หุบเขาตะวันคล้อย
ดูคล้ายหุบเขาแห่งหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงภายในนั้นก็เหมือนโลกขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
ภายในโลกแห่งนี้ ต้นไม้ใบหญ้าล้วนเป็นสีทองอร่าม เพลิงหลอมทองหลั่ง ภูผาธาราลุกโหม มีหินหนืดพวยพุ่งจากฟากฟ้าให้เห็นทุกแห่งหน
อาคารเก่าแก่สีทองหลายหลังตั้งตระหง่านเรียงราย ลอยแขวนกลางห้วงอากาศ อีกาทองตัวแล้วตัวเล่าสยายปีกมหึมา โผบินกลางฟ้าดิน
นี่ก็คือรังของเผ่าอีกาทอง คงอยู่มาจนปัจจุบันนับตั้งแต่ดึกดำบรรพ์เป็นต้นมา รากฐานแข็งแกร่งจนน่ากลัว
แต่ในวันนี้กลับมีความโกลาหลปะทุขึ้น
โครมครืน!
เสียงดังกระหึ่มระลอกแล้วระลอกเล่าดังสะเทือนหู ทำให้โลกเล็กๆ นี้สั่นสะเทือน ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองมากมายล้วนถูกทำให้แตกตื่น
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“รีบไปดูเร็ว!”
เสียงอุทานแตกตื่นดังขึ้นสี่ทิศ เงาร่างไม่รู้เท่าไหร่พุ่งกรูออกมาจากพื้นที่ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกคนรุ่นหลัง บริวาร สาวใช้ของเผ่าอีกาทอง
“สวรรค์! เป็นเคราะห์สวรรค์!”
“นะ นี่… เป็นไปได้อย่างไร?”
ไม่นานผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองมากมายต่างมองเห็น บริเวณปากทางเข้าหุบเขาตะวันคล้อย มหาเคราะห์ไพศาลที่ไหลร่วงดุจน้ำตกแผ่ครอบฟ้าดินมาเยือน
ทุกที่ที่กวาดผ่านล้วนมีอสนีเคราะห์ที่เหมือนน้ำทะลักกระหน่ำลงมา คดเคี้ยวดุจมังกร เจิดจ้าลุกโชน วิวัฒน์เป็นรูปร่างแปลกประหลาดต่างๆ นานา
ภาพสะท้านสะเทือนเช่นนี้ทำให้ทุกคนล้วนสั่นเทิ้ม เบิกตากว้าง ประหนึ่งมหาพิบัติวันสิ้นโลกมาเยือน
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”
คนมากมายต่างสะพรึงกลัว รู้สึกคับข้องใจ
ที่นี่เป็นถึงหุบเขาตะวันคล้อย เป็นอาณาเขตของพวกเขาเผ่าอีกาทอง ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดเป็นต้นมา เคยเกิดเรื่องน่ากลัวเช่นนี้เสียเมื่อไหร่
ทอดสายตามองทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณ ใครจะกล้ามุ่งหน้ามาบุกรุก
ไม่มี!
ดังนั้นเมื่อเห็นเคราะห์มหึมาเช่นนี้มาโจมตี ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองที่อยู่ภายในหุบเขาตะวันคล้อยมาทุกยุคทุกสมัยเหล่านี้จึงล้วนรู้สึกไม่อยากเชื่อ
“หัวหน้าเผ่าล่ะ ผู้อาวุโสพวกนั้นล่ะ เหตุใดพวกเขาจึงไม่ขวางไว้”
มีคนตะโกน
นั่นสิ พิบัติเคราะห์ไพศาลระดับนี้มาเยือน สัตว์ประหลาดเฒ่าในเผ่าพวกนั้นจะไม่รู้สึกถึงสักนิดเชียวหรือ
“เร็วเข้า! เปิดผนึกอริยะ!”
มีผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสส่งเสียงตะโกนลั่น
แต่คนส่วนใหญ่กลับลนลานหนีตาย โกลาหลไม่เป็นขบวน เพราะอสนีเคราะห์ที่พลิกม้วนมานั่นประหนึ่งพายุสายฟ้า
โครมครืน!
นี่เป็นถึงเคราะห์แห่งมหาอริยะที่พุ่งเป้าเล่นงานบุคคลขอบเขตมกุฎอย่างหลินสวิน สามารถกวาดสังหารระดับมหาอริยะขั้นสัมบูรณ์อย่างอูเหิงเจิ้นได้ นับประสาอะไรกับคนอื่นๆ เล่า
ชั่วขณะเดียว พร้อมๆ กับการเคลื่อนย้ายของอสนีเคราะห์ ในหุบเขาตะวันคล้อยไม่รู้มีผู้แข็งแกร่งถูกสังหารไปเท่าไหร่ วิญญาณแตกซ่าน
อาคาร เนินเขา ต้นไม้ใบหญ้า ทางเดิน สวนโอสถแต่ละแห่ง… ล้วนสลายไปภายใต้อสนีเคราะห์โหมคลั่ง
เสียงร้องคร่ำครวญ โหยไห้ วิงวอน ตกใจหวาดผวาต่างๆ ยิ่งดังก้องในไม่รู้สิ้น
ฟ้าดินสั่นสะเทือน ปรากฏภาพการทำลายล้างครั้งใหญ่!
ยามนี้อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองธรรมดาทั่วไปเลย ต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่เหยียบย่างระดับอริยะก็ยังไม่มีใครไม่ขวัญหนีดีฝ่อ
ส่วนอูเหิงเทียนเล่า
เขาก็เผ่นหนีเช่นกัน นำคนใหญ่คนโตของเผ่าอีกาทองกลุ่มหนึ่งเร่งความเร็วมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้องห้ามที่ต้นเทพฝูซางตั้งอยู่
ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาไม่อาจไปใส่ใจสักนิด!
ตอนนี้อูหยาจื่อตายแล้ว นั่นเท่ากับเผ่าอีกาทองสูญเสียเสาหลักไปหนึ่งคน ส่วนสองราชันอริยะอย่างอูเฟิงจื่อ อูหลิงจื่อ ล้วนกำลังกำราบเจ้ามารบาปคนนั้นที่หน้าต้นเทพฝูซาง
ก็มีแต่หนีไปถึงที่นั่นจึงจะมีหวังพลิกสถานการณ์!
…
เบื้องหลังหลินสวินบังคับอสนีเคราะห์ กระตุ้นไม่ลดละ
เขาเหมือนเป็นเทพแห่งการทำลายล้าง ตลอดทางมีทัณฑ์อสนีกว้างใหญ่ติดตาม ทำลายล้างผู้แข็งแกร่งและสิ่งมีชีวิตเผ่าอีกาทองไม่รู้เท่าไหร่
ผนึกอริยะหลายชั้นปรากฏขึ้น แกร่งกร้าวครัดเคร่ง แต่อยู่ต่อหน้าหลินสวินก็อ่อนแอดุจกระดาษเปื่อย ถูกอสนีเคราะห์ผ่าทลายบดขยี้ ย่อยยับไปภายใต้เสียงก้องกระหึ่มเป็นระลอก
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หลินสวินในเวลานี้ประดับอานุภาพแห่งเคราะห์สวรรค์ ประหนึ่งเทพสวรรค์กรำศึก!
ด้านหลังเขา พวกเจ้าคางคก อาหลู่ เซ่าเฮ่าที่ไล่ตามมาติดๆ พอเห็นเช่นนี้ล้วนเลือดลมพลุ่งพล่าน สะท้านสะเทือนอย่างบอกไม่ถูก
ระหว่างนั้นเสมือนย้อนกลับไปกรำศึกในสมรภูมิเก้าดินแดน!
“ฆ่า!”
อาหลู่ตะโกนลั่น ถือกระบองเหล็กท่อนหนึ่งพุ่งพรวดออกไป กลิ่นอายกลืนภูผาธารา
ตูม!
ทันทีที่กระบองหวดลง อีกาทองที่หนีไม่ทันส่วนหนึ่งก็ถูกกระแทกกลายเป็นโคลนเนื้อทั้งอย่างนั้น ผืนดินล้วนถูกซัดแตก
“เรื่องบันเทิงเช่นนี้ จะขาดข้าจินตู๋อีไปได้อย่างไร”
เจ้าคางคกเลียริมฝีปาก เสียงฟุ่บดังขึ้น เคลื่อนผ่านห้วงอากาศ กลืนตะวันคายจันทรา พลังต่อสู้กร้าวแกร่งอย่างที่สุด
“ฮ่าๆๆ ทุกคน ถึงตาพวกเราลงมือแล้ว อย่าได้ถูกเจ้าหลินสวินนี่เอาหน้าไปคนเดียวเด็ดขาด!”
เซ่าเฮ่าหัวเราะลั่น ย่างเท้าทะยานขึ้นไป
ที่ตามมาติดๆ คือมกุฎอริยะแท้อย่างพวกรั่วอู เซี่ยวชางเทียน เยี่ยเฉิน เยวี่ยเจี้ยนหมิง ชื่อหลิงเซียว หยวนฝ่าเทียน ราชันเผิงปีกทองน้อย ทุกคนต่างบุกโจมตี
ระดับอริยะแท้ อยู่ในดินแดนรกร้างโบราณยังเรียกได้ว่าเป็นคนที่เผด็จการกร้าวแกร่ง นับประสาอะไรกับมกุฎอริยะแท้ทั้งกลุ่มที่ผ่านการต่อสู้ดุเดือดอย่างสมรภูมิเก้าดินแดน
ชั่วขณะเดียวก็เห็นในหุบเขาตะวันคล้อยปราณกระบี่ดุจสายรุ้ง เสียงดาบครวญคำราม วิชามรรคมากมายพาดขวาง ไหลหลั่งดุจธารสมบัติพร่างพราว
โลกเล็กสีทองที่กว้างใหญ่ ทุกที่ล้วนโกลาหล สะท้านสะเทือนและนองเลือด!
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์