหน้าหลินสวินสงบนิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ กล่าวเพียงว่า “เกิดเจ้ากลับคำขึ้นมาจะทำอย่างไร”
อูเหิงเทียนอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “เจ้าหนู เจ้าออกจะดูเบาข้าอูเหิงเทียนเกินไปหน่อย เรื่องในวันนี้ก็ให้ทุกคนในที่นี้เป็นพยานก็สิ้นเรื่อง!”
‘หลินสวิน เจ้าจะตอบตกลงเขาจริงๆ หรือ’
เซ่าเฮ่าขมวดคิ้วสื่อจิต ‘เผ่าอีกาทองโหดเหี้ยมมาช้านาน ต่อสู้สามครั้ง เพื่อฆ่าเขาพวกเขาอาจไม่สนศักดิ์ศรี เป็นไปได้สูงว่าอาจส่งพวกร้ายกาจระดับราชันอริยะออกมาก็ได้’
‘ไม่เป็นไร ข้ามีแผนอยู่’
หลินสวินระบายยิ้ม
‘แต่ถ้าสุดท้ายอีกฝ่ายกลับคำขึ้นมาเล่า’
เซ่าเฮ่ายังคงไม่วางใจ
หลินสวินกล่าวด้วยสีหน้าสงบ ‘ไม่เป็นไร พี่เซ่าเฮ่าคงไม่ได้คิดว่าข้ามุ่งหน้ามาเพียงเพราะช่วยคนอย่างเดียวหรอกกระมัง’
หัวใจเซ่าเฮ่าสะท้าน ในหัวผุดความคิดอาจหาญอย่างหนึ่งขึ้นมา สายตาที่มองไปทางหลินสวินอีกครั้งก็เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว
เจ้าหมอนี่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกันแน่
“ข้าตกลง เริ่มกันเลย”
หลินสวินคร้านจะพูดมากความ เหินฟ้าขึ้นไปยืนตระหง่านกลางอากาศ เงาร่างสันโดษ หว่างคิ้วสุขุมลุ่มลึก
หากสามารถเทียนเชวียออกมาได้อย่างราบรื่น นั่นย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
หากอีกฝ่ายกลับคำ นั่นก็ย่อมไม่สลักสำคัญ
อูเหิงเทียนอดอึ้งไปไม่ได้ เขาคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะถึงกับตกปากรับคำหน้าระรื่นปานนี้
ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองคนอื่นๆ ต่างก็อึ้งค้างอยู่บ้าง เจ้าหมอนี่สบายใจไร้กังวลจริงๆ หรือแค่ไม่รู้จักกลัวตายกันแน่
หากไม่มีการช่วยเหลือจากมกุฎอริยะขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ เหล่านั้น ลำพังแค่เขาคนเดียวก็คิดอยากอาศัยการต่อสู้สามครั้งนี่ไปช่วยชีวิตคนได้หรือ
เพ้อฝันชัดๆ!
ทันใดนั้นอูเหิงเทียนก็อดส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมาไม่ได้ โบกมือกล่าว “เหิงไห่ เจ้าไปจัดการเจ้าหนูนี่เสีย จำไว้ อย่าได้ปรานี”
บุรุษเงาร่างล่ำสัน ผมเคราดั่งทวน มาดนิ่งขรึมทรงอานุภาพคนหนึ่งสาวเท้าก้าวออกมา นัยน์ตาสยดสยองปานแสงอสนีพลุ่งพล่าน
ทอดสายตามองจากไกลๆ เขาก็เหมือนภูเขาสูงตระหง่าน ให้ความรู้สึกสูงลิ่วไม่อาจป่ายปีน ไม่สามารถสั่นคลอนได้แก่ผู้คน!
อูเหิงไห่ ผู้แข็งแกร่งระดับมหาอริยะ หนึ่งในผู้อาวุโสอริยะเผ่าอีกาทอง ตำแหน่งทรงคุณวุฒิ ทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณก็มีชื่อเสียงอย่างมากเช่นกัน ถูกขนานนามว่า ‘นักเชือดอับดับหนึ่งระดับมหาอริยะในรอบแปดร้อยปี’!
พลังต่อสู้ของคนผู้นี้ ในระดับมหาอริยะบนโลกอาจไม่ถึงขั้นชั้นหนึ่ง แต่จำนวนคู่ต่อสู้ที่ตายด้วยน้ำมือเขามีมากมาย หากเป็นที่สองในระดับมหาอริยะ ก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่ง
นี่ก็คือที่มาของฉายา ‘นักเชือด’!
พวกเยี่ยเฉิน หมีเหิงเจินล้วนนัยน์ตาหดรัดอย่างอดไม่อยู่ หว่างคิ้วฉายแววเดือดดาล
“อูเหิงเทียน พวกเจ้าออกจะไร้ยางอาจเกินไปแล้วกระมัง ส่งมหาอริยะที่สองมือนองเลือดออกมาจัดการระดับอริยะแท้คนหนึ่ง ยังมียางอายอยู่หรือไม่”
เย่หมัวเฮอตะโกนลั่น
อูเหิงเทียนกล่าวยิ้มในหน้า “การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีกฎกติกาเกี่ยวกับระดับพลัง หากพวกเจ้าคิดว่าเจ้าหลินสวินนี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ เช่นนั้นก็ให้เขาเป็นฝ่ายยอมแพ้เอง ปลิดชีพไถ่โทษก็ได้”
หัวหน้าเผ่าเก่าแก่ ผู้ควบคุมหุบเขาตะวันคล้อยแดนเร้นอริยะที่สูงส่งคนหนึ่ง กลับเอ่ยคำพูดไร้ยางอายเช่นนี้ออกมา ทำเอาพวกเย่หมัวเฮอได้เปิดโลกทัศน์ยิ่ง
“นายท่านนกอย่างข้าไม่เคยเห็นพวกหน้าหนาไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!”
เจ้านกดำเดือดดาลแล้ว มันคิดว่าตัวมันเองหน้าไม่อายสุดๆ แล้ว แต่เมื่อเทียบกับอูเหิงเทียน กลับต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างสิ้นเชิง
ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองเหล่านั้น ก็ราวกับว่าแม้แต่พวกเขาก็ยังคิดไม่ถึง ว่าหัวหน้าเผ่าจะส่งคนน่าสะพรึงอย่างอูเหิงไห่นี่ออกมาตั้งแต่การต่อสู้ครั้งแรก
นี่…
แสดงให้เห็นชัดเจนว่าหมายใช้พลังเด็ดขาดฆ่าหลินสวินตั้งแต่แรก!
แน่นอนว่าการวางแผนเช่นนี้เห็นชัดว่าไม่สะอาดอยู่บ้างจริงๆ แต่ขอเพียงสังหารหลินสวินได้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย
เหนือความคาดหมาย ถูกปฏิบัติเช่นนี้หลินสวินก็ยังคงเยือกเย็นยิ่ง ริมฝีปากพูดเพียงสี่คำออกมาเบาๆ
“มาสู้สักตั้ง!”
ประโยคเดียวสะเทือนฟ้าดิน กลบทุกสรรพเสียงในลาน
พวกเจ้าคางคก อาหลู่ต่างตั้งท่าจะพูดแต่ก็หยุดลง รู้ว่าหลินสวินตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ในใจล้วนอดกังวลเล็กน้อยไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์