ตูม!
ฟ้าดินสนั่นหวั่นไหว เปลวเพลิงโชติช่วงโหมกระหน่ำนั้น ล้วนถูกหลินสวินเคลื่อนขวางกลางอากาศประหนึ่งหลุมดำกลืนกินจมหาย
ในลานเกิดเสียงร้องอุทานไม่ขาดสาย
คนมากมายต่างหน้าเปลี่ยนสี นี่เป็นวิชามรรคที่น่าสะพรึงปานใด ออกจะเผด็จการเกินไปแล้ว!
“น่าขัน คล้ายวิชายุทธ์ระดับนี้ไม่กลัวระเบิดใส่ตัวเองรึ”
กลางห้วงอากาศสีหน้าอูเหิงไห่เปลี่ยนไป จากนั้นก็หัวเราะเย็นชา กระโจนทะยานเข้าไปอย่างเดือดคลั่ง บุกฆ่าเต็มกำลัง
ทั่วร่างเขาเปลวเพลิงพวยพุ่ง ราวกับจะแผดเผาท้องฟ้า เพลิงเทพสีทองอร่ามกลายเป็นพลังฝ่ามือและหมัดบดขยี้ลงไป
แต่ไม่ว่าจะบุกโจมตีอย่างไรล้วนถูกหุบเหวใหญ่รอบตัวหลินสวินซัดพ่าย กลืนกินจนไม่เหลือ ทอดสายตามองจากไกลๆ เงาร่างของหลินสวินประหนึ่งหลุมไร้จุดสิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น
ภาพเหตุการณ์น่าสยดสยองตะลึงโลกเช่นนี้ ทำให้พวกเจ้าคางคก อาหลู่ล้วนปากอ้าตาค้าง
ช่วงก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็เคยเห็นหลินสวินสำแดงมรรคดับดารากลืนกิน แต่นั่นคือกลายร่างเป็นเตาหลอมอันหนึ่ง บรรจุหมื่นมรรค วิวัฒน์หมื่นวิชา ผ่าเผยเที่ยงตรง มีอานุภาพสยบอดีตปัจจุบัน
แต่หลินสวินในตอนนี้กลับเปี่ยมด้วยท่วงท่าเผด็จการ ไม่ว่าเจ้าจะมีวิชาอัศจรรย์นับพัน อภินิหารนับหมื่น ทั้งหมดล้วนหนีไม่พ้นการถูกบดขยี้ ช่วงชิง กลืนกินทั้งสิ้น!
หุบเหวใหญ่แห่งหนึ่ง ครอบฟ้าบดตะวัน กลืนสรรพสิ่งไม่มียกเว้น!
สีหน้าอูเหิงเทียนอึมครึม สื่อจิตกล่าวว่า ‘ทุกคนรู้หรือไม่ นี่เป็นมรดกระดับใด เหตุใดจึงเผด็จการปานนี้’
พวกคนชั้นสูงเผ่าอีกาทองที่อยู่ใกล้เคียงล้วนนิ่งเงียบ พวกเขาก็ใจสะท้านไม่สิ้นเช่นเดียวกัน มองไม่ออกถึงที่มาของวิชาต่อสู้ระดับนี้เลย
แต่มรดกระดับนี้ต้องน่าสะพรึงถึงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
อูเหิงไห่เป็นถึงมหาอริยะคนหนึ่ง เป็นคนร้ายกาจที่เปรียบเสมือนนักเชือด แค่โจมตีออกไปลวกๆ ครั้งเดียวก็เพียงพอจะฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับอริยะแท้ได้
แต่ตอนนี้การโจมตีทั้งหมดของเขาล้วนถูกกลืนกิน นี่ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไป ใครบ้างจะไม่ตกใจ
ทันใดนั้น…
อูเหิงไห่ส่งเสียงตวาดลั่นคราหนึ่ง “กลืนกินพลังตั้งมากมายปานนั้น ข้าล่ะอยากเห็นนักว่าเจ้าจะทนได้ถึงเมื่อไหร่!”
สีหน้าเขาเลือดเย็น ร่างมีเพลิงเทพระฟ้าไหลเวียน สำแดงวิชาชั้นยอดของเผ่าอีกาทองวิชาหนึ่ง
เถ้าธุลีผลาญเวิ้งฟ้า!
พริบตานั้นละอองแสงเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนประหนึ่งดาวหางร่วงโปรยปรายจากชั้นฟ้า เจิดจ้าลุกโชน กระหน่ำโหมไหม้ ปิดครอบเวิ้งฟ้าแถบนั้น เปลวเพลิงแต่ละเสี้ยวล้วนมีอานุภาพเผาภูเขาต้มสมุทร!
ในลานเหล่าผู้กล้าไม่มีใครไม่หวาดผวา อานุภาพทั้งหมดที่มหาอริยะแท้ระเบิดออกมา สำแดงแจ่มชัดทั้งหมดในเวลานี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ตูม!
แต่เมื่อร่างกายหลินสวินเคลื่อนขยับ เวิ้งฟ้าแถบนั้นล้วนพังครืนก้องกระหึ่ม ถูกหลุมดำกลืนกิน ละอองแสงเปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุดนั้นก็พลอยถูกกวาดม้วนหายเกลี้ยงไปด้วย
เมื่อมองดูหลินสวิน ทั่วทั้งตัวไร้ร่องรอยบาดเจ็บ มีเพียงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าเมื่อครู่ ราวกับอสูรร้ายโบราณที่กินอิ่มแปล้ แผ่กลิ่นอายเผด็จการที่ปานจะกลืนกินกาลนิรันดร์
“เจ้า…”
นัยน์ตาอูเหิงไห่ขยายกว้าง แทบไม่กล้าเชื่อ นี่ยังเป็นพลังที่ผู้แข็งแกร่งระดับอริยะแท้คนหนึ่งจะมีได้อยู่อีกหรือ
หรือภายในร่างของเจ้าหมอนี่จะมีหลุมดำไร้สิ้นสุดอยู่จริงๆ กันแน่
เปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญมรรคคนอื่นๆ กล้าใช้กำลังชิงการโจมตีผู้อื่นเช่นนี้ เกรงว่าคงถูกสังหารเหลือแต่ซากตั้งนานแล้ว
แต่หลินสวิน…
ปลอดภัยไร้อันตราย!
ยามนี้ไม่เพียงอูเหิงไห่ ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองพวกนั้นล้วนตะลึงงัน ทั้งกายใจไหวสะท้าน ยากจะเข้าใจได้
“มาอีก”
หลินสวินคล้ายยังไม่สาแก่ใจ นัยน์ตาลุ่มลึกเยียบเย็นจับจ้องอูเหิงไห่
ส่วนภายในกายของเขา พลังโจมตีทั้งหมดที่กลืนกินไปก่อนหน้านี้ล้วนกลายเป็นพลังเดือดพล่านอย่างหนึ่ง โหมกระหน่ำอยู่ในหุบเหวใหญ่ที่วิวัฒน์จากคัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด
ความรู้สึกนั้นอัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูก
เสมือนหุบเหวใหญ่ไร้สิ้นสุด และกลืนกินพลังทุกอย่างในแถบนี้จนหมด!
นี่ก็คือมรรคที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ทิ้งเอาไว้!
กลืนกินฟ้าดิน ช่วงชิงอานุภาพยิ่งใหญ่โดยรอบมาใช้ประโยชน์แก่ตน กายข้าไร้จำกัด วิชาข้าไร้สิ้นสุด!
ก่อนหน้านี้ก็เพราะอาศัยมรรควิถีระดับนี้ ทำให้เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์อาละวาดทั่วหล้า มีชัยเหนือยักษ์ใหญ่อย่างระดับจักพรรดิไม่รู้เท่าไหร่
หลินสวินในยามนี้เพิ่งถือได้ว่าอยู่ในระดับขั้นต้นสำรวจมรรคเท่านั้น หาไม่แค่ความคิดขยับไหวก็สามารถฉีกทึ้งกลืนกินมหาอริยะอย่างอูเหิงไห่นี่ได้ในชั่วพริบตาแล้ว!
“ตาย!”
อูเหิงไห่บันดาลโทสะ ปั้นหน้าไม่อยู่แล้ว ส่งเสียงคำรามสายหนึ่ง เพียงชั่ววูบเท่านั้นก็สำแดงทักษะก้นกรุออกมา
ตูม!
มีรูปจำลองเงามายาอีกาทองขนาดมหึมา ยาวพันจั้งเต็มๆ ตัวหนึ่งปรากฏด้านหลังอูเหิงไห่ ทำให้อานุภาพของเขาพลอยแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อักโข
เขาพุ่งโจมตีออกไปอีกครั้ง ไม่ได้ออมมือแต่อย่างใด!
เพียงแต่กลับต้องเสียแรงเปล่า
เพียงชั่วครู่สีหน้าเขาก็เกือบเปลี่ยนเป็นแปลกพิลึกหาใดเปรียบ และเคร่งขรึมอย่างที่สุด เพราะไม่ว่าพลังของเขาจะแข็งแกร่งปานใด อานุภาพจะแกล้วกล้าแค่ไหน ล้วนไม่อาจสั่นคลอนหลินสวินได้สักเสี้ยว
ตรงข้ามกลับถูกหลินสวินโคจรหุบเหวใหญ่ กลืนกินพลังโจมตีทั้งหมดของเขาไปสิ้น
ความเผด็จการไร้ทัดเทียมระดับนั้น ทำให้ในลานจมสู่ภวังค์เงียบสงัด ไม่รู้มีคนปากอ้าตาค้าง สูดหายใจเฮือกมากมายแค่ไหน
นี่…
ยังเป็นคนอยู่หรือไม่
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
อูเหิงไห่คำราม เขาแทบตาถลน ยากจะทำใจยอมรับ ฝึกปราณจนป่านนี้เขายังไม่เคยเผชิญความคับแค้นใจเช่นนี้มาก่อน ถึงขั้นทำเอาเขาใจสะท้าน
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าอะไรที่เรียกว่ามกุฎ”
ในที่สุดหลินสวินก็เริ่มเป็นฝ่ายลงมือก่อน เหยียบย่างกลางอากาศเดินไปเบื้องหน้า กลิ่นอายน่าสะพรึงดุจหุบเหว ฟ้าดินล้วนสะเทือนตามไปด้วย
อูเหิงไห่สีหน้ามืดทะมึน “ต่อให้เป็นมกุฎอริยะแท้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีฝีมือระดับนี้!”
“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ อะไรที่เรียกว่ามกุฎสร้างวิชาไร้ศัตรู”
หลินสวินสงบนิ่งไม่ไหวหวั่น แต่ละก้าวที่เดินออกไป กลิ่นอายรอบตัวก็พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ ดูคล้ายเชื่องช้าแต่ความจริงพลังทั้งหมดล้วนแผ่ครอบสี่ทิศแปดทาง กักขังอูเหิงไห่ไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
“มกุฎสร้างวิชาไร้ศัตรูหรือ”
อูเหิงไห่อึ้งไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์