Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1678

สรุปบท ตอนที่ 1678 อานุภาพแห่งไร้แก่นสาร: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1678 อานุภาพแห่งไร้แก่นสาร จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1678 อานุภาพแห่งไร้แก่นสาร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ในลานเงียบสงัด บรรยากาศกดดัน

สีหน้าผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองแต่ละคนล้วนฉายแววมืดทะมึน บ้างเดือดดาล บ้างหวาดหวั่น บ้างเหยเก มากมายหลากหลาย

การต่อสู้ศึกแรก อูเหิงไห่ที่ถูกขนานนามว่า ‘มหาอริยะนักเชือดอันดับหนึ่งในรอบแปดร้อยปี’ ตายไป ถูกนิ้วเดียวสังหาร

ส่วนการต่อสู้ครั้งที่สองนี้ อูเหิงเจิ้นที่ถูกมองเป็นมหาอริยะขั้นสัมบรณ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าอีกาทองก็ตายเช่นเดียวกัน ตายภายใต้อสนีเคราะห์ที่พิสดารครั้งหนึ่ง

นี่ก็เหมือนการโจมตีอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ในใจทุกคนรวมถึงอูเจิ้นเทียนล้วนหลั่งเลือด โกรธเกรี้ยวเดือดดาลมากขึ้น

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร

มกุฎอริยะแท้คนหนึ่ง เดิมคิดว่าส่งระดับมหาอริยะออกไปก็สามารถฆ่าเขาได้ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ใครจะคิดว่ากลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันซ้ำๆ!

เวลานี้หลินสวินยืนนิ่งกลางห้วงอากาศ เงาร่างมีระลอกคลื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของระดับมหาอริยะไหลเวียน ยิ่งใหญ่ประหนึ่งไร้ขอบเขต

มองจากภายนอกเพียงอย่างเดียว ยากจะจินตนาการว่าในร่างเขาจะถึงกับมีมหาเคราะห์แห่งยุคซุกซ่อนอยู่!

นี่สามารถทำให้ผู้บำเพ็ญมรรคคนใดก็ตามต่างกริ่งเกรง

“เดิมคิดว่าการต่อสู้เช่นนี้ไม่ยุติธรรมยิ่งนัก ไหนเลยจะคิดว่าตอนสุดท้ายกลับเป็นหลินสวินที่รบทุกครั้งชนะทุกครั้ง ช่างเป็นผลกรรมที่สาสมจริงๆ”

เซ่าเฮ่าทอดถอนใจ คำพูดเจือแววเย้ยหยันเผ่าอีกาทอง

แรกเริ่มอูเหิงเทียนกริ่งเกรงขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังมกุฎอริยะแท้อย่างพวกเขา จึงเสนอวิธีต่อสู้ที่ไร้ยางอายเช่นนี้ขึ้นมา

แต่พอสุดท้าย ไม่ใช่ว่าถูกหลินสวินฆ่าสัตว์ประหลาดเฒ่าสองคนต่อเนื่องกันหรือ

ควรรู้ว่าระดับมหาอริยะไม่ใช่คนธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกร้ายกาจอย่างอูเหิงไห่ อูเหิงเจิ้น ในดินแดนรกร้างโบราณล้วนมีพลังน่าเกรงขามทรงอิทธิพลยิ่งใหญ่

แต่ยามนี้ล้วนตายในมือหลินสวิน นี่สำหรับเผ่าอีกาทองแล้ว เท่ากับขโมยไก่ไม่ได้ซ้ำยังเสียข้าวสารอีกกำมือ ถูกโจมตีหนักหน่วง!

ได้ยินเช่นนี้พวกรั่วอู หมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอต่างอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

“เจ้าเฒ่า ควรสู้รอบที่สามแล้ว”

เวลานี้เสียงเรียบเฉยของหลินสวินทำลายความเงียบกริบในลาน และทำให้สีหน้าของอูเหิงเทียนเปลี่ยนเป็นอึมครึมด้วยเช่นกัน

อูเหิงเจิ้นซึ่งเป็นระดับมหาอริยะขั้นสัมบูรณ์ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา หรือว่า… ต้องเชิญเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับราชันอริยะออกมาจริงๆ ถึงจะได้ผล

“แย่แล้ว เจ้าเฒ่านี่คงจะไม่ได้คิดจะเชิญราชันอริยะออกมาลงมือกระมัง”

จู่ๆ เจ้าคางคกก็หน้าเปลี่ยนสีโพล่งขึ้นมา

เวลาไล่เลี่ยกันคนอื่นๆ ก็สีหน้าแปรเปลี่ยนน้อยๆ เดาได้ถึงความเป็นไปได้นี้

หากเป็นเช่นนี้จริง ก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!

ราชันอริยะคืออะไร

ควบคุม ‘เขตแดนแห่งมรรค’ ควบรวม ‘กฎเกณฑ์ผูกโลก’ เป็นราชันในหมู่อริยะ อยู่เหนือเหล่าอริยะ!

ผู้แข็งแกร่งระดับมหาอริยะ อยู่ต่อหน้าราชันอริยะยังไม่น่าดูสักนิด ห่างชั้นเกินไป ประหนึ่งความแตกต่างระหว่างชั้นเมฆกับโคลนตม

ใครต่างก็รู้ดี การตายของอูเหิงเจิ้นหมายความว่า ในระดับมหาอริยะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้อีก

และหากต้องการคว้าชัยชนะในการต่อสู้รอบที่สาม เผ่าอีกาทองก็มีทางเดียวให้เลือก

เชิญราชันอริยะออกมา!

หากเป็นเช่นนี้ แม้หลินสวินจะก้าวสู่มกุฎมหาอริยะแล้ว และแม้ว่าภายในกายจะมีอสนีเคราะห์แห่งยุคอยู่ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้านราชันอริยะซึ่งควบคุม ‘เขตแดนแห่งมรรค’

นี่เป็นเรื่องทั่วไปที่คนทั้งโลกต่างรู้กัน

ดังคาด ครู่ต่อมาก็เห็นอูเหิงเทียนกัดฟันอย่างแรง กล่าวเน้นถ้อยคำ “ใครก็ได้ ไปเชิญผู้อาวุโสอูหยาจื่อ!”

เสียงเพิ่งสิ้นสุด ในลานก็มีเสียงถอนใจยาวเฮือกหนึ่งดังลอยเข้ามา “ข้ามาแล้ว เพียงแต่สุดท้ายก็มาช้าไปก้าวหนึ่ง ไม่อาจช่วยเหิงเจิ้นไว้ได้…”

ชายชราผมเคราดุจหิมะ เงาร่างผอมแห้ง นัยน์ตาลึกล้ำคนหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศอย่างเงียบๆ

เขาสวมชุดคลุมดำ ดูเหมือนแก่หง่อมอย่างมาก แต่ทันทีที่ปรากฏตัวกลับมีอานุภาพของนายเหนือหัวครอบครองโลก

คล้ายราชันผู้ปกครองจักรวาล ปากคาบสุริยันจันทรา!

“คารวะผู้อาวุโส!”

ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองทั้งหมดรวมถึงอูเหิงเทียนต่างไม่มีใครไม่ก้มหัวคารวะ สีหน้าเคารพเลื่อมใส

อูหยาจื่อ นี่เป็นถึงหนึ่งในเสาหลักที่คอยดูแลหุบเขาตะวันคล้อย ราชันอริยะที่มีชีวิตอยู่ไม่รู้กี่กาลเวลา!

ภายใต้สถานการณ์ที่กึ่งจักรพรรดิในโลกล้วนประจำการอยู่ที่สนามรบแนวหน้า บุคคลอย่างราชันอริยะก็เรียกได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนรกร้างโบราณแล้ว

ขุมอำนาจแห่งหนึ่ง หากมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ดูแล ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกขุมอำนาจอื่นใดมาข่มขวัญ!

พวกเจ้าคางคก อาหลู่ต่างหนักอึ้งในใจ สุดท้ายเรื่องเลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ราชันอริยะคนหนึ่ง เพียงพอจะเหยียบระดับอริยะคนใดก็ได้!

บนเวิ้งฟ้าแววตาหลินสวินยิ่งลุ่มลึกมากขึ้น

เขาเดาได้แต่แรกแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ จึงไม่ได้ลนลาน หนำซ้ำตอนที่อยู่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ เขาก็เคยเห็นคนใหญ่คนโตระดับกึ่งจักรพรรดิมามากแล้ว

ส่วนราชันอริยะ ยิ่งเห็นบ่อยจนไม่แปลกใหม่

แต่เคยเห็นก็ส่วนเคยเห็น หากลงมือจริงๆ หลินสวินก็รู้สึกถึงอุปสรรคได้ถึงความยากลำบากและความกดดันมหาศาล

เขาเพิ่งบรรลุระดับมกุฎมหาอริยะ พลังยังไม่มั่นคงโดยสมบูรณ์ การควบคุมพลังในระดับนี้ก็ยังไม่ได้ผสานเข้ากันอย่างแท้จริง

สิ่งเดียวที่พอจะพึ่งพาได้ อาจมีแค่อสนีเคราะห์ภายในร่างเท่านั้น

แต่สำหรับราชันอริยะ พิบัติเคราะห์ที่พุ่งเป้าไปยังระดับมกุฎมหาอริยะนี้ ย่อมไม่ใช่ภัยคุกคามยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

“เรื่องวุ่นวายนี้ควรจบลงได้แล้ว”

อูหยาจื่อถอนใจเบาๆ เงาร่างพลันปรากฏอยู่เหนือเวิ้งฟ้าสูง ประหนึ่งราชันในหมู่อริยะมาเยือนโลก

ฟ้าดินพลันเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดหาใดเปรียบ อานุภาพไร้รูปก็คละคลุ้งแผ่กว้างฉับพลัน

ทุกคนในลานล้วนมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง…

ราชันเยือนใต้หล้า!

ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองที่พลังยังอ่อนแอบางส่วนล้วนรู้สึกอยากคุกเข่ากราบกราน ก้มหัวยอมจำนน

นี่ก็คืออานุภาพของราชันอริยะ!

อย่าว่าแต่ในสายตาคนทั่วไป แม้แต่ในสายตาของมหายุทธ์ห้าระดับใหญ่หรือระดับสังสารวัฏ ราชันอริยะก็ไม่ต่างจาก ‘ทวยเทพ’ ในตำนาน

ส่วนสำหรับพวกเจ้าคางคก อาหลู่ เซ่าเฮ่าแล้ว อานุภาพของอูหยาจื่อก็น่าสะพรึงอย่างที่สุดเช่นเดียวกัน ทำเอาร่างกายพวกเขาล้วนแข็งทื่อ ขนลุกขนพอง

นี่คือความกดดันเด็ดขาดแห่งระดับพลัง!

และเวลานี้ หลินสวินพุ่งโจมตีแต่แรกโดยไม่ลังเล

เพราะในเขตแดนแห่งมรรค ราชันอริยะก็คือนายเหนือหัวสูงสุด มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย

ผึง!

ในเวลาเดียวกันนั้น หลินสวินยิงศรดอกหนึ่งออกไป

ศรเดียว กลับคล้ายทะลุผ่านกาลนิรันดร์ เปิดทำลายพันธนาการทั้งปวง ประกายคมที่กร้าวแกร่งไร้เทียมทานนั่น ทำให้กลางฟ้าดินเกิดเสียงแหลมบาดหูดังสะท้อน

มันคมกริบ เผด็จการ และดุดันเกินไป เพียงพริบตาเดียวก็กรีดทึ้งเขตแดนเพลิงเทพสีทองนั่นออกเป็นรู ราวกับไม่อาจหยุดยั้งได้

ตูม!

อูหยาจื่อไม่ทันป้องกัน ถึงกับถูกศรแล่นปาดไหล่ เลือดสาดกระเซ็น กระดูกไหล่ระเบิดกระจาย ร่างถูกซัดสะเทือนจนซวนเซถอยกรูด

ในลานเงียบกริบ ทุกคนล้วนอึ้งตาค้าง

นี่เพิ่งเริ่มต่อสู้ อูหยาจื่อในฐานะราชันอริยะถึงกับถูกศรเดียวโจมตีบาดเจ็บแล้วหรือ

“นี่ไม่ใช่พลังของเจ้า!”

บนห้วงอากาศ อูหยาจื่อสีหน้าคล้ำเขียว คล้ายตระหนักอะไรขึ้นมาได้

หลินสวินสีหน้าเย็นเยียบ ง้างธนูอีกครั้งอย่างไม่ลังเล

ผึง!

ศรนิรันดร์ส่งเสียงหวีดพุ่งออกไป พลังแกร่งกร้าวดุดันยิ่งขึ้น ทำเอาฟ้าดินปั่นป่วน เสียงพายุสายฟ้าเดือดพล่านปานเทพมารคำรามก้อง

อูหยาจื่อส่งเสียงตวาดลั่น เขตแดนแห่งมรรคปรากฏขึ้น ทว่าแค่พริบตาเดียวก็ถูกโจมตีทะลุเหมือนกระดาษเปื่อย

เขาหน้าเปลี่ยนสี เบื้องหน้าปรากฏเกราะเทพรางเลือนขึ้นมา

ปัง!

ครู่ต่อมาเกราะที่สร้างขึ้นจากหินเทพอัคคีนี้ก็ถูกโจมตีจนเละ ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยสาดกระเซ็น

อูหยาจื่อกระอักเลือดอย่างหนัก ใบหน้าชราล้วนขาวซีด ถึงเขาจะต้านศรนี้ได้ แต่ก็ยังถูกซัดบาดเจ็บอยู่ดี

“ที่แท้เป็นเจ้ามารบาปอย่างเจ้านี่เอง!”

อูหยาจื่อตาแทบถลน ส่งเสียงคำรามลั่น

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งเหยียบย่างมกุฎมหาอริยะ ต่อให้มีธนูวิญญาณไร้แก่นสารและศรนภาคราม ก็เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะทำร้ายตนจนบาดเจ็บ

เว้นแต่จะมีคนคอยช่วยเขาอยู่ลับๆ!

และพริบตานั้นอูหยาจื่อก็นึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา เจ้ามารบาปที่ถูกกำราบไว้ใต้ต้นเทพฝูซางมาตลอดคนนั้น!

ในลาน ทุกคนล้วนตกใจและแตกตื่น

พวกเจ้าคางคก อาหลู่ เซ่าเฮ่า หมีเหิงเจินต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาเดาได้ตั้งแต่ต้น ว่าในเมื่อหลินสวินกล้ามาหุบเขาตะวันคล้อย ย่อมต้องมีการเตรียมพร้อมอย่างแน่นอน

เพียงแต่ยามที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้จริงๆ ก็ยังคงร้องอุทานอย่างเลี่ยงไม่ได้

การต่อสู้รอบที่สามนี้ ราชันอริยะอูหยาจื่อออกโรงลงมือเองแล้ว น่ากลัวปานใด แต่ทันทีที่สู้กันกลับพ่ายแพ้ติดๆ นี่เห็นได้ชัดว่าไม่น่าเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย

และเมื่อได้ยินคำพูดของอูหยาจื่อ เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองอย่างพวกอูเหิงเทียนก็คล้ายตระหนักถึงอะไรขึ้นมา สีหน้าล้วนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

สมควรตาย!

หรือว่าเจ้ามารบาปนั่นหลุดออกมาแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์